ถ้าอิสราเอลบุกภาคพื้นดินเพื่อยึดฉนวนกาซาทั้งหมดจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะ “ถอนรากถอนโคน” กลุ่มติดอาวุธฮามาสสำเร็จไหม?
คำตอบก็คือ ความสุ่มเสี่ยงจะสูงยิ่ง
ปฏิบัติการของอิสราเอลครั้งนี้ชื่อ Operation Swords of Iron (ดาบเหล็ก) ซึ่งเป็นแผนยุทธการที่หนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาต่อฉนวนกาซา
แต่ภารกิจนี้ก็ต้องถือว่า “หินสุดๆ” เหมือนกัน
แม้ว่าด้วย “ความแค้นที่ต้องชำระ” ของอิสราเอลที่ถูกฮามาสตบหน้าอย่างแรงด้วยการสามารถจู่โจมแบบสายฟ้าแลบจนกองกำลังยิวเกือบจะตั้งตัวไม่ทันนั้นทำให้กองทัพของอิสราเอลต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
ถึงขั้นที่นายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า “สมาชิกฮามาสทุกคนคือคนตายแล้ว!”
แต่ในแง่ของปฏิบัติการแล้ว การรุกเข้ายึดครองฉนวนกาซาทั้งหมดเป็นเรื่องยุ่งยากสลับซับซ้อนยิ่ง
ก่อนหน้านี้อิสราเอลประกาศให้ชาวปาเลสไตน์ 1.1 ล้านคน ออกจากที่พักทางเหนือไปทางใต้ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้ทหารอิสราเอลปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนนั้น
แต่ก็ได้รับเสียงคัดค้านจากสหประชาชาติทันทีว่า “เป็นไปไม่ได้”
เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในย่านนั้นคือเด็ก, ผู้หญิงและคนแก่
อิสราเอลอ้างว่าฮามาสใช้บ้านพลเรือนเป็นที่กำบัง จึงต้องกวาดล้างให้สิ้นซากด้วยการขอให้ประชาชนอพยพออกไปเสียเพื่อจะได้ปะทะกับผู้ติดอาวุธเท่านั้น
แต่ปฏิบัติการเช่นนี้ย่อมหนีไม่พ้นที่จะทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
การบุกเข้ายึดดินแดนทั้งผืนเช่นนี้ย่อมหมายถึงการเข้าตะลุยบ้านต่อบ้าน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชาวบ้าน
ก่อนหน้านี้การถล่มทางอากาศของอิสราเอลต่อพื้นที่แถบนี้ก็ทำให้คนกว่า 400,000 คน (จากประชากรทั้งหมดประมาณ 2 ล้าน) ต้องหนีตายกันจ้าละหวั่นแล้ว
ที่ทำให้ปฏิบัติการนี้ยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก ก็เพราะทหารหน่วยกล้าตายของอิสราเอลที่บุกนำหน้าเข้าไปจะต้องค้นหาที่ฮามาสซ่อนต้ว “ตัวประกัน” ที่ถูกจับมาด้วย
ตรงนี้แหละที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะต้องปะทะกัน...และจะต้องหลีกเลี่ยงการทำให้ตัวประกันบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย
เพราะหากปฏิบัติการนี้ทำให้ตัวประกันถูกสังหารเสียก่อน ก็เท่ากับเป็นความล้มเหลวตั้งแต่แรก
ตัวประกันที่เชื่อว่ามีประมาณ 150 คนนั้นถูกคุมขังไว้ในจุดต่างๆ ที่ทหารอิสราเอลยังไม่มีข้อมูลครบถ้วนด้วยซ้ำไป
จึงเท่ากับเป็นการต้องค้นหาทุกมุมของดินแดนกาซา อันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างแรงขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้บัญชาการทหารบกของอิสราเอล Herzi Halevi ประกาศว่าจะต้อง “ถอนรากถอนโคน” กลุ่มฮามาสให้จงได้
ถึงขั้นระบุจะต้องจัดการกับหัวหน้าใหญ่ทางการเมืองของฮามาสในกาซาทีเดียว
แต่คำถามใหญ่คือ อิสราเอลมีภาพของกาซาจากนี้ไปอย่างไร? ไม่มีเหลือซากอะไรเลยกระนั้นหรือ? เป็นไปได้หรือ?
ต้องไม่ลืมว่าฮามาสปกครองอาซามา 16 ปีเต็มๆ และมีอำนาจบารมีในดินแดนแถบนี้มากพอสมควร
แต่แม้จะไม่ถึงขั้นทำลายฮามาสให้ “สิ้นซาก” แต่อิสราเอลก็คงจะมีเป้าของการทำให้ฮามาสหมดศักยภาพที่จะทำสงครามกับอิสราเอลได้อีก
นี่คือความท้าทายอันใหญ่หลวง
ยิ่งพอประกาศว่าการบุกยึดกาซาครั้งนี้จะทำทั้งทางบก, ทะเลและอากาศ ก็ยิ่งเห็นว่านี่จะเป็นปฏิบัติการใหญ่โตที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับกองทัพอิสราเอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สำหรับกองทัพอิสราเอลที่เป็นฝ่ายถูกกระทำก่อนในครั้งนี้ ทางเลือกมีค่อนข้างจำกัด
แต่หากต้องแลกมากับการเสียเลือดเนื้อของพลเรือนจำนวนมาก ก็ต้องเสี่ยงถูกประณามโดยประชาคมโลกอย่างแน่นอน
เป็นการตัดสินใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไม่แน่นอนในระดับที่ไม่เคยต้องเผชิญมาก่อนเช่นกัน
อีกด้านหนึ่งคือ เสียงเตือนจากอิหร่าน
อิหร่านเตือนอิสราเอล : ถ้าไม่หยุดถล่มกาซา, แผ่นดินไหวแน่!
อิหร่านส่งข้อความถึงอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ผ่านทางสหประชาชาติ โดยเน้นว่าไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงในสงครามฮามาส-อิสราเอลอีกต่อไป
แต่อิหร่านจะต้องเข้าแทรกแซงหากปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซายังไม่ยุติ
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Hossein Amirabdollahian ขู่ว่าจะเกิด “แผ่นดินไหวครั้งใหญ่” ในอิสราเอล หากยังคงโจมตีฉนวนกาซาต่อไป
เสียงเตือนจากอิหร่านนี้มีขึ้นหลังจากที่เขาได้พบกับผู้นำฮิซบุลเลาะห์ ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์
“ผมรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ฮิซบุลเลาะห์ได้วางไว้ ขั้นตอนใดก็ตามที่การต่อต้านจะดำเนินการจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเอนทิตีไซออนิสต์”
“ผมขอเตือนอาชญากรสงครามและผู้ที่สนับสนุนองค์กรนี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไปให้หยุดกระทำอาชญากรรมต่อพลเรือนในฉนวนกาซา เพราะมันอาจจะสายเกินไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า”
แม้ว่าสหรัฐจะส่งกองเรือมาลาดตระเวนอยู่ในย่านนั้นเพื่อเตือนอิหร่านอย่าได้เข้าร่วมเกมสงครามนี้ แต่อิหร่านก็ไม่หวั่นเกรง เพราะมั่นใจว่ารัสเซียอยู่ข้างตนเอง
ขณะที่จีนวางตัวเป็นกลาง และไม่ประณามฝ่ายไหน
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ ออกมาตั้งคำถามว่า ในเมื่ออิสราเอลมีบ้านช่องเป็นของตนเองแล้ว ไฉนปาเลสไตน์จึงไม่มีบ้านของตัวเองบ้าง
นั่นหมายถึงการสนับสนุนสูตร “Two-State Solution” หรือการให้ปาเลสไตน์ได้รับการยอมรับเป็นรัฐเคียงข้างกับอิสราเอล
ในยามนี้การพูดจาเรื่องนี้คงจะไม่ได้รับความสนใจจากอิสราเอลหรือสหรัฐเท่าไหร่นัก
เพราะอิสราเอลต้องการจะ “จัดการ” กับ “ภัยคุกคาม” จากฮามาสก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการเจรจาหรือการต่อรองทางการเมือง
นี่คือสงคราม
และสงครามนั้นตัดสินกันด้วยการสร้างความได้เปรียบในสนามรบ เพื่อนำไปสู่การต่อรองบนโต๊ะเจรจา
ยิ่งวันก็ยิ่งเห็นภาพที่น่าท้อแท้ เพราะเด็ก, ผู้หญิงและคนแก่ยังต้องตายและบาดเจ็บอีกกี่คนจึงจะเกิดข้อตกลงหยุดยิง?
ณ จุดนี้ไม่มีใครมีคำตอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


