อองซาน ซูจี: เสียงกังวล จากลูกชายในวันเกิดที่ 79

วันนี้ “สหายร่วมรบ” รุ่นเดียวกันที่ร่วมกันตั้งพรรค NLD เมื่อปี 1988 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 41 จากโลกนี้ไปทีละคนสองคน

จนวันนี้เหลือเธอคนเดียวในรุ่นก่อตั้ง

และยังมองไม่เห็นอนาคตของประเทศของตนเองว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้อย่างไร

อีกทั้ง แม้จะมีการเจรจาสงบศึกได้จริงๆ ก็ยังไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าโครงสร้างการเมืองของพม่าที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้นั้นจะมีหน้าตาและเนื้อหาอย่างไร

สื่อพม่าหลายสำนักรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เครือข่ายชาวพม่าพลัดถิ่นในหลายประเทศ (รวมทั้งในไทย) ได้จัดพิธีทำบุญฉลองวันเกิดให้อองซาน ซูจี

นักเคลื่อนไหวบางคนใช้ดอกกุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ระลึกถึงเธอ

เรียกเธอเป็น “กุหลาบเหล็ก” เพื่อแสดงความชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ในวัยที่ร่วงโรยและอยู่ในสภาพถูกกดดันโดยกองทัพอย่างต่อเนื่อง

ลูกชายของเธอ คริส อริส ซึ่งใช้ชีวิตอยู่อังกฤษ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติว่ามีความกังวลต่อสุขภาพของแม่อย่างมาก

อีกทั้งเขาไม่ได้รับรู้ข่าวคราวจากมารดาตัวเองมานานกว่า 3 ปีครึ่งแล้ว

เขาไม่เชื่อข่าวทางการพม่าว่าได้ย้ายอองซาน  ซูจี ออกจากเรือนจำไปกักบริเวณในบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว

ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างยิ่งทั่วประเทศ

สำนักข่าว Mizzima News รายงานว่าเครือข่ายชาวพม่าพลัดถิ่นในญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ได้จัดกิจกรรมร่วมรำลึกถึงวันเกิดของเธออย่างพร้อมเพรียงกัน

สื่อไทยแจ้งว่า คนพม่าในแม่สอด, จังหวัดตาก ก็มีความเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกัน

สำนักข่าว Myanmar Now รายงานว่าเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อนักโทษการเมืองในเมียนมาก็จัดกิจกรรมวางดอกไม้ในรัฐมอญของเมียนมาเพื่อรำลึกถึงวันเกิดของเธอเช่นกัน

คริส อริส บอกสื่อต่างชาติว่าเขาได้พูดคุยกับแม่ครั้งสุดท้ายก่อนเกิดรัฐประหารพม่าปี   2021

หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ก็ได้รับจดหมายจากแม่เพียงฉบับเดียว

คริสเล่าว่าเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เขาได้รับแจ้งจากรัฐบาลทหารพม่าว่าแม่เกิดอาการป่วย มีอาการปวดฟันและวิงเวียนศีรษะ

รัฐบาลทหารอ้างต่อมาว่าได้อนุญาตปล่อยตัวอองซาน ซูจี ออกจากเรือนจำขนาดใหญ่ในกรุงเนปยีดอไปใช้วิธีกักตัวที่บ้านพักเพื่อรักษาอาการป่วยแทน

แต่คริสบอกว่าเขาและพี่ชาย อเล็กซานเดอร์  อริส ไม่เชื่อว่าทางการทหารพม่าได้ทำตามที่ประกาศเช่นนั้น

เพราะไม่มีรูปหรือหลักฐานยืนยันใดๆ จากคุณแม่ว่ามีการย้ายที่คุมขังจริง

 คิม อริส บอกเอเอฟพีว่า อองซาน ซูจี ได้ใช้เวลาเกือบ 1 ใน 4 ของชีวิตภายใต้การถูกควบคุมตัวในบ้านภายใต้คำสั่งของกองทัพ

เขาบอกว่า แม้ว่าสถานการณ์แห่งความผิดปกติอันยาวนานเช่นนั้นจะเป็นเสมือนการเตรียมตัวให้แม่ของตนพร้อมรับมือกับการสภาพการณ์ที่กดดันและน่าขมขื่นอย่างทุกวันนี้ แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นและปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ทำให้เขามีความเป็นห่วงแม่อย่างมาก

รายงานหลายกระแสในเมียนมาแจ้งว่า ระหว่างเข้าร่วมการไต่สวนคดีที่ใช้เวลานานหลายเดือนหลังเหตุการณ์รัฐประหาร ออง ซาน ซูจี ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอาการวิงเวียนหน้ามืดและอาเจียน

และบางครั้งก็รับประทานอาหารไม่ได้เพราะปัญหาติดเชื้อที่ฟัน

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยว่า ได้มีการดูแลอองซาน ซูจี “ตามความจำเป็น”

ซึ่งตีความได้ว่าหมายถึงการที่ไม่ได้ให้การดูแลด้านรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกายและจิตใจของเธอแต่อย่างใด

ในช่วงนั้น อากาศร้อนอย่างรุนแรง อุณหภูมิในเมืองหลวงกรุงเนปยีดอที่เชื่อว่าเป็นจุดคุมขังเธอพุ่งแตะระดับ 40 องศาเซลเซียส (ไม่ต่างกับที่คนไทยต้องเผชิญในช่วงเวลาใกล้ๆ กันนั้น)

สื่อ Eleven Media ของเมียนมารายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมัณฑะเลย์ได้จับกุมประชาชน 22 คนที่โพสต์ภาพของตนเองขณะเสียบดอกไม้ไว้ที่ผมเพื่อเป็นการระลึกถึงอองซาน ซูจี เนื่องในวันเกิดที่ 79 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สื่อท้องถิ่นอื่นๆ รายงานเช่นกันว่า มีการจับกุมผู้คนอีกกว่า 10 คนเพราะเสียบดอกไม้ที่ผมหรือออกมาร่วมการสวดภาวนาในที่สาธารณะ

วันนี้ในวัยใกล้ 80 ของ “หญิงเหล็กแห่งพม่า” เป็นวันแห่งความเศร้าสลดและความสิ้นหวