เมื่อเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาสรอบใหม่นี้ คนที่น่าจะมีความกังวลไม่น้อยไปกว่าผู้นำตะวันตกและตะวันออกกลางน่าจะเป็นประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน
ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียย่อมมองเห็นโอกาสที่จะกดดันให้ตะวันตกและยูเครนต้องถอยจากสงครามข้างบ้านของตน
เซเลนสกีกลัวโลกจะลืมยูเครน
ขณะที่ปูตินเห็นโอกาสที่จะทำให้คนลดความสนใจยูเครน
และอาจจะนำไปสู่การที่โลกตะวันตกลดความช่วยเหลือเซเลนสกี เพราะต้องหันไปสนับสนุนอิสราเอล
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สหรัฐ รีบออกแถลงการณ์ทันทีว่าวอชิงตันพร้อมจะสนับสนุนยูเครนและอิสราเอลไปพร้อมๆ กัน ไม่มีปัญหา
ตามมาด้วยการเสนองบประมาณก้อนใหญ่ก้อนใหม่ที่รวบเอาเงินช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอลไว้ในร่างเดียวกัน
เพื่อตอกย้ำว่าอเมริกาไม่เสียสมาธิจากสงครามยูเครนไปมุ่งให้ความสำคัญกับอิสราเอลเท่านั้น
และพอสหรัฐส่งกองเรือรบไปลาดตระเวนทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อช่วยอิสราเอล ปูตินก็ต้องส่งฝูงบิน MiG-31 ขึ้นเหนือน่านฟ้าทะเลดำเพื่อแสดงแสนยานุภาพเช่นกัน
นี่ย่อมแปลว่ามอสโกก็ต้องเพิ่มทรัพยากรทางทหารเพื่อร่วมการสร้างความพร้อมรบตะวันออกกลางด้วยเช่นกัน
ตอนที่เซเลนสกีบุกสำนักงานใหญ่ของนาโตที่กรุง บรัสเซลส์เมื่อต้นเดือนนี้ ก็ได้ยินผู้นำตะวันตกถกเรื่องสงครามกันอย่างร้อนแรง
แต่หัวข้อร้อนเรื่องใหม่ไม่ใช่สงครามยูเครน
เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านั้น กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้เปิดฉากการโจมตีอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด
ทำให้โลกตะวันตกต้องระดมทรัพยากรอีกครั้งเพื่อตั้งรับความขัดแย้งครั้งใหม่ที่ทำให้ตะวันออกกลางเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกรอบ
จังหวะนั้นสังเกตได้ว่าเซเลนสกีพยายามไม่พูดหรือทำอะไรที่จะทำให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการให้ผู้นำตะวันตกสนใจสงครามอิสรเอลมากกว่าสงครามยูเครน
ผู้นำยูเครนออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อชาวอิสราเอลที่ถูกโจมตี
และวาดภาพให้เห็นสถานการณ์ที่มีความละม้ายกันระหว่างปูตินกับฮามาส
เขาบอกว่า “ปูตินกับฮามาสมีความเหมือนกันตรงที่พยายามจับประเทศที่มีเสรีภาพและเป็นประชาธิปไตยเป็นตัวประกัน นั่นหมายความว่าเราต้องชนะ เราต้องใช้ความอดทน และเราต้องการการสนับสนุนที่มั่นคงและต่อเนื่องจากพันธมิตร”
พอจะจับความได้ว่าเซเลนสกีกำลังส่งสัญญาณถึงผู้นำตะวันตกว่าอย่าลืมว่าจะต้องเดินหน้าส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน แม้จะต้องควักกระเป๋าหนักขึ้นสำหรับอิสราเอลด้วย
ว่าแล้วเขาก็เรียกร้องให้ “ผู้นำทุกคนไปเยือนอิสราเอลและแสดงการสนับสนุนต่อประชาชน”
เพราะเซเลนสกีรู้ดีถึงความสำคัญของการที่ผู้นำต่างชาติจะไปปรากฏตัวที่ประเทศที่ตนสนับสนุนเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ข่าวบอกว่าในช่วงนั้นเซเลนสกีได้บอกนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ว่าเขาพร้อมจะไปเยือนอิสราเอลพร้อมกับผู้นำคนอื่นๆ เพื่อแสดงความสามัคคี
แต่คำตอบจากกรุงเยรูซาเลมค่อนข้างจะเย็นชา: “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
เป็นการบอกปัดที่ทำให้ผู้นำยูเครนต้องคิดหนัก...ว่าอิสราเอลอาจจะไม่ต้องให้เซเลนสกีไปปรากฏตัวที่เทลอาวีฟเพื่อตอกย้ำถึงสงครามที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
เป็นไปได้ว่าเนทันยาฮูอาจต้องการให้ทั้งโลกพุ่งความสนใจมาที่อิสราเอล...ไม่วอกแวกกับยูเครนในเวลาเดียวกัน
นั่นคือสิ่งที่เซเลนสกีต้องการ แต่สำหรับผู้นำขวาจัดของอิสราเอลคนนี้ เขาคงไม่ต้องการให้ยูเครนมา “แย่งซีน” ในจังหวะที่มีความสำคัญต่ออิสราเอลเลยแม้แต่น้อย
ปัญหาของเซเลนสกีคือสงครามยูเครนยังไม่มีการ “เผด็จศึก” ในสมรภูมิใดโดยเฉพาะ
การรุกตอบโต้ขยับไปอย่างช้าๆ และรัสเซียไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้
ยูเครนกำลังเผชิญกับสงครามที่ยืดเยื้อ แต่ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในระยะยาว
สงครามอิสราเอล-ฮามาสเกิดขึ้นท่ามกลางความสับสนวุ่นวายในรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา
ทำให้เริ่มมองเห็นปัญหาของความเป็นเอกภาพของสหรัฐกับสหภาพยุโรปต่อการยืนหยัดอุ้มยูเครน
สิ่งที่เซเลนสกีหวั่นที่สุดน่าจะเป็นความวิตกว่าโลกอาจจะกำลังแสดงอาการ “เหนื่อยล้าสงคราม”
เพราะการสู้รบยืดเยื้อและงบประมาณที่ต้องจ่ายยังไม่มีทีท่าจะลดน้อยลงได้เมื่อไหร่อย่างไร
พอรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปจัดการประชุมตามปกติในเวลาต่อมา ยูเครนจะไม่ใช่หัวข้ออันดับหนึ่งในวาระการประชุม
ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่วาระอันดับหนึ่งถูกแทนที่โดยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส
จะไม่ให้เซเลนสกีกลับบ้านแล้วนอนไม่หลับได้อย่างไร
ต่อมาประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติแพ็กเกจงบประมาณทางทหารก้อนใหม่ให้ทั้งยูเครนและอิสราเอล
“เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้ก่อการร้าย เช่น ฮามาสและทรราช เช่น ปูตินได้รับชัยชนะ ผมจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด” ไบเดนแถลง
เท่ากับเป็นการบอกกล่าวกับคนอเมริกันและชาวโลกว่า วอชิงตันกำลังต้องแบกรับภาระของทั้งสงครามพร้อมๆ กัน
สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 608 วันนี้ และชาวยูเครนอาจจะกลัวว่ามันกำลังจะจบลงแบบที่พวกเขาไม่ต้องการเห็น
นั่นคือการลดความช่วยเหลือจากตะวันตกและการลดความสนใจของโลกต่อยูเครน
ในความเห็นของคีรีโล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน สงครามระยะสั้นระหว่างอิสราเอลและฮามาสไม่น่าจะยืดเยื้อ และไม่น่าจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อการสนับสนุนของตะวันตกต่อยูเครน
แต่เขาก็ยอมรับว่า ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปก็ค่อนข้างชัดเจนว่าจะมีปัญหาสำหรับยูเครน เพราะมีความจำเป็นต้องจัดหาอาวุธและกระสุนเพื่อเดินหน้าสู้รบต่อไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่านักวิเคราะห์หลายสำนักเชื่อว่าสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาสกำลังเบี่ยงเบนความสนใจของชาติตะวันตกจากการช่วยเหลือยูเครน
อีกทั้งความสนใจของสื่อนานาชาติต่อสงครามยูเครนอาจจะลดน้อยถอยลง
ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อการจัดลำดับความสำคัญของความสนใจทางการเมือง
ซึ่งอาจจะหมายถึงการจัดสรรทรัพยากรให้กับยูเครนน้อยลงอย่างปฏิเสธไม่ได้
ความท้าทายสำหรับเซเลนสกีคือ การยังเดินหน้าตีฆ้องร้องป่าวเรื่องสงครามยูเครนให้ต่อเนื่องและไม่แผ่ว
ขณะที่พยายามจะเชียร์ให้มีการเจรจาสงบศึกที่ตะวันออกกลาง...แม้ว่าจะไม่เห็นโอกาสนี้ระหว่างยูเครนกับรัสเซียเลยก็ตาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


