โลกสองใบของนายพิธา

มีขึ้นก็ต้องมีลง เช่นเดียวกับ “ก้าวไกล” ตอนนี้กระแสขาลงจริงๆ แฟนคลับที่เคยให้การสนับสนุนบางส่วน เริ่มคิดทบทวนจะยังชื่นชมพรรคนี้ต่อไปหรือไม่ แล้วจะโทษใครก็ไม่ได้เพราะเกิดจากบุคลากรของพรรคทั้งนั้น

การแปรอักษรสแตนด์เชียร์งานกีฬาจตุรมิตร มีประเด็นเกิดขึ้นมากมาย ล่าสุด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดนจับโกหกอีกแล้ว มีโลกสองใบในการขึ้นสแตนด์เชียร์

 “แทนคุณ จิตต์อิสระ” รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าการโกหกแม้กระทั่งอดีตตัวเอง เช่นกรณีของนายพิธาที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า

เคยขึ้นสแตนด์เชียร์ แปรอักษรของกรุงเทพคริสเตียน 2 ครั้ง ตอนอายุ 11 ขวบ สมัยเรียนเพราะเขาไปเรียนต่างประเทศช่วงนั้น หรืออย่างมากอยู่ถึง ม.1 น่าจะอายุ13 ซึ่งเท่าที่ทราบโรงเรียนจะให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นคือ ม.2 และ ม.3 ร่วมกับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายคือ ม.4 ทำหน้าที่แปรอักษร และมีน้อง ม.1 คอยเป็นตัวสำรอง!!!

 “อี้” แทนคุณ บอกต่ออีกว่าสอดคล้องกับที่รุ่นพี่จตุรมิตรออกมาแฉว่า เป็นไปไม่ได้ที่พิธาจะเคยแปรอักษร 2 ครั้งในช่วงที่ยังเรียนประถมอาจคาบเกี่ยว ม.1 เพราะจัด 2 ปีครั้ง ดังนั้นสิ่งที่พิธาสัมภาษณ์มา คือการ "โกหก" อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่เคยโกหกเกี่ยวกับการบินกลับมาร่วมงานศพคุณพ่อของตนเอง ที่สร้างทั้งความสับสนและงุนงงว่ากลับมาทันไหม ขึ้นเครื่องบินกลับมาในฐานะอะไรกันแน่

 “ผมรู้สึกสงสัยในเรื่องนี้ และลองสืบค้นดูเกี่ยวกับพฤติกรรมการโกหกอดีตตัวเองเพื่อการยอมรับ โดยผมไปหาความรู้ทางจิตวิทยาพบมีอาการหนึ่งที่เรียกว่า อาการหลงตัวเองแบบหลบใน หรือ Covert Narcissism คือมีการแสดงออกที่หลบซ่อน เก็บอาการเก่ง คนอื่นดูไม่ค่อยออกว่าเขาเป็นคนหลงตัวเอง โดยคนที่มีภาวะดังกล่าวเขาจะมีความกระหายการได้รับคำชม อยากได้รับการให้ความสำคัญจากคนอื่นตลอดเวลา โดยจะยอมโกหกหรือพูดอะไรเกินจริง ทำในสิ่งที่ตนเองก็ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ”

ตอนท้าย “แทนคุณ” ย้ำว่าตัวเองรู้สึกเป็นห่วงนายพิธาจากใจจริง หากแม้ยังโกหกเกี่ยวกับตัวเองต่อหน้าผู้อื่นบ่อยครั้งต่อไป อาจถลำลึกจนยากถอนตัวออกมาได้ ทั้งนี้อาจเกิดจาก "ติดกับดักความสำเร็จในอดีต" ตั้งแต่วัยรุ่นทำให้เสพติดสิ่งเหล่านี้ จึงอยากแนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อความสบายใจของแฟนด้อมต่อไป.

 

มินนี่เมาธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ดวงเฮงแม้จมบ๊วย’

ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า หลายคนเริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันแล้ว ยกเว้นนักการเมืองที่ยังวุ่นกันสุดๆ ในตอนนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองบีบคั้น เนื่องจากมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งในช่วงนี้

‘ขออะไรทำให้หมด’

ช่วงนี้เข้าสู่เทศกาลหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะได้มีการจับหมายเลขกันแล้วเรียบร้อย ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองต่างก็กระจายสรรพกำลังลงพื้นที่หาเสียงทั่วทั้งประเทศ

สู้ครั้งสุดท้าย

สนามเลือกตั้งคึกคักทั่วไทย หลังผู้สมัครและทุกพรรคจับเบอร์กันเรียบร้อย ก็ลุยหาเสียงทันที ทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ต่างงัดกลยุทธ์และไม้เด็ดต่างๆ มาสู้คู่แข่ง ที่สำคัญคือนโยบาย ตัวผู้สมัคร และตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่จะช่วยกันโกยคะแนน งานนี้ทุกพรรคต่างฟิตสู้ศึกรอบนี้

หลายคนนับถือหัวใจ

ถือว่าสะเทือน หลัง ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุเรื่องสุขภาพ ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.หลายคนถือจังหวะกระโดดหนีไปหาต้นสังกัดใหม่เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในครั้งนี้

เข้าใจคนชายแดน

ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด

เปิดซีเกมส์อีกรอบ

การเมืองช่วงนี้ทำให้เราเหนื่อยมากพอแล้ว ย้ายมาวงการการเมืองผสมกีฬาหน่อย ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีคนเก่งของเรา ที่ไปสร้างตำนานโป๊ะแตกในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ นี่เอง