'รัตนโกสินทร์ไม่สิ้นคนดี'

บ้านเมืองกำลังมีภัยทางความมั่นคงด้านเศรษฐกิจเสถียรภาพประเทศ

ถึงขั้น "ล่มจม-ล้มละลาย" ได้ง่ายๆ

แต่เราๆ ชาวบ้าน ประหนึ่ง "ฝูงปลากระหายเหยื่อ"!

ในภาวะ "ล่อแหลม"

เป็นปรากฏการณ์ "น่าดีใจ" ที่มีคณะชนชั้นปัญญาชน "นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์" นำโดย ๒ อดีต "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ"

"ดร.วิรไท สันติประภพ" และ "ดร.ธาริษา วัฒนเกส"

เมื่อเห็นรัฐบาลเศรษฐาจะใช้เงิน ๕๖๐,๐๐๐  ล้านบาท เป็นเหยื่อเกี่ยวเบ็ด "ตกปลาการเมือง"

ท่ามกลางความเริงร่าของ "ปลาตาบอด" ที่รอตอดเหยื่อ

ปัญญาชนเหล่านั้น เป็นผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์  รู้ทันเล่ห์พรานเบ็ด ที่สำคัญ รักชาติ-บ้านเมือง  มองเห็นมหันตภัยนั้น

ถ้าเขา "อยู่เฉย" ก็ไม่มีใครว่าได้

ทั้งเขาเหล่านั้น ก็จะไม่เปลืองเนื้อ-เปลืองตัวด้วยซ้ำ!

แต่นักวิชาการ-ครูอาจารย์เศรษฐศาสตร์ ๙๙  ท่าน ทนเห็นความวิบัติอันจะเกิดกับประเทศกับฝูงมัศยาหลงเหยื่อไม่ได้!

ท่านจึงอุทิศตน "เข้าชื่อ-ประกาศนาม"

"ออกแถลงการณ์" เรียกร้องให้รัฐบาล "ยกเลิก" นโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท  พร้อมชี้แจงเหตุผลโดยสรุป

1.ไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงไม่มีความจำเป็นที่จะกระตุ้นการบริโภคส่วนบุคคล

แต่ควรเน้นการใช้จ่ายของภาครัฐในการสร้างศักยภาพในการลงทุนและการส่งออกมากกว่า

และการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศยังเป็นปัจจัยให้เกิดเงินเฟ้อสูงขึ้นมาอีก หลังเริ่มลดลงได้ในปีนี้ มาอยู่ที่ 2.9% ท่ามกลางราคาพลังงานที่สูงและมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะหลัง

เพราะฉะนั้น การกระตุ้นการบริโภคในช่วงนี้จะทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้น และอาจนำมาซึ่งสภาวะที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยในที่สุด

เหตุผลที่ 2 เงินงบประมาณของรัฐที่มีจำกัด ย่อมมีค่าเสียโอกาสเสมอ

เงินจำนวนมากถึง 560,000 ล้านบาทนี้ ทำให้รัฐเสียโอกาสที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น

ซึ่งล้วนที่จะสร้างศักยภาพการเติบโตในระยะยาว แทนการกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้นๆ ซึ่งไม่สมเหตุสมผลต่อการสร้างหนี้สาธารณะให้เป็นภาระคนรุ่นหลัง

3.การที่ผู้กำหนดนโยบายหวังว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ "เป็นสิ่งที่เลื่อนลอย"

เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 560,000 ล้านบาท เข้าระบบเป็นการคาดหวังเกินจริง

เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐในลักษณะเงินโอนหรือแจกเงิน มีค่าต่ำกว่า 1 และต่ำกว่าตัวทวีคูณทางการคลังสำหรับการใช้จ่ายโดยตรงและการลงทุนภาครัฐ

4.ไทยอยู่ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นมานาน และการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนี้ ก็จะยิ่งทำให้ไทยเสียค่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอีก

เพราะก่อนหน้านี้เงินเฟ้อสูงขึ้น

การก่อหนี้จำนวนมาก ทั้งออกพันธบัตรหรือกู้เงินจากรัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงิน ทำให้ประเทศต้องเผชิญกับดอกเบี้ยทั้งนั้น 

หนี้สาธารณะของรัฐอยู่ที่ประมาณ 10.1 ล้านล้านบาท หรือ 61.6% ของจีดีพี เป็นภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง

เมื่อต้องจ่ายคืนหรือกู้ใหม่ ย่อมมีผลต่อภาระเงินงบประมาณรัฐในแต่ละปี

5.นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท สวนทางกับสิ่งที่ควรจะเป็น

คือ หลังจากทั่วโลกเผชิญทั้งโรคระบาดและเศรษฐกิจถดถอย หลายประเทศพยายามลดการขาดดุลภาครัฐและหนี้สาธารณะลง

เพื่อสร้างที่ว่างทางการคลังได้รองรับวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต แต่นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท สวนทาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.....

เมื่อไทยมีรายรับจากภาษีเพียง 13.7% ของจีดีพี ถือว่าต่ำมากๆ

6.การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ทุกคนที่อายุเกิน 16 ปี เป็นนโยบายที่ไม่สร้างความเป็นธรรม

เศรษฐี มหาเศรษฐี ที่อายุมากกว่า 16 ปี ล้วนได้รับเงินทั้งที่ไม่มีความจำเป็น

7.ไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การเตรียมตัวทางการคลังเป็นสิ่งจำเป็น

ภาระการใช้จ่ายด้านสวัสดิการและสาธารณสุขจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผู้บริหารประเทศที่มองการณ์ไกลจึงควรใช้งบประมาณให้คุ้มค่า และรักษาวินัยและเสถียรภาพทางการคลังอย่างเคร่งครัด

ด้วยเหตุผลทั้งหมดต่างๆ ข้างต้น

นักวิชาการ และคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

เพราะประโยชน์ที่ประเทศจะได้นั้นน้อยกว่าต้นทุนที่เสียไป

และสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยระยะสั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว

และควรทำแบบเฉพาะเจาะจง เช่น ผู้มีรายได้น้อย ไม่เหวี่ยงแหครอบคลุมคนทุกกลุ่ม

นั่นแถลงการณ์สรุป........

ผมอยากนำทั้ง ๙๙ รายชื่อมาบันทึกด้วยขอบคุณแทนคนไทย-ประเทศไทย เอาเท่าที่เนื้อที่อำนวยก่อนก็แล้วกัน

-ดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

-ดร.ธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

-ดร.บัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

-รศ.ดร.อัจนา ไวความดี อดีตรองผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

-ดร.ธัญญา ศิริเวทิน อดีตรองผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

อดีตคณบดีเศรษฐศาสตร์ มธ.

-รศ.ดร.สิริลักษณา คอมันตร์

-รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ

-ศ.ดร.ปราณี ทินกร

-ดร.วิญญู วิจิตรวาทการ

-ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา

-รศ.ดร.สุกัญญา นิธังกร

-รศ.ดร.ชยันต์ ตันติวัสดาการ

-รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

-ศ.ดร.พลายพล คุ้มทรัพย์ อดีตรองอธิการบดีและรองคณบดีเศรษฐศาสตร์ มธ.

-ผศ.ปภัสสร เลียวไพโรจน์ อดีตรองอธิการบดีและอดีตอาจารย์เศรษฐศาสตร์ มธ.

-รศ.ดร.ลิลี่ โกศัยกานนท์ อดีตรองอธิการฯและอดีตคณบดีเศรษฐศาสตร์ มธ.

-ผศ.ดร.วัชรียา โตสงวน อดีตรองอธิการฯ มธ.

คณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มธ.

