
เข้าเรื่อง "ความขัดแย้ง" อิสราเอล-ปาเลสไตน์ "ฉบับรวบรัด" ภาค ๒-๓ ต่อจากภาค ๑ เมื่อวานได้เลยครับ
...................................
Histofun Deluxe
ภาค II กำเนิดรัฐอิสราเอล
- 1897
"ชาวออสเตรีย" เชื้อสายยิวนามว่า "ธีโอดอร์ เฮิร์ตเซิล" (Theodor Herzl) ได้ก่อตั้งขบวนการ "ไซออนิสต์" (Zionist)
องค์กรที่มีเป้าหมายสำคัญในการก่อตั้ง "รัฐของชาวยิว" ในดินแดนปาเลสไตน์
-----
- 1917
"ปฏิญญาบัลฟอร์" (Balfour Declaration) อังกฤษ
สนับสนุน "ขบวนการไซออนิสต์" ในการก่อตั้ง "รัฐชาวยิว" ในปาเลสไตน์
-----
- 1918
ดินแดนของ "จักรวรรดิออตโตมัน" ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของ "อังกฤษ" และ "ฝรั่งเศส"
โดยดินแดน "ปาเลสไตน์" อยู่ภายใต้ "การปกครองอังกฤษ" ในสถานะ "รัฐอารักขา"
-----
- ทศวรรษที่ 1920
ชาวยิวเริ่มอพยพเข้าไปในดินแดนปาเลสไตน์ ก่อให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกับชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ก่อนหน้านั้น
-----
- ทศวรรษที่ 1930
ปัญหาระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์เริ่มลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น ทางการอังกฤษพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย
และออกนโยบาย "จำกัดจำนวนของชาวยิว" ที่จะอพยพเข้ามาในปาเลสไตน์
-----
- ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939-1945)
ชาวยิวที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรปถูก "นาซีเยอรมัน" จับเข้าค่ายกักกันและถูกสังหาร เกิดเหตุการณ์ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว" (Holocaust) ที่ทำให้มีชาวยิวล้มตายมากกว่า 6 ล้านคน
-----
- 1945
หลัง "สงครามโลกครั้งที่ 2" สิ้นสุด ชาวยิวนับล้านคนที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ได้เดินทางเข้าไปในปาเลสไตน์ ปัญหาระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์เกิดขึ้นอีกครั้ง
-----
- 1947
ทางการอังกฤษไม่สามารถยุติความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายได้ อังกฤษจึงถอนตัวออกจากปาเลสไตน์
และนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อทาง "สหประชาชาติ" เพื่อให้เป็นผู้แก้ไขปัญหา
สุดท้ายสหประชาชาติก็มีมติให้ "แบ่งดินแดน" ของปาเลสไตน์ ออกเป็น 2 ส่วนคือ
"ดินแดนของชาวยิว" กับ "ดินแดนของชาวปาเลสไตน์" โดย "กรุงเยรูซาเล็ม" อยู่ภายใต้การดูแลของ "สหประชาชาติ"
-----
- 1948
วันที่ 14 พฤษภาคม ดินแดนของ "ชาวยิว" ในปาเลสไตน์ประกาศ "ก่อตั้งรัฐอิสราเอล" (State of Israel)
โดยมี "เดวิด เบนกูเรียน" (David Ben Gurian) เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอล
การก่อตั้ง "ประเทศอิสราเอล".....
ได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับกลุ่มประเทศอาหรับ ดังนั้น "กลุ่มประเทศอาหรับ" ซึ่งประกอบไปด้วย
อียิปต์, ซีเรีย, จอร์แดน, เลบานอน และอิรัก จึงได้ก่อตั้ง "สันนิบาตอาหรับ" (League of Arab) เพื่อต่อต้านอิสราเอล
-----
- 1948-1949
"สันนิบาตอาหรับ" ส่งกองทัพบุกโจมตีอิสราเอล เกิดเป็นสงคราม "อาหรับ-อิสราเอล" ครั้งที่ 1
ปรากฏว่าอิสราเอล (ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ) สามารถ "เอาชนะ" กองทัพของสันนิบาตอาหรับได้
แม้ว่าสันนิบาตอาหรับจะเป็นฝ่ายแพ้สงคราม
แต่สันนิบาตอาหรับก็สามารถยึดครองดินแดนบางส่วนของอิสราเอลได้
โดย "อียิปต์" เข้ายึดครองดินแดนที่เรียก 'ฉนวนกาซ่า' (Gaza Strip)
"จอร์แดน" เข้ายึดครองดินแดน 'เวสต์แบงก์' (West Bank)
นอกจากนี้ "กรุงเยรูซาเล็ม" ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
"เยรูซาเล็มตะวันตก" เป็นของ "อิสราเอล"
"เยรูซาเล็มตะวันออก" เป็นของจอร์แดน
ผลของสงครามในครั้งนี้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์นับแสนคนต้องอพยพออกจากดินแดนปาเลสไตน์ ที่บัดนี้กลายเป็นของอิสราเอล ไปยังดินแดนประเทศอาหรับรอบๆ ข้างแทน
-----
- 1956
เกิดวิกฤตการณ์คลองสุเอซ (Suez Crisis)หรือสงคราม "อาหรับ-อิสราเอล" ครั้งที่ 2
"อังกฤษ" และ "ฝรั่งเศส" สนับสนุนอิสราเอลทำสงครามกับ "อียิปต์" แต่ชัยชนะในสงครามตกเป็นของอียิปต์
-----
- 1964
"ยัสเซอร์ อัล-อาราฟัต" (Yasser al-Arafat) ผู้นำของชาวปาเลสไตน์ก่อตั้ง "องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์" หรือขบวนการ PLO
เพื่อต่อสู้กับอิสราเอล และทวงคืนดินแดนปาเลสไตน์จากชาวยิว
-----
ภาค III ความขัดแย้งจนถึงปัจจุบัน
