Elizabeth Holmes...สูงสุดสู่สามัญ…(ภาค 1)

7 วันผ่านมากับการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ฝ่ายหนึ่งยังทำใจไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งดีใจและมีความหวัง แต่กลุ่มคนที่รู้สึกท้อแท้ รู้สึกมึนงง รู้สึกหมดกำลังใจ คือผู้สมัคร (ผู้ที่ตั้งใจทำงานจริงๆ) ที่สอบตกกันครับ ผมไม่มีอะไรที่เหนือไปกว่าส่งกำลังใจให้ เพราะผมเข้าใจความรู้สึก ยิ่งผู้สมัครที่ตั้งใจทำงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่มีตำแหน่งในพื้นที่และไม่มีตำแหน่งในพื้นที่ พอสอบตก มันท้อใจมาก

    ยิ่งเวลาเจอบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ…หลังผลออกมา… ออกมาวิเคราะห์ วิจารณ์ เผยแพร่ความ “เชี่ยวชาญ” ของตนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยพูดถึงผู้สมัครทุกรายเหมือนเป็นแค่สินค้าหรือตัวเลข

ไม่คำนึงถึงความเป็นคนของผู้สมัคร เห็นใจจริงๆ ครับ และย้ำอีกรอบหนึ่งว่า ผมเป็นกำลังใจให้ทุกคน เพราะผมรู้ว่ามันท้อขนาดไหน

เอาเถอะครับ พูดไปก็เท่านั้น มนุษย์เรายกย่องผู้ชนะ และเขี่ยผู้แพ้ออกไป อันนั้นเป็นเรื่องปกติและเป็นความจริงของโลก สำหรับผู้ชนะ สำหรับผู้ที่มีแววชนะ โลกทั้งใบจะหมุนรอบเขา และเขาจับอะไรก็เป็นทอง ไม่ว่าจะอยู่ในโลกการเมือง หรือโลกธุรกิจ ใครที่เป็นผู้ชนะ ใครที่ดูมีอนาคต ใครที่ดูมีแวว ทำอะไรก็ดูดีไปหมด

แต่ถ้าคนคนนั้นตกเมื่อไหร่ จากที่เคยสวย จากที่เคยหล่อ กลายเป็นคนหน้าเกลียดขึ้นมาทันที ยิ่งเฉพาะในกรณีที่ทุกคนยกย่องว่าเป็นคนเก่ง คนดี แต่ความจริงปรากฏว่าไม่ได้เป็นอย่างที่โฆษณาไว้ ไม่ได้เป็นอย่างที่สร้างภาพเอาไว้ อันนั้นยิ่งตกม้าตายมากกว่าเดิม

ในสิ้นเดือนนี้ Elizabeth Holmes จะต้องติดคุกเป็นเวลา 11 ปีเต็ม สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ อาจจะต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ช่วงเวลานั้นชื่อของ Holmes กำลังเป็นที่จับตามองของคนในแวดวงธุรกิจระดับโลก ทั้งนักลงทุน ทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ สื่อทุกชนิด และคนทั่วไป Holmes ก่อตั้งบริษัท Theranos ที่ทุกคนวิเคราะห์แล้วมองดูว่าเป็น Unicorn ระดับโลก ระดับจักรวาล เขามีสินค้าที่จะทำให้ ชีวิตมนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร เป็นเพศอะไร มีฐานะอย่างไร มีชีวิตที่ดีขึ้น สินค้าที่เขามีอยู่ในมือจะทั้งปฏิรูปและปฏิวัติอุตสาหกรรมสาธารณสุขตลอดไป

Holmes ถูกยกย่องว่าเป็น เทพธิดาแห่งนวัตกรรม เป็นระดับมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญฯ หญิงอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รับความสนใจจากสื่อทุกชนิด ไปพูดตามเวทีต่างๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับบรรดา Start-Ups นักธุรกิจหนุ่มสาว บริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัทขนาดกลาง แต่สิ่งสำคัญสุดคือ สามารถสร้างความไว้วางใจ สร้างความเชื่อมั่น และสร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนระดับยักษ์ใหญ่ในโลกหลายราย หลายเจ้า เป็นจำนวนหลายพันล้านเหรียญฯ ครับ

เพราะทุกคนเห็นว่า Holmes กับ Theranos คืออนาคตของโลก และสินค้าของเขาจะอยู่เคียงข้างมนุษย์ต่อไป จนกว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ เขย่าโลกอีกรอบหนึ่ง แต่การมีนวัตกรรมเขย่าโลกระดับ Apple ระดับ Microsoft และระดับ Theranos มีไม่ง่ายครับ

แต่ในที่สุด Holmes กับ Theranos เป็นภาพลวงตา เป็นการหลอกลวง และไม่ได้เป็นความจริงเหมือนที่สร้างเอาไว้ เหมือนที่หวังเอาไว้ ในที่สุด Holmes ต้องติดคุกเพราะหลอกลวงชาวโลก และสำคัญสุด หลอกนักลงทุนของเขา โดยที่นักลงทุนต้องฟ้องร้องเพื่อเอาเงินคืนให้ได้

สินค้าที่ Holmes คิดค้นขึ้นมาด้วยตนเอง และสร้างขึ้นมากับมือ จะเขย่าอุตสาหกรรมสาธารณสุขทั่วโลกได้ และตอบโจทย์ผู้กลัวเข็มฉีดยา (อย่างผม) ทุกรายเลยครับ สำหรับใครที่ไม่กลัวเข็มฉีดยา และสามารถมองเวลาหมอหรือพยาบาลฉีดแขนตัวเอง ผมขอแสดงความนับถือครับ คุณ Man มาก เพราะผมไม่มีทางทำได้ แค่รู้ว่าจะฉีดยา หัวใจก็เต้นแรงแล้ว ความดันขึ้นมาทันที ผมรู้ว่าการฉีดยาไม่เจ็บ แต่ผมมองไม่ได้เลย ถ้ามองตัวเองโดนฉีดยา ก่อนเป็นลมก็คงเจ็บขึ้นมาทันที ดังนั้นทุกครั้งโดนเจาะเลือดหรือฉีดยา ผมต้องถามเขาว่าฉีดข้างไหน ผมจะได้หันไปอีกทางหนึ่ง

ผมบอกเลยว่า ทุกครั้งที่รู้ว่าต้องฉีดยา ผมจะกลัวทุกที แล้วความดันขึ้นทุกทีครับ เวลาวัดความดันก่อนจะเจาะเลือด ผมบอกพยาบาลทุกครั้งว่า ลองวัดความดันหลังเจาะเลือด และตัวเลขจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พยาบาลบางท่านเชื่อ บางท่านก็ไม่เชื่อ แต่ผมเคยวัดแล้ว เป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ

รู้ทั้งรู้ว่าไม่เจ็บ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพียงแค่มดกัดก็จริง แต่ถ้าเห็นมันเจ็บขึ้นมาทันที

ผมถึงแปลกใจตัวเองว่าทำไมยังสามารถบริจาคเลือดได้ครั้งหนึ่งในชีวิต กลัวทั้งกลัว แต่ก็ทำ แล้วก็ทำสำเร็จด้วย แต่ผมทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต เพราะครั้งที่สองที่ตั้งใจบริจาคเลือด ไปกับท่านผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ ที่สภากาชาด เพราะเคยทำไปแล้วก็เลยไม่น่าติดขัดอะไร (ถึงแม้กลัวก็ตาม) แต่ในที่สุดทำไม่ได้ครับ

ในวันบริจาคเลือด ผมไม่ได้ทานอะไรก่อนเข้าไป ทางพยาบาลเลยบอกว่าควรมีอะไรรองท้อง ไม่งั้นอาจวูบหรือเป็นลมก็ได้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เลยไปกินไมโลและขนมที่เขาให้มา ทางหัวหน้าพยาบาล (หรือผู้บริหารของสภากาชาด) คงเข้าใจว่าผมบริจาคเรียบร้อยแล้ว เพราะเห็นผมกินขนม เลยเข้ามาคุยด้วย หลังทักทายสวัสดีเสร็จสรรพเรียบร้อย เขาพูดขึ้นมาว่า “ส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยกล้าบริจาคเลือดเท่าไหร่ เพราะกลัวเข็ม ยิ่งเฉพาะการบริจาคเลือด เข็มจะใหญ่และกว้างขนาดหลอดไมโลที่คุณจ๊อบกำลังดื่มอยู่” แล้วเขาก็ยิ้ม ชื่นชมความกล้าหาญของผมต่อไป