-ผศ.ดร.ประชา คุณธรรมดี

-ผศ.ดร.ธีรวุฒิ ศรีพินิจ

-อจ.พงศ์พลิน ยิ่งชนม์เจริญ

-ผศ.ชล บุนนาค

-ผศ.ดร.ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย

-ผศ.สุวรรณี วัธนจิตต์

-อจ.พีรพัฒน์ เภรีรัตนสมพร

-อจ.กุศล เลี้ยวสกุล

-รศ.ชูศรี มณีพฤกษ์

-ผศ.จรินทร์ พิพัฒนกุล

-ผศ.จินตนา เชิญศิริ

-รศ.ดร.ดาว มงคลสมัย

-รศ.ดร.ภาวดี ทองอุไทย

-รศ.ดร.ภิรมย์ จั่นถาวร

-รศ.ดร.เกรียงไกร เตชกานนท์

-รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

-รศ.วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน

-ผศ.ดร.โอม หุวะนันทน์

-รศ.พรพิมล สันติมณีรัตน์

-รศ.ดร.เพลินพิศ สัตย์สงวน

-รศ.ดร.เลิศศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย

-รศ.สุขุม อัตวาวุฒิชัย

-ผศ.มณีรัตน์ ภิญโญภูษาฤกษ์

-รศ.ดร.กิริยา กุลกลการ

-รศ.ดร.สมนึก ทับพันธุ์

-รศ.ดร.เยาวเรศ ทับพันธุ์

-อจ.สุพรรณ นพสุวรรณชัย

เศรษฐศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์

-ดร.สินาด ตรีวรรณไชย

-ผศ.ดร.โสภิณ จิระเกียรติกุล

-ดร.พิชญา บุญศรีรัตน์

-ผศ.สุกำพล จงวิไลเกษม

เศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรฯ

-ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ

-ผศ.ดร.ธนาภรณ์ อธิปัญญากุล            

-รศ.ดร.กนกวรรณ จันทร์เจริญชัย          

-รศ.ดร.โสมสกาว เพชรานนท์

-ผศ.ดร.ธนสิน ถนอมพงษ์พันธ์

-รศ.ดร.กัมปนาท วิจิตรศรีกมล

-ผศ.ดร.สันติ แสงเลิศไสว

-ผศ.ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มสมบุญชัย

-ผศ.ดร.อัฉรา ปทุมนากุล

เศรษฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่

-อ.ดร.จีราภา อินธิแสง โธฌีม

-รศ.ปิยะลักษณ์ พุทธวงศ์

-ผศ.ดร.กรรณิการ์ ดวงเนตร

เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ

-รศ.ดร.ธัชนันท์ โกมลไพศาล

-อ.ดร.อติกา ทิพยาลัย

-รศ.ดร.กรรณิการ์ ดำรงค์พลาสิทธิ์

-ผศ.ดร.พงศ์ศักดิ์ เหลืองอร่าม

-ผศ.ดร.จาริต ติงศภัทิย์

-รศ.ดร.เขมรัฐ เถลิงศรี

-รศ.จันทร์ทิพย์ บุญประกายแก้ว

-วิรัตน์ วัตนศิริธรรม อดีตเลขาฯ สภาพัฒน์

-ดร.จิตริยา ปิ่นทอง อดีตเอกอัครราชทูต

-ภัสสร เวียงเกตุ อดีตรองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

-รศ.ดร.โกวิทย์ กังสนันท์ ม.ราชพฤกษ์

-ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ

-ผศ.ดร.วิศาล บุปผเวส สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

-ผศ.ดร.ดารารัตน์ อานันทนะสุวงศ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

-ศ.ดร.วุฒิ ศิริวัฒน์นานนท์ วิศวกรรมโยธา ม.เทคโนโลยีซิดนีย์

-รศ.ธรรมวิทย์ เทอดอุดมธรรม ม.รังสิต

-ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

-ศ.นพ.เทพ หิมะทองคำ โรงพยาบาลเทพประทาน

-เกริกไกร จีระแพทย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

.................

นักข่าวถามเศรษฐา คำตอบท่านมีว่า......

"ไม่ครับ...เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แจก ๕.๖ แสนล้าน"!

 

วันเสาร์ที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568

๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’

๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'

เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”

เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม

มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”

“มิตรในยามยาก”

“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้

‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’

แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก