หนึ่งในความ “มหัศจรรย์” ของสงครามอิสราเอล-ฮามาสคือ “เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน” ที่ฉนวนกาซา
นี่คือ “อาวุธลับ” ของฝ่ายฮามาสที่อิสราเอลต้องหาทางแก้ปมให้ได้ หากต้องการจะ “บดขยี้” ศัตรูติดอาวุธที่ใช้ยุทธศาสตร์ทั้งแบบกองโจรและทันสมัยในการต่อกรกับกองทัพอิสราเอล
อุโมงค์มากมายที่เป็นเหมือน “ใยแมงมุม” ใต้ดินนั้นเป็นช่องทางที่ใช้แบบอเนกประสงค์
ในยามปกติใช้ในการลักลอบขนสินค้าจากอียิปต์ ส่วนในยามศึกก็ใช้เป็นช่องทางต่อสู้กับทหารอิสราเอล
นอกเหนือจากอุโมงค์ใต้ดินบริเวณติดกับชายแดนอียิปต์แล้ว ยังมีเครือข่ายใต้ดินแห่งที่สองที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) เรียกขานว่าเป็น "รถไฟใต้ดินในฉนวนกาซา"
นั่นคืออุโมงค์เขาวงกตขนาดมหึมา ที่วิ่งผ่านชั้นใต้ดินหลายกิโลเมตร
มีเป้าหมายเพื่อขนส่งผู้คนและสินค้า
อีกทั้งเพื่อเก็บจรวดและคลังกระสุน
และยังเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการและควบคุมของกลุ่มฮามาส
ทั้งหมดนี้อยู่นอกเป้าหมายทำลายของเครื่องบินและโดรนสอดแนมของฝ่ายอิสราเอล
ในปี 2021 กลุ่มฮามาสอ้างว่าได้สร้างอุโมงค์ใต้ฉนวนกาซาความยาว 500 กิโลเมตร
หากเป็นจริง อุโมงค์ใต้ดินของฮามาสจะมีความยาวน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของระบบรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กซิตีเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามเรื่องนี้บอกว่า นั่นคือเครือข่ายอุโมงค์ที่ซับซ้อนมากและซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็ก
ไม่แน่ชัดว่าการขุดเครือข่ายอุโมงค์นั้นต้องใช้เงินทองเท่าไหร่ และมีใครช่วยสนับสนุนในการสร้างระบบป้องกันทางด้านความมั่นคงอย่างหนาแน่นเพียงนี้
ฉนวนกาซาอยู่ในวงล้อมทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศของอิสราเอลมาตลอด
อีกด้านหนึ่งก็ถูกปิดล้อมทางบกโดยอียิปต์
มีคำถามว่า เขาใช้อุปกรณ์อะไรในการขุดอุโมงค์เหล่านี้
เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่ปกติใช้สร้างอุโมงค์ลึกใต้ดินมาขุดระบบใต้ดินขนาดนี้
น่าจะเปรียบเทียบได้กับวิธีการขุดอุโมงค์ใต้ดินของนักรบเวียดกง ที่ใช้ต่อสู้กับทหารอเมริกันในช่วงสงครามเวียดนาม
แต่ของเวียดกงค่อนข้างจะใช้วิธีการธรรมชาติ เพราะไม่มีอุปกรณ์การขุดอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนที่เราเห็นที่ฉนวนกาซา
สำหรับเวียดกงในสมัยนั้น การขุดหลุมบ่อและทางเดินใต้ดินมีไว้เพื่อหลอกล่อทหารอเมริกันที่ไม่คุ้นเคยสภาพป่าเขาของเวียดนาม
อีกทั้งยังใช้เป็นที่ซ่องสุมผู้คนและอาวุธเพื่อต่อสู้กับกองทัพของมหาอำนาจ
ทหารฮามาสก็เช่นกันต้องใช้วิธีการขุดอุโมงค์เพื่อต้านการรุกของทหารอิสราเอล ที่ได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของตะวันออกกลางเลยทีเดียว
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า อุโมงค์ฮามาสแตกต่างจากอุโมงค์อัลกออิดะห์ในภูเขาของอัฟกานิสถาน หรือเวียดกงในป่าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตรงที่ว่า
เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ฉนวนกาซาอยู่ ณ จุดที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ประชากร 2.4 ล้านคนเบียดเสียดกันอยู่ในพื้นที่เพียง 365 ตารางกิโลเมตร
ความหนาแน่นของประชากรต่อหนึ่งตารางกิโลเมตรที่นี่คือ 6,507 คน
เทียบเท่ากับความหนาแน่นเฉลี่ยของฮ่องกง
แต่อยู่ในสภาพที่ยากจนและขาดแคลนกว่าฮ่องกงหลายร้อยเท่านัก
ตั้งแต่สงครามรอบใหม่ระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทหารอิสราเอลได้กล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสซ่อนตัวอยู่ในจุดชุมชนของพลเรือน
อิสราเอลกล่าวหาว่านักรบฮามาสใช้กลยุทธ์ “โล่มนุษย์” เช่นซ่อนอยู่ใต้บ้านและภายในอาคารที่มีพลเรือนชาวกาซาผู้บริสุทธิ์อาศัยอยู่
หนึ่งในตัวประกันไม่กี่คนที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวเล่าให้นักข่าวฟังว่า เธอถูกกลุ่มมือปืนลักพาตัวและนำเข้าไปในระบบอุโมงค์ในฉนวนกาซาที่ว่านี้แหละ
คุณยายวัย 85 ปีเล่าว่า เธอถูกบังคับให้เดินบนพื้นเปียกๆ และลงไปในระบบอุโมงค์ใต้ดิน
เธอบอกว่ามันมีความซับซ้อนเหมือนใยแมงมุม
เธอและตัวประกันคนอื่นๆ ถูกแยกเป็นกลุ่มและนอนบนที่นอนบนพื้นอุโมงค์
ทหารอิสราเอลพยายามจะเจาะเข้าไปในเครือข่าย เพราะการถล่มทางอากาศอาจจะไม่สามารถทำลายอุโมงค์เหล่านี้ได้มากนัก
หลายปีที่ผ่านมา ทหารอิสราเอลพยายามกำจัดอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสมาตลอด แต่ก็ไร้ผล
เมื่อปี 2014 อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา โดยหนึ่งในเป้าหมายคือการพยายามกำจัดทางเดินใต้ดิน
แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้สำเร็จเสมอไป
อิสราเอลอาจคิดว่า หากอพยพพลเรือนออกจากเมืองกาซาจะช่วยให้การกำจัดอุโมงค์ทำได้ง่ายขึ้น
แต่ปฏิบัติการเช่นนี้ก็จะสร้างความเสี่ยงใหม่ๆ ให้ฝ่ายอิสราเอลได้เช่นกัน
อย่างมากทหารอิสราเอลคงจะทำให้อุโมงค์บางส่วนไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว
แต่การจะทำลายระบบใต้ดินทั้งหมดของฮามาสคงเป็นเรื่องเกินกำลัง
เว้นเสียแต่ว่าอิสราเอลจะใช้วิธีการยึดครองพื้นที่ทั้งหมดของฉนวนกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาออกไปอยู่ในอียิปต์
ซึ่งเป็นหนึ่งใน “ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด” ที่ฝ่ายอาหรับกล่าวหาอิสราเอลอยู่ในขณะนี้
หนึ่งในยุทธศาสตร์ของอิสราเอลคือ การใช้เทคโนโลยี นั่นรวมถึงการทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อพยายามรักษาความปลอดภัยชายแดนด้วยระบบอัจฉริยะที่มีเซ็นเซอร์ขั้นสูงและกำแพงใต้ดิน
แต่คำถามก็คือ ขนาดอิสราเอลสร้าง “กองทัพอัจฉริยะ” หรือ Smart Army ได้ขนาดนี้ ไฉนกลุ่มฮามาสจึงยังสามารถเปิดศึกโจมตี “แบบสายฟ้าแลบ” ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมได้?
นี่คือความล้มเหลวของระบบข่าวกรองและการบริหารจัดการวิกฤตด้านความมั่นคงของอิสราเอลที่เหลือเชื่อจริงหรือ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


