รัฐบาล 'บริหารผ่านคุก'

หลังจาก "ทักษิณ" แสดงนำในเรื่อง "คนตาบอดไม่กลัวเสือ" เมื่อ ๒๐ ปีที่ผ่านมา

ปรากฏว่า "ถล่มทลาย"....

"กิน-โกย" เงินโกงเข้ากระเป๋าระดับแสนๆ ล้าน แล้วหนีคุกไปสุมหัวปรุงสุกเนื้อคนตาบอดติดมันจิ้มแจ่วอยู่นอกประเทศ

หลายรัฐบาล (ทำ) ขึงขัง

ล่าตัวยังไงๆ ขบวนการขับเคลื่อนกฎหมายในระบบส่วนใหญ่ "ชอบกินขี้เสือ" จึงไม่หือ ไม่หัน  ดันก็ไม่เดิน กับการตามล่าตัวมาเข้าคุก

นายกฯ ประยุทธ์ก็พยายามมาจนสุดทางเลื่อน

ก็เกิด "ปิ๊ง....ไอเดีย"

เห็นช่องทางจะโกยเงินแสนๆ ล้านคืนเข้ากระเป๋าประเทศได้บ้าง

จึงตัดสินใจ "ทุ่มทุนสร้าง".....

ดึงตัวทักษิณกลับแบบเท่ๆ ให้มารับบทแสดงนำอีกครั้ง ในเรื่อง "คนตาบอดไม่กลัวเสือ" ภาค ๒

ภาคนี้ ตั้งชื่อว่า "หลอกเสือเข้ากรง"!

ก็ไม่รู้จะเปรี้ยงเหมือนภาคแรกหรือไม่ เพราะกลับมาให้ตำหนวดไทยยืนตะเบ๊ะนักโทษ นั่งรถมีขบวนเกียรติยศนำไปเข้ากรงไม่ทันข้ามคืน

ปรากฏว่า "เสือป่วย" ซะแล้ว

ป่วยเพราะเป็นเสือสำออย หรือป่วยจริง ตามวิสัยคนตื่นคุกก็ไม่ทราบ นัยว่านอนไม่หลับ แน่นหน้าอก ความดันขึ้นสูง

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องหามออกจากกรงขึ้น ฮ.ไปนอนห้อง "รอยัล สวีท" ที่โรงพยาบาลตำรวจกลางดึก

รึนี่ เป็น "ไตเติล" นำเรื่องซะก็ไม่รู้

แต่ฮือฮาดีนะ เรียกความสนใจและเสียงวิพากษ์-วิจารณ์จากแฟนๆ ได้ทุกสารทิศ มีทั้งด้านขอให้หายและด้านขอให้ตาย

ก็ถือว่าได้ผลทางโปรโมต

แค่ "เปิดกล้อง" ภาค ๒ คนตาบอดไม่กลัวเสือ ก็เปรี้ยงๆ เสียงฟ้าฟาด Netflix ทำท่าจะขอซื้อไปลงจอ ขนาดนั้นเลย!

ใครก็อย่าไปอิจฉานักโทษที่ได้นอนห้องรอยัล สวีท ชั้น ๑๔ เขาเลย

ตรงนี้ ผมเห็นใจและเข้าใจทักษิณนะ

คนไม่เคยเข้าคุก-เข้าตะราง ไม่รู้หรอกว่า พลันเท้า "ก้าวแรก" ก้าวเข้าประตูคุก

ต่อให้เป็นคนยศใหญ่ เป็นมหาเศรษฐีขนาดไหน ก็ไม่ต่าง "หมาน้อยธรรมดา"

กว่าจะกินได้-นอนหลับ ไม่ร้องไห้ ความดันไม่ขึ้น ก็จนกว่าจะ "ทำใจได้" ตอนไหน เท่านั้นแหละ

๑ วันในคุก เท่ากับ ๓๖๕ วัน นอกคุก!

จึงไม่แปลก ทักษิณ-ที่เคยกินคำละหมื่น  ชักโครกทีละพัน นอนคืนละ ๒-๓ แสน

เข้าไปนอน "ห้องเดี่ยว-เตียงเดี่ยว" แค่ ๑๒-๑๓ ชั่วโมง ในคุก ถึงจะห้อง VIP อาการซี้แหงแก๋ก็ต้องกำเริบ

เพราะ "ทำใจไม่ได้" นั่นเอง!

เถอะ...ได้-ไม่ได้ ก็ต้องได้ จะตีตั๋วคนใกล้ตายนอนยาวอยู่ห้องสวีทเป็นปีๆ เงินนั้นมีจ่าย แต่สังคมคนรุ่นใหม่สายส้มเขาจะโวย

ว่า "คุกมีไว้ขังคนจนกับหมาใช่มั้ย".....

ส่วนคนมีตังค์นอนห้องสวีทสบาย จะต้องให้ลุกฮือทลายระบบเหมือนทลาย "คุกบัสตีย์" ในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส อย่างนั้นหรืออย่างไรกัน?  

เพราะอย่างนั้น "ราชทัณฑ์-ยุติธรรม" เอาแต่พอๆ ดี ต้องบอกให้ทักษิณทำใจรับความจริงไว้บ้าง

ยังไงๆ ก็ต้องอยู่ "ราชทัณฑ์ส่องหล้า" เป็นปี เร็วกว่านี้ เท่ากับระบบบริหารตบหน้าระบบสถาบันตุลาการโชว์ประชาชน!

ทักษิณเขามีวิสัยทัศน์รุ่นใหม่หรอก

ฉะนั้นเขาเข้าใจ เป็นคน "ต้องคุกเท่าเทียมกัน"

ทักษิณจงภูมิใจเถิด....

คุณจะเป็นวีรบุรุษ เป็นฮีโร่ เป็นคนรวย-แต่โกง หรืออะไรก็ตามแต่

แต่สิ่งหนึ่ง นับแต่ปี ๒๔๗๕ ที่คณะราษฎร ปล้นอำนาจพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนการปกครองจาก "สมบูรณาญาสิทธิราชย์"

เป็นประชาธิปไตย "ไม้ไอติม"

จากนักการเมือง สู่ประชาชน โดยคณะบุคคลคณะราษฎร!

ไทยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ๒๙ คน

มีทักษิณ นายกฯ คนที่ ๒๔ เท่านั้น ที่จะได้รับการบันทึกชื่อและวงศ์ตระกูลไว้ใน "หออัปยศแห่งชาติ"

เป็นประวัติศาสตร์ศึกษาตลอดไป ว่า.....

นายกรัฐมนตรีไทย "คนเดียวและคนแรก" ที่ต้องติดคุก

ด้วยคดีใช้อำนาจ-หน้าที่ ทุจริต-คอร์รัปชัน, ฉ้อราษฎร์-บังหลวง!

อีกคน คือนายกฯ คนที่ ๒๘ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ด้วยคดีเกี่ยวพันทุจริต-คอร์รัปชัน ทำประเทศเสียหาย ๗-๘ แสนล้านบาท

แต่ยังหนี ก็ไม่รู้จะหนีนานได้แค่ไหน?

อยากให้ "นายกฯ เศรษฐา" ทุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ซักเรื่อง ให้มารับบทนางเอก เธออาจยอมกลับก็ได้นะ

จะตั้งชื่อเรื่องนี้ว่าอะไรดีล่ะ?

เรื่อง "รอแป๊บ...เดี๋ยวถึง" ดีกว่า บาดใจน้อยหน่อย!

พูดแล้วก็นึกถึง "บุญทรง" กับ "ภูมิ สาระผล" ที่อยู่ในคุก

วานซืนทักษิณแวะเซย์ฮัลโหลหรือเปล่าไม่รู้นะ?

ก็กว่า ๑๐ ปีแล้ว

"สู้เพื่อแดง" ต่อให้ความดันขึ้นจนปรอทแตก ก็นอนแถกเหงือกอยู่ราชทัณฑ์นั่นแหละ ไม่มีใครอินังให้ย้ายไปนอน "รอยัล สวีท" กะเขา

"สู้เพื่อส้ม" สบายกว่าเยอะ ดูอย่าง "รุ้ง-เพนกวิน" นั่นปะไร ยังได้ย้ายไปนอนโรงพยาบาลพระราม ๙ กินกุ้งก้ามกรามตัวโตเท่าโคนขา

หรืออย่าง "แบม-ตะวัน" สู้เพื่อส้ม จากคุกยังได้ย้ายไปนอนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ประสิทธิ์ประศาสน์วิชาถ่อยให้พวกจานได้ชื่นชมโสมนัส

นี่คือระบบ "ราชทัณฑ์" ซึ่งผมเข้าใจและไม่ติดใจ เพราะมันคือ "มาตรฐานไทย" นับตั้งแต่การเมืองหลังปี ๒๕๔๔ เป็นต้นมา

เห็นใจทุกคนในคุก ด้วยเข้าใจ ทุกคนต่างดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

เพราะอย่างนั้น ผมจึงไม่อิจฉา ไม่ว่าใคร ในทุกสังคมมันมีการดิ้นรนทั้งนั้น กระทั่งในคุก นี่คือโลกเป็นจริง!

เย็นวาน (๒๓ ส.ค.๖๖)

"นายเศรษฐา ทวีสิน" พรรคเพื่อไทย รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ คนที่ ๓๐ แล้ว

ขอแสดงความยินดีด้วย!

ฟังปฐมแถลงของนายกฯ คนที่ ๓๐ แล้ว ใครจำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่กับนายเศรษฐาเอง

ต้องตัดคำแถลงนั้น "แปะติดหัวนอน" ไว้เลย ตรงที่ว่า

"กระผมมีความปลื้มปีติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม

ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ

สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ”

ผมขอยืนยันว่า......

ผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ...........

ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ.......และ ฯลฯ"         

นายกฯ เศรษฐาบอก จะอยู่ครบ ๔ ปี

แต่ทักษิณต้องอยู่ในคุก ๓+๕ = ๘ ปี

ก็ตามดูกัน "รัฐบาลเศรษฐา" จะมีทักษิณอยู่ในคุกกี่ปี ตรงนี้ น่าลุ้น!

ลุ้นผ่านการบริหารของรัฐบาลเศรษฐา ว่า

"เทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ" จริงหรือไม่?

ทำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญจริงหรือไม่?

"นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ" จริงหรือไม่?

นี่คือ "กุญแจไขคุก" ของทักษิณ

ถ้าผิดจากนี้ นอกจาก "ส้มรุมตี" รายวันแล้ว

โอกาส "ประชาชนรวมตีน" มีสูง!

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568

๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’

๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'

เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”

เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม

มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”

“มิตรในยามยาก”

“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้

‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’

แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก