"โคคณิตศาสตร์"

"ได้เวลาหลุดพ้นความยากจน"  เมื่อ  "รมต.แฮงค์" อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์  ชูนโยบาย "โคคณิตศาสตร์"  ที่ต้องการพลิกชีวิตเกษตรกรไทย จากที่ทำนา มาเลี้ยงโคเงินล้าน ไปสู่ความร่ำรวยโดยใช้เวลาไม่นาน  

นโยบายนี้ไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นจากรัฐบาลนี้ แต่ "อนุชา" ผลักดันตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในรัฐบาลที่ผ่านมา  

ภายใต้ชื่อ "โคล้านครอบครัว"  สมัยที่รับผิดชอบสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)  และเปิดโอกาสให้สมาชิกเข้าร่วมโครงการเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ 

"อนุชา" เล่าความเป็นมา จริงๆแล้วแนวคิดเรื่องการเลี้ยงโคนั้น มาจากไอเดียนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ และ รัฐมนตรี 14 สมัย   ที่ตัวเองรู้จักกันมาตลอด 30 ปีที่ผูกพันและทำการเมืองด้วยกัน แต่เมื่อมีโอกาสตัวเขาเอาก็สามารถผลักดันเป็นนโยบายให้เกิดขึ้นจริง   

ด้วยการผลิตวัวต้นน้ำ ที่กินหญ้าเป็นอาหาร  จึงประหยัดต้นทุนการผลิต  สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก หรือ ควบคู่กับการทำนาสร้างรายได้ 

ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เตรียมขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศเช่นจีนและ ซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องการเนื้อวัวปริมาณสูงไว้รองรับ 

เมื่อเร็วนี้ๆ "อนุชา"  จึงลงพื้นที่ ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย พบปะกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว และ ดูแปลงต้นแบบตัวอย่าง ที่ปรับเปลี่ยนจากปลูกข้าวเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จํานวน 11 ไร่   และสามารถเลี้ยงวัวได้ประสบความสำเร็จ  

โดยแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่  1. ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จํานวน 7 ไร่ (หญ้าแพงโกล่า) 2. ที่อยู่อาศัย และสระน้ํา จํานวน 2 ไร่ 3. คอกวัว จํานวน 2 ไร่ (50 ตัว)   

"อนุชา" บอกว่า เกษตรกรไทยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ซึ่งการเปลี่ยนอาชีพมาเลี้ยงโคคณิตศาสตร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างรายได้ ใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็สามารถคืนทุนได้ 

จึงอยากเห็นพี่น้องเกษตรกรไทย ซึ่งเป็นกำลังซื้อส่วนใหญ่ของประเทศสร้างเงิน สร้างรายได้ จาก “เงินบาทแรกของแผ่นดิน”

นี่คือโอกาสที่เกษตรกรไทยจะหลุดพ้นจากความยากจนด้วย "โคคณิตศาสตร์" ที่ “รมต.แฮงค์” คิดไว้ให้เสร็จสรรพแล้ว 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ดวงเฮงแม้จมบ๊วย’

ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า หลายคนเริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันแล้ว ยกเว้นนักการเมืองที่ยังวุ่นกันสุดๆ ในตอนนี้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองบีบคั้น เนื่องจากมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งในช่วงนี้

‘ขออะไรทำให้หมด’

ช่วงนี้เข้าสู่เทศกาลหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะได้มีการจับหมายเลขกันแล้วเรียบร้อย ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองต่างก็กระจายสรรพกำลังลงพื้นที่หาเสียงทั่วทั้งประเทศ

สู้ครั้งสุดท้าย

สนามเลือกตั้งคึกคักทั่วไทย หลังผู้สมัครและทุกพรรคจับเบอร์กันเรียบร้อย ก็ลุยหาเสียงทันที ทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ต่างงัดกลยุทธ์และไม้เด็ดต่างๆ มาสู้คู่แข่ง ที่สำคัญคือนโยบาย ตัวผู้สมัคร และตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ที่จะช่วยกันโกยคะแนน งานนี้ทุกพรรคต่างฟิตสู้ศึกรอบนี้

หลายคนนับถือหัวใจ

ถือว่าสะเทือน หลัง ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุเรื่องสุขภาพ ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.หลายคนถือจังหวะกระโดดหนีไปหาต้นสังกัดใหม่เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในครั้งนี้

เข้าใจคนชายแดน

ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด

เปิดซีเกมส์อีกรอบ

การเมืองช่วงนี้ทำให้เราเหนื่อยมากพอแล้ว ย้ายมาวงการการเมืองผสมกีฬาหน่อย ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีคนเก่งของเรา ที่ไปสร้างตำนานโป๊ะแตกในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ นี่เอง