พอผมมองหลอดไมโล ผมไม่สามารถบริจาคเลือดได้ตอนนั้น (จนถึงบัดนี้)

ขออภัยที่นอกเรื่องไปเยอะครับ แต่ผมเพียงอยากเน้นว่า คนที่กลัวเข็มฉีดยา กลัวจริงๆ ครับ และทุกๆ ครั้งที่จะต้องเจาะเลือด มันเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งถ้าเจอพยาบาลหรือหมอที่เจาะเลือดไม่เก่งนั้น มันยิ่งทำให้ฝันร้ายเข้าไปใหญ่ แต่รู้ทั้งรู้ว่าการเจาะเลือดเป็นเรื่องสำคัญ และบ่งบอกถึงสภาพร่างกายของเราที่แท้จริงได้ ถึงต้องกัดฟันหลับตาให้เจาะเลือดทุกครั้งครับ

สิ่งที่ Holmes พร้อมเสนอต่อโลกของเราคือ วิธีการเก็บเลือดที่ไม่ต้องเจาะทุกๆ ครั้ง เป็นการเจาะเลือดชนิดใหม่ ที่เอาเข็มจิ้มปลายนิ้ว เอาเลือดไม่กี่หยด แล้วเอาไปใช้เพื่อวินิจฉัยว่าร่างกายของเรามีโรคหรืออาการอะไรบ้าง แทนที่จะเจาะเลือดหลายๆ ครั้ง สิ่งที่ Holmes กับ Theranos เสนอคือ จิ้มนิ้วมือครั้งเดียวเพื่อเอาไม่กี่หยดแทน และวินิจฉัยสารพัดโรค ใครจะไม่เอาครับ? คิดดูว่าถ้านวัตกรรมนี้ทำได้จริง มันจะเปลี่ยนโลกเราขนาดไหน?

แต่ในที่สุด เป็นภาพลวงตา เป็นการหลอกลวง ด้วยเจตนาดีหรือเจตนาร้าย เอาไว้สัปดาห์หน้าผมเล่าต่อ เพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ถ้างั้นผมแนะนำว่า วันนี้ตัดคอลัมน์เก็บไว้ เพราะสัปดาห์หน้าผมจะเข้าเรื่องของ Elizabeth Holmes กับ Theranos เลยครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Sending a Message หรือ The Calm Before the Storm?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ช่วงเวลาที่พวกเราสนุกและพักผ่อนกันเต็มที่ช่วงสงกรานต์นั้น มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดได้ทุกเมื่อ และในที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ ครับ

หลานชายคุณปู่

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ช่วงเขียนคอลัมน์นี้ ผมยังอยู่ที่บ้านเฮา เจออากาศทั้งร้อนมากและร้อนธรรมดา เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องการขับรถขึ้นมาบ้านเฮากับลูกสาว

หลานคุณปู่

คอลัมน์สัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้า น่าจะเป็นคอลัมน์เบาๆ ครับ ผมเชื่อว่าแฟนๆ ครึ่งหนึ่งน่าจะหนีร้อนในไทยไปสูดอากาศเย็น (กว่า) ที่อื่น ส่วนใครที่ไม่ไปไหน คงไม่อยากอ่านเรื่องหนักๆ

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 2)

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องราวแก๊งที่ผมสัมผัสและรู้จักสมัยอยู่สหรัฐ สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแนว Gangster Rap ก็คงจะคุ้นเคยกับสิ่งที่ผมเขียนไป แต่สำหรับหลายท่านที่เติบโตคนละยุคคนละสมัยอาจไม่คุ้นเลย

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 1)

ผมมีความรู้สึกว่า ช่วงนี้มีข่าวประเภทแก๊งมีอิทธิพลในประเภทประเทศเอลซัลวาดอร์ โคลอมเบีย และเม็กซิโก มีผลต่อเสถียรภาพการเมืองระดับชาติประเทศเขา

To Shortchange กับ To Feel Shortchanged

จากการเรียกร้องของสาวๆ (สวยๆ) ไทยโพสต์ ผมขออนุญาตสวมหมวกฟุดฟิดฟอไฟวันหนึ่ง เพื่อพูดคุยและอธิบายสไตล์ของผม ถึงคำที่ปรากฏในช่วงต้นสัปดาห์จากนิตยสาร Time ครับ