- ทศวรรษที่ 1960 ถึง 1980
PLO ก่อเหตุวินาศกรรมและก่อการร้ายภายในอิสราเอล
-----
- 1967
สงครามหกวัน (Six Day War) หรือ "สงครามอาหรับ-อิสราเอล" ครั้งที่ 3 อิสราเอลเป็นฝ่ายชนะสงคราม
และยึดครองฉนวนกาซ่าและเวสต์แบงก์จากฝ่ายอาหรับได้
นอกจากนี้ อิสราเอลยังยึดครองแหลมไซนาย (Sinai) ซึ่งเป็นดินแดนของอียิปต์ได้อีกด้วย
ที่สำคัญ อิสราเอลยังยึดครอง "เยรูซาเล็มตะวันออก" ที่เป็นของจอร์แดนได้ "เยรูซาเล็มทั้งหมด" จึงตกเป็นของอิสราเอล
ก่อนที่ในปี 1980 อิสราเอลจะประกาศให้ "เยรูซาเล็ม" เป็นเมืองหลวงของประเทศ
-----
- 1973
"สงครามยมคิปปูร์" (Yom Kippur War) หรือสงคราม "อาหรับ-อิสราเอล" ครั้งที่ 4
อิสราเอลเป็นฝ่ายชนะสงครามและยึดครองดินแดนบางส่วนของซีเรียและอียิปต์
-----
- 1978
อิสราเอลและอียิปต์ทำข้อตกลงสันติภาพ "แคมป์เดวิด" (Camp David Accord) โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง
-----
- 1982
อิสราเอลส่งกองทัพเข้าไปในเลบานอน เพื่อกวาดล้างกลุ่ม PLO ที่ซ่อนตัวอยู่ในเลบานอน
ชาวเลบานอนบางส่วนจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธ "ฮิซบอลเลาะห์" (Hezbollah) เพื่อต่อสู้กับอิสราเอล
-----
- 1985
กลุ่ม "ฮิซบอลเลาะห์" ขับไล่กองทัพอิสราเอลให้ออกไปจากเลบานอนได้สำเร็จ นับแต่นั้น "ฮิซบอลเลาะห์" จะกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดในเลบานอน
-----
- 1988
วันที่ 15 พฤศจิกายน "ยัสเซอร์ อัล-อาราฟัต" ประกาศก่อตั้ง "รัฐปาเลสไตน์" (State of Palestine)
อาราฟัตประกาศยุติการก่อร้ายของ PLO และจะใช้สันติวิธีเพื่อเจรจากับอิสราเอล
PLO ยังก่อตั้งกลุ่มการเมืองที่เรียกว่า "กลุ่มฟะตะห์" (Fatah) ที่เน้นการต่อสู้แบบสันติวิธี
ทำให้มีชาวปาเลสไตน์บางส่วนไม่พอใจและก่อตั้งกลุ่ม "ฮามาส" (Hamas) ที่เน้นใช้ความรุนแรงในการต่อสู้
-----
- 1993
อิสราเอลและปาเลสไตน์ทำ "สนธิสัญญาสันติภาพออสโล" (Oslo Accord) โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนด "เส้นเขตแดน" ใหม่
โดย "ฉนวนกาซ่า" และ "เวสต์แบงก์" จะตกเป็นดินแดนของปาเลสไตน์
โดยมีเมือง "รามัลเลาะห์" (Ramallah) ในเวสต์แบงก์เป็น "เมืองหลวงของปาเลสไตน์"
-----
- สถานการณ์ในปัจจุบัน
แม้ว่าอิสราเอลกับปาเลสไตน์จะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพมาแล้วหลายรอบด้วยกัน
แต่ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงเกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ใช่เฉพาะความขัดแย้งระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์เท่านั้น
เพราะภายในปาเลสไตน์เองก็ได้เกิดความแตกแยกกันเองเช่นกัน
โดยภายในปาเลสไตน์ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ โดยบริเวณ "ฉนวนกาซ่า" อยู่ภายใต้อำนาจของ "กลุ่มฮามาส"
ส่วนบริเวณ "เวสต์แบงก์" อยู่ภายใต้อำนาจของ "กลุ่มฟะตะห์" ซึ่งเป็นรัฐบาลของปาเลสไตน์
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่กินเวลายาวนานกว่า 70 ปี (จริงๆ อาจเรียกว่าพันปีก็ได้) ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้
สงคราม ความสูญเสีย และความเกลียดชัง ก็ยังคงมีอยู่ในดินแดนแห่งนี้
ณ สถานการณ์ปัจจุบัน....
ความขัดแย้งก็ได้อุบัติขึ้นอีกครั้ง เมื่อ "กลุ่มฮามาส" ในฉนวนกาซ่า โจมตีอิสราเอล
เช่นเดียวกับทางการอิสราเอลที่ทำการตอบโต้กลุ่มฮามาสเช่นกัน
นับเป็นเหตุความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 50 ปี
หวังเพียงว่า สันติภาพจะนำพาความสงบสุขกลับคืนสู่ดินแดนแห่งนี้ในสักวันหนึ่ง.
......................................
ขอบคุณเพจ "Histofun Deluxe" นะครับ
ผมและท่านผู้อ่าน ต่อจากนี้....
น่าจะติดตามเหตุการณ์ในดินแดนปาเลสไตน์แบบ "รู้เรื่อง" มากขึ้น
-เปลว สีเงิน
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๖
วันเสาร์ที่ปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568
๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’
๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”
ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'
เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”
เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม
มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”
“มิตรในยามยาก”
“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้
‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’
แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก

