
คนไทยได้ยินเรื่องโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายมานานพอสมควร
เพราะไทยเรามีส่วนเข้ามาร่วมพัฒนาในหลายมิติ แต่พอเกิดรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีก่อน ทุกอย่างก็ชะงัก
ล่าสุดรัฐบาลทหารเมียนมาเลือกรัสเซียให้ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย
จุดชนวนความตึงเครียดกับจีน
เพราะปักกิ่งเคยแสดงความสนใจในการพัฒนาท่าเรือใกล้ชายแดนไทยด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้สื่อพม่ารายงานว่ารัฐบาลทหารมีความกระตือรือร้นที่จะลงทุนในโครงการท่าเรือแห่งนี้
โดยควบคู่ไปกับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันด้วย
ความจริง ก่อนหน้านี้จีนได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับท่าเรือทวาย
แต่ต่อมาเปลี่ยนความสนใจไปที่ท่าเรือน้ำลึกจักพยู ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือสิตตะเวที่สร้างโดยอินเดีย
การที่รัฐบาลทหารพม่าของมิน อ่องหลายมีโน้มเอียงไปทางรัสเซียได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากจีน
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเมียนมาที่เกาะติดเรื่องนี้บอกว่าแม้ปักกิ่งกับมอสโกจะมีความสนิทสนมกัน แต่ในหลาย ๆ เรื่องที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันในภูมิภาคนี้ ก็เกิดกรณีเหยียบตาปลากันได้
เพราะจีนถือว่าตนเป็นใหญ่ประเทศในย่านนี้ และรัสเซียอยู่ห่างไกลออกไป
ท่าเรือทวายตั้งอยู่ในภูมิภาคตะนาวศรีบนชายฝั่งตะวันออกของเมียนมาหรือฝั่งทะเลอันดามัน
ที่มีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์เพราะเป็นเสมือนประตูสำคัญสู่ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่งเชื่อมต่อกับไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม และจีน
ท่าเรือน้ำลึกทวายยังมีศักยภาพในฐานะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการค้าตู้คอนเทนเนอร์ของประเทศไทย
เพราะตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ และเชื่อมต่อกันด้วยโครงข่ายถนนที่ได้รับการพัฒนาแล้วเป็นอย่างดี
มีรายงานด้วยว่าเมียนมาและรัสเซียกำลังเข้าสู่กระบวนการหารือเกี่ยวกับโครงการท่าเรือทวายอย่างจริงจังแล้ว
นักวิเคราะห์มองว่ารัฐบาลทหารพม่าพยายามกระชับความสัมพันธ์กับมอสโกก็เพื่อถ่วงดุลอิทธิพลของจีนในประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ
ภายใต้โครงการนี้ มีแผนก่อสร้างท่าเรือทวายที่สามารถรับสินค้าได้ 10 ล้านตัน และโรงกลั่นน้ำมันที่สามารถผลิตได้ 100,000 บาร์เรลต่อวัน
แต่ปักกิ่งมีความกังวลว่าถ้ารัสเซียมายึดโครงการทวายก็จะมีผลกระทบต่อโครงการที่เมืองจอก์พยูที่จีนมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดมาระยะหนึ่งแล้ว
จีนมองเห็นศักยภาพของการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งในบริบทที่กว้างขวางขึ้นของพลวัตทางการค้าในภูมิภาค
และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ BRI หรือ Belt and Road Initiative ของจีนด้วย
แต่ถ้าถามเพื่อนบ้านอีกคนคืออินเดีย ก็อาจะได้คำตอบว่าเขาอยากเห็นบทบาทรัสเซียในทวายมากกว่าจีน
ทวายตั้งอยู่ใกล้อินเดีย จึงมีความกังวลเรื่องการแข่งขันระหว่างจีนกับรัสเซียในพื้นที่ใกล้ตนเช่นนั้น
อินเดียมีเหตุผลจะต้องระแวงจีนในประเด็นนี้เพราะจีนได้เข้ามามีบทบาทค่อนข้างคึกคักในบริเวณที่ตั้งด้านยุทธศาสตร์ของเมียนมาในอ่าวเบงกอล
ในอดีต อินเดียเล่นบทสำคัญในการเป็นผู้พิทักษ์รักษาความปลอดภัยรายสำคัญในภูมิภาค
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรือดำน้ำที่อินเดียจัดหาให้เมียนมานั้นมีต้นกำเนิดจากรัสเซีย
นอกจากนี้ บริษัทในอินเดียและรัสเซียยังได้ร่วมมือกันจัดการสนามบินใกล้กับท่าเรือ Hambantota ที่จีนควบคุมในศรีลังกา
นักสังเกตการณ์บอกว่ารัฐบาลทหารพม่ากำลังพยายามลดการพึ่งพาจีนและกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียในโครงการด้านยุทโธปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนและเศรษฐกิจต่างประเทศของเมียนมาเยือนกรุงมอสโกเพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือ เขตเศรษฐกิจพิเศษ โรงกลั่นปิโตรเลียม และโครงการพลังงาน
อีกด้านหนึ่ง เมียนมาเพิ่มการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว
เพื่อนำมาเสริมกองทัพอากาศของตนในการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านที่ทำท่าจะมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นทุกขณะ
ดังนั้น เราจึงเห็นความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างเมียนมาและรัสเซียที่เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น
เห็นได้จากที่กองเรือรัสเซียมาเยือนฐานทัพเรือพม่าและมีการฝึกซ้อมด้านความมั่นคงทางทะเลร่วมกันเป็นระยะ ๆ
ในระหว่างที่หัวหน้าฐานทัพเรือ Sittwe เยือนรัสเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการลงนามข้อตกลงมูลค่า 35 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 1,200 ล้านบาท
ต้องไม่ลืมว่า รัสเซียเป็นผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารรายใหญ่ที่สุดของเมียนมา
รวมถึงเครื่องบินรบซูคอยและเครื่องยิงจรวด มูลค่ารวม 406 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 14,000 ล้านบาท
มิน ออง หล่าย หัวหน้ารัฐบาลทหารของเมียนมาเยือนรัสเซียสามครั้งนับตั้งแต่ยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 นอกจากนี้ เมียนมายังเป็นคู่เจรจาขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ในปี พ.ศ. 2565
ไม่แต่เท่านั้น รัสเซียยังกำลังจัดการฝึกอบรมพลซุ่มยิงและโดรนแก่เมียนมาผ่านบริษัททหารเอกชน วากเนอร์ และเวกา สตราทิจิ เซอร์วิส
พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญภาคพื้นดินในพื้นที่เป็นเขตปฏิบัติการของกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทนิวเคลียร์ ROSATOM ของรัสเซียอาจจัดหาเครื่องปฏิกรณ์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็กให้กับเมียนมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว
พม่าเปิดศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งแรกด้วยเงินสนับสนุนจากมอสโก
เอกชนไทยมีความผูกพันกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายไม่น้อย
แต่ก่อนหน้ารัฐประหารในพม่าเล็กน้อย ก็มีการประกาศยกเลิกสัมปทานเอกชนไทยในโครงการท่าเรือน้ำลึก
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนสมการแห่งดุลอำนาจในพม่าอีกครั้ง
ตอนนั้นมีข่าวว่าเกิดคู่แข่งรายใหม่ นั่นคือ นอกจากไทยและญี่ปุ่นที่ต้องการลงทุนในโครงการนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม จีนก็กระโดดเข้ามาอย่างเปิดเผย
จะว่าไปแล้ว ไทยมีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุดในโครงการนี้เพราะเชื่อกันว่าหากเกิดได้จริง ท่าเรือน้ำลึกทวายจะพลิกโฉมทิศทางโลจิสติก์ในภูมิภาค
มีการวิเคราะห์กันว่าหากเกิดขึ้นจริง โครงการนี้จะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน
นักวิเคราะห์บางสำนักมองตอนนั้นว่าเส้นทางทางการค้าโลกได้เปลี่ยนผ่านจากการขนส่งสินค้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาสู่การขนส่งสินค้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะสหรัฐ ฯ และจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และ 2 ของโลกวันนี้
แต่อีก 30 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะเปลี่ยนผ่านอีกครั้งมาเป็นจีนและอินเดีย
อันจะทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับทะเลจีนใต้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถึงตอนนั้น คาบสมุทรอินโดจีนจะกลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ
จึงมองกันว่า ท่าเรือน้ำลึกทวายจะช่วยปลดล็อกทางออกของมหาสมุทรอินเดียให้กับไทย
การศึกษาพบว่า ไทยมีความได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ดังนั้น การไหลของสินค้าในคาบสมุทรอินโดจีนนับตั้งแต่จีนตอนใต้ลงมาย่อมจะขนส่งได้สะดวกรวดเร็วกว่าหากผ่านทางประเทศไทย
มองกันต่อด้วยว่าโครงการทวายจึงน่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับไทยเพิ่มขึ้นอีกหากโครงการทวายเกิด
ในกรณีนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงที่ไทยจะได้เป็นศูนย์กลางของสะพานเชื่อม (land bridge) ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้
แต่วันนี้ เมื่อจีนกับรัสเซียกำลังจ้องกันอยู่ ไทยเราจึงต้องหันมาทบทวนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับบริบทที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

