ในบ้านทุกบ้านมีกติกา

อยู่ดีไม่ว่าดี

นอกจาก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ขุดงานศพพ่อขึ้นมาเพื่อหาเสียง แต่ถูกแฉยับว่าทุกเรื่องที่พูด ล้วนโกหกคำโต..

จนสองนักร้องคนดัง คุณเรืองไกร-คุณศรีสุวรรณ เข้ายื่นหลักฐานขอให้ กกต.ตรวจสอบ เข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) หรือไม่ แล้ว

อีกคน.. “ครูสอนดำน้ำ” คงนึกว่าเท่กระมังถึงได้โพสต์..ถูกปลาวัวไททันกัดเข้าที่ขา บริเวณเกาะร้านเป็ด และได้ฆ่าปลาตัวนั้น อ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ปลาไปกัดผู้อื่นอีก

แต่แทนที่สังคม-ชาวเน็ตจะยกย่องเป็น “ผู้กล้า” สังหารปลาเพื่อป้องกันไม่ให้ไปกัดผู้อื่น กลับพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนต้องออกมาขอโทษ-ขอโพยเสียยกใหญ่!

ซึ่งหนึ่งในผู้วิจารณ์ที่ฟัง (อ่าน) แล้วให้นึกชื่นชม ก็เห็นจะเป็น ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ที่ได้โพสต์..

“การท่องเที่ยวทางทะเลคือการลงไปในทะเล ลงไปในบ้านของพวกเธอ มิใช่บ้านของพวกเรา ในบ้านทุกบ้านมีกติกา

พฤติกรรมก้าวร้าวของสัตว์น้ำมีที่มา มีการหวงรัง/หวงพื้นที่ มีการดูแลปกป้องที่อยู่และให้กำเนิดลูกน้อย

หากเราไม่สามารถรับกติกาในบ้านคนอื่นเราไม่ควรไปเยี่ยมเยือนบ้านของพวกเธอ ยังมีที่อื่นๆ อีกมากที่มนุษย์เป็นคนกำหนดกติกา เราเลือกไปในที่เหล่านั้นได้

ทราบว่าเจ้าหน้าที่/ผู้เกี่ยวข้องรู้เรื่องแล้ว หวังว่าจะมีการดำเนินการที่เหมาะสมในไม่ช้าครับ”

ครับ..สุภาพด้วยภาษา ตำหนิติติง-แนะนำด้วยเหตุและผล นี่ก็ต้องพูดว่า หาเรื่องใส่ตัวคนเดียวไม่พอ ยังจะพลอยทำให้ผู้ประกอบการบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนไปด้วยโดยแท้!

เออ..ผมได้ชื่อเป็นคนชอบกินปลาจนแมวค้อนก็จริง แต่กับเจ้าปลาวัวไททันอะไรนี่ สารภาพเลยว่าไม่เคยกินและไม่เคยเห็น

ก็ได้ความรู้จากคุณอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนี่แหละ ที่ได้อธิบายว่า..

 “ปลาวัวไททัน เป็นปลาที่พบได้ทั่วไปในแนวปะการังในมหาสมุทรเขตร้อน และเขตอบอุ่นของอินโด-แปซิฟิก ในน่านน้ำไทยเป็นปลาที่พบได้บ่อย และพบได้ทั้ง 2 ฝั่ง

คือ ฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย กินสัตว์น้ำหน้าดิน และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กเป็นอาหาร

จากการวิจัยพบว่ามีขนาดใหญ่สุดประมาณ 75 cm ส่วนแหล่งที่อยู่อาศัย ชอบอาศัยอยู่บริเวณขอบแนวปะการังและกองหินใต้น้ำ

และจะทำรังตามพื้นทรายใกล้กับแนวปะการังหรือกองหินใต้น้ำ ลักษณะของรังจะทำเป็นหลุมคล้ายๆ กับแอ่งกระทะ (ลักษณะเหมือนหลุมปลานิล)

ด้านพฤติกรรมนั้น เป็นปลาที่มีนิสัยหวงถิ่น และจะมีนิสัยก้าวร้าวเมื่อเข้าใกล้บริเวณที่เป็นอาณาเขตของมัน มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ

เนื่องจากเป็นปลาที่กินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง รวมถึงตัวอ่อนของเม่นทะเลและตัวอ่อนของดาวมงกุฎหนามซึ่งเป็นผู้ล่าของปะการัง

ปลาวัวไททันจึงมีประโยชน์ ในแง่ของการควบคุมสัตว์ในกลุ่มนี้ให้อยู่ในภาวะสมดุล

นอกจากนี้ยังรวมถึงการควบคุมสัตว์จำพวกหอย และหนอนท่อที่เจาะตามก้อนปะการัง ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยคุกคามสุขภาพปะการังได้อีกด้วย

ดังนั้น หากระบบนิเวศแนวปะการังขาดปลาวัวไททัน อาจทำให้มีศัตรูคุกคามปะการังมากขึ้นจนขาดภาวะสมดุล”

รู้คุณประโยชน์ของเจ้าวัวไททันแล้ว ก็อย่าได้คิดลองลิ้มอร่อยรส และไม่ต้องไปคิดปกป้องคนกลัวว่ามันจะกง-จะกัดอีกล่ะ

จงจำไว้..ในบ้านทุกบ้านมีกติกา ถ้ารู้ว่าไม่สามารถทำตามกติกาบ้านคนอื่นได้ ก็อย่าไปข้องแวะเสียก็แล้วกัน

เช่นกัน..ถ้าคิดว่ากติกาการเลือกตั้งยังไม่สมบูรณ์-ยังไม่เป็นประชาธิปไตย จะเว้นวรรคเสียก่อนก็ได้..

มีใครเอาปืนจี้หัวบังคับให้เป็น ส.ส.เสียที่ไหน..หือ??.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ดิสนีย์แลนด์’..ฝันเก้อ?

แก้วตา...หันมาฟังพี่จะบอก เจ้าจงตั้งใจฟังไว้ให้ดี.. คืองี้..เหตุที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร มีมติไม่ส่งคุณธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ “แก้วตา” ลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ ต่อนั้น..

เหลือไว้ความทรงจำ

สงครามมาพร้อมกับ “ซีเกมส์” แต่ด้วย “ซีเกมส์” เป็นการแข่งขันกีฬาของมวลมนุษยชาติที่จัดกันมาต่อเนื่องจนถึงครั้งที่ 33 ในปีนี้-2568

กาเหว่าที่บางเพลง

“มีผู้อ่านบางคนเข้าใจว่าผมจะได้มีความคิดทางการเมืองหรือทางอื่นๆ แอบแฝงไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพื่อจะได้ชี้ให้ผู้อ่านเห็นในสิ่งที่ผมเห็นหรือคิดในสิ่งที่ผมคิด

‘ตอแหล’ ได้โล่!

“หน้าที่เรา รักษา สืบไป” เมื่อ..นายกฯ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ปลุกใจอย่างนี้ มีหรือที่คนไทยจะอยู่เฉย โดยเฉพาะ “กองทัพ” เหล่าทหารกล้า ก็ได้เปิดฉากแสดงศักดาแสนยานุภาพไปแล้วหลายชุด

‘พีระพันธุ์’ เปลี่ยนไป

“ผมพร้อมมานานแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ อย่างจริงจัง ใครที่ทนกับสิ่งยั่วยุไม่ได้ หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เชิญออกไป ใครพร้อมเป็นลูกน้องนายทุน เชิญออกไป

ใครที่เดือดร้อน?

แรกเห็น-แรกอ่าน.. ก็..คิดเอาว่าเป็นใครก็ไม่รู้เขียน เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นถ้อยคำจาก “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์คนดัง ซึ่งผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะได้ผ่านตา