
โดนกันมาเยอะแล้ว...
สิ่งหนึ่งที่คนคิดจะเล่นการเมืองต้องเจอกันแทบทุกคนคือ พฤติกรรมที่ก่อไว้เมื่อครั้งก่อน
อดีตตามหลอนปัจจุบัน
ดูอย่าง "น.ช.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นต้น ถึงจะได้นอนบนเตียงอันอ่อนนุ่ม ในห้องติดแอร์ ระดับวีไอพี แต่ใช่ว่าจะออกไปเดินเที่ยวตามใจชอบได้ เพราะทุกสายตาจับจ้องอยู่
หากพลาดมาเมื่อไหร่ พังยันรัฐบาล
การโกงไม่บันยะบันยัง ถูกศาลสั่งจำคุกไปหลายคดี แม้ล่าสุดจะเหลือโทษเพียงไม่เกิน ๑ ปี และอาจจะพ้นโทษทั้งหมดในเร็วๆ นี้ก็ตาม แต่ "น.ช.ทักษิณ" ยังไปไหนไม่ได้
เพราะอะไร?
ก็เพราะตอนนอนอยู่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ เกิดป่วยขึ้นมาหลายโรค แถมยังต้องผ่าตัดด่วน เสียดายที่ "คุณหมอใหญ่" ท่านไม่ยอมบอกว่าผ่าตัดเล็กหรือผ่าตัดใหญ่ แต่ดูตามที่ท่านหมอใหญ่พูดถึงอาการของ "น.ช.ทักษิณ" ก่อนหน้านี้ว่า "น่าเป็นห่วง" ก็แสดงว่าไม่น้อยทีเดียว
อาจผ่าตัดใหญ่!
ก็นี่แหละครับ เมื่อไม่มีอะไรชัดเจนจากโรงพยาบาลและลูกเมีย น.ช.ทักษิณ สังคมก็ได้แต่คาดเดาไปคนละทาง
และส่วนใหญ่วิจารณ์บนพื้นฐานความคิดที่ว่า "น.ช.ทักษิณ" ไม่ได้ป่วยจริง
ถ้าไม่ป่วยจริงมันกระทบหมด
จริยธรรมแพทย์จะตามเล่นงานหมอบางคน
รัฐบาลเองก็ต้องรับผิดชอบที่ปล่อยให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เล่นละครตบตาประชาชน
ว้าวุ่นกันไปหมด
ฉะนั้นหากมีข้อเท็จจริงว่า "น.ช.ทักษิณ" ป่วยจริง สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คืออะไรรู้มั้ยครับ?
"น.ช.ทักษิณ" จะไม่เหมือนเดิม
อย่างน้อยๆ แม้จะพ้นโทษทั้งปวง ซึ่งอาจเป็นเดือนตุลาคมนี้ หรือเดือนธันวาคมก็ตาม "น.ช.ทักษิณ" จะยังคงนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป
อาจจะออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งโรงพยาบาลของรัฐที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินของรัฐมาบริหาร ไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม ๙
หรือโรงพยาบาลเอกชน ๕ ดาวที่อื่นๆ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้ "น.ช.ทักษิณ" และอำนวยความโล่งใจให้กับบรรดาข้าราชการตัวน้อยๆ ที่ต้องคอยดูแล "น.ช.ทักษิณ" โดยที่ไม่รู้ว่าวันหนึ่งตัวเองอาจจะติดร่างแหการแสดงละครนี้ด้วยหรือไม่
ไม่ต้องห่วงครับ หลังพ้นโทษ "น.ช.ทักษิณ" ยังต้องนอนโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่งอีกเป็นปีๆ เพราะโรคที่เป็นอยู่ห่างหมอไม่ได้
หรือครอบครัวชินวัตร จะยอมเสี่ยงพาผู้ป่วยวิกฤต ที่อาการสามารถกำเริบได้ตลอดเวลาไปนอนบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็เอาที่สบายใจ
ฉะนั้นระวังหน่อย หลังพ้นโทษอย่าเพิ่งดีใจลืมว่าเป็นผู้ป่วยหนัก
อดีตมันจะตามหลอนไม่จบไม่สิ้น
อีกกรณีคือ "ช่อ พรรณิการ์ วานิช" ถูกศาลฎีกาพิพากษาถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต
จากความผิดในลักษณะเป็นการกระทำอันมิบังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ลงในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “Pannika Chor Wanich” เมื่อ ๑๓ ปีที่แล้ว
ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๓๕ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๘๗ และมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ ๖ ประกอบ ข้อ ๒๗ วรรคหนึ่ง
ความผิดเป็นบัญชีหางว่าว!
ก็น่าเห็นใจสำหรับคนที่อยากเป็นนักการเมือง แต่กลับถูกตัดสิทธิห้ามเป็นนักการเมืองในระบบตลอดชีวิต
แต่นักการเมืองในโซเชียล ก็เอาที่สบายใจ เพราะเห็น "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีในโซเชียลอยู่ทุกวัน
ความผิดนี้ แน่นอนครับ พรรคก้าวไกลจะยิ่งกระหายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลบล้างทุกอย่าง แต่วันนั้นคงมาไม่ถึงในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
เบื้องหน้าจึงต้องว่ากัน เรื่อง กฎหมายบ้านเมืองที่พรรคก้าวไกลไม่พึงพอใจที่จะปฏิบัติตามนั้นมีเยอะเหลือเกิน
ก็ยังคิดๆ อยู่ หากพรรคก้าวไกลมีอำนาจอยู่ในมือ คงจะใช้เวลาชั่วอายุคนเพื่อแก้หรือเลิกกฎหมายที่ขวางหูขวางตา
อย่างเช่นพระราชบัญญัติทางจริยธรรม ๒๕๖๒ เป็นกฎหมายหนึ่งในร้อยในพันฉบับที่พรรคก้าวไกลต้องทำวิสามัญฆาตกรรมในสภาอย่างแน่นอน
มันเหมือนกับหากมีกฎหมายฉบับนี้อยู่ก็ต้องไม่มีก้าวไกล หรือถ้ามีก้าวไกลกฎหมายฉบับนี้ต้องยกเลิก!
เพราะมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มาตรา๕ มาตรฐานทางจริยธรรม คือ หลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย
(๑) ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๒) ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าที่
(๓) กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม
(๔) คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสาธารณะ
(๕) มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน
(๖) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ
(๗) ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ
จะเห็นได้ว่าบทบัญญัติใน (๑) นั้น คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลต่อต้านมาโดยตลอด
เมื่อไปดูคำพิพากษาของศาลฎีกา ก็ยิ่งพบถึงการ "ท้าทาย" กฎหมาย
"...การที่ผู้คัดค้านไม่ลบหรือนำภาพถ่ายและข้อความดังกล่าวทั้งหมดออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งที่สามารถกระทำได้เพื่อไม่ให้ปรากฏอยู่ และเพื่อไม่ให้บุคคลใดสามารถเข้าถึงภาพถ่ายและข้อความทั้งหกกรณีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย การกระทำของผู้คัดค้านจึงเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง..."
พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์กรณีนี้ว่า ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
และจะจัดการกับ “มาตรฐานจริยธรรม” อันเลื่อนลอย-ไร้มาตรฐาน
ครับ...วันหนึ่งพรรคก้าวไกลอาจเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่อยากจะเปลี่ยน
แต่สิ่งหนึ่งที่จะตามมาคือ....
พรรคก้าวไกลจะทิ้งคนไว้ข้างหลังมากมาย
คนจะถูกแบ่งยิ่งกว่าแบ่งชนชั้น
เพราะคนในครอบครัวเดียวกันจะถูกขีดเส้นให้กลายเป็นคนละพวก
ใช่อนาคตที่ปรารถนากันหรือเปล่า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต้องโค่นระบอบฮุนเซน
เขมรยังไว้ใจไม่ได้ครับ... ขณะที่ไทยปล่อยตัว ทหารเขมรที่ถูกจับตัว ๑๘ นายกลับประเทศ ทางฝั่งกัมพูชาเริ่มปั่นข่าวแล้วว่า ทั้ง ๑๘ คน ถูกกองทัพไทยจับกุมอย่างผิดกฎหมาย
หัวใจติดปีก
สื่อโซเชียลร้อนฉ่าครับ ไม่ใช่เรื่อง “พี่โดม” กระเหี้ยนกระหือรือ แต่เป็นเรื่อง คนขับเครื่องบินเป็นคนหนึ่งไปส่งหัวใจให้ถึงมือหมอโดยแข่งกับเวลา
'เรามีดำ ไม่มีเทา'
นับคำขอโทษได้สักล้านคำกระมัง วานนี้ (๒๙ ธันวาคม) เป็นอีกวันของการพิสูจน์ว่า พรรคส้ม ใช่พรรคที่ความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏจริงหรือไม่
ทหารไทยระดับโลก
ได้เบอร์พรรคกันไปเรียบร้อยแล้วครับ วานนี้ (๒๘ ธันวาคม) กกต.รับสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จับได้เลขอะไร แต่ละพรรคทั้งประเทศเบอร์เดียวกันหมด
ผลงานรัฐบาล-กองทัพ
น่าจะจบอีกยกครับ... นับว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) เป็นวันที่ ๓ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ไม่เอาคนเนรคุณ
แยกข้างแบ่งขั้วกันตั้งแต่หัววัน... วานนี้ (๒๕ ธันวาคม) นายกฯ อนุทิน ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.๑๑๒ “...ถ้ายังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมด้วยแน่นอน พรรคไหนจะร่วมก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ดูแคนดิเดตของทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนตอบว่าจะแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ยกเว้นพรรคประชาชน...”

