"ฮีโร่"

ผ่านร้อนผ่านหนาวมาครบถ้วนทุกรูปแบบ  จนไม่หวั่นเกรงหรือวิตกกังวลอะไรแล้ว   สำหรับ  "หลาดา" ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย (มท.3 )  และ ส.ส.อุทัยธานี  พรรคภูมิใจไทยในวัย 61 ปี นี้ขอใช้อิทธิพลในทางที่ดีสร้างบ้านสร้างเมือง ทำประโยชน์เพื่อสวนร่วมตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น ลุยงานปราบมาเฟีย และปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักอย่างสุดความสามารถ

แม้ที่ผ่านมาถูกกังขาทั้งในด้านความเป็นจำพ่อ แต้ต้องมาปราบเจ้าพ่อ จะทำได้หรือไม่   หรือกรณีถูกสะเก็ดไฟจากปมลูกเขย แต่ด้วยบทบาทและหน้าที่ก็รับผิดชอบ ก็บอกให้ลาออกพ้นจากผู้บริหารท้องถิ่นในเมืองอุทัยฯ  ขณะที่ในฐานะผู้นำครอบครัวก็พร้อมจะปกป้องในแบบฉบับของเขา

แม้จะมีข้อครหาต่างๆเกิดขึ้นมากมายแต่ “ชาดา”  ก็ไม่เคยสนใจ ตอนเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีก็เคยถูกปรามาส แต่ทำงานจนได้รับการยอมรับ ช่วงเป็น สส. ใหม่ๆ เคยถูกใส่ร้ายต่างๆ แต่แล้วกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง

ฉะนั้นระยะเวลาที่เหลือนี้ จึงเป็นโอกาสได้พิสูจน์ฝีมือ ทำในสิ่งที่ท้าท้าย ในการโค่นกลุ่มอิทธิพลเก่าและคุมกำเนิดกลุ่มอิทธิพลใหม่ รวมถึงอุทิศตัวและหน้าที่เพื่อพี่น้องชาวอุทัยธานี และคนไทย  

อย่างเหตุการณ์ล่าสุด เกิดเพลิงไหม้ในอาคารกลางเมืองอุทัยธานี  ขณะนั้น "ชาดา"  ซึ่งกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยวในงานประเพณีตักบาตรเทโว 

เมื่อได้ทราบเรื่อง  จึงรีบบุกเข้าไปภายในอาคารหลังดังกล่าวที่กำลังเพลิงไม้ เพื่อไปช่วยผู้สูงอายุหญิงอายุ 76 ปี  พร้อมนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย  ท่ามกลางครอบครัว ญาติ พี่น้อง สามี ผู้ประสบเหตุการณ์โผกอดกันด้วยความโล่งใจ

ปะหน้า "รมต.ชาดา"   บอกว่า "ผมเป็นอดีตนายกเทศมนตรี รู้วิธีการดับไฟ และวิธีการเข้าไปช่วยผู้สูงอายุ และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ในจังหวัดอุทัยธานีก็เข้าไปช่วยอยู่เสมอ"

นี่คือบทบาทและหน้าที่ปกติของ“ชาดา"  ในฐานะขวัญใจและฮีโร่ของชาวอุทัยฯ ส่วนคนอื่นๆจะมองเขาแบบไหนถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’

ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย

'ทำอะไรต่อ?'

หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

'ไม่ตรงกับความจริง'

ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา

“ขอบคุณทุกน้ำใจ”

ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน

ไม่ยอมป่วย

ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

มีแต่คนรัก

ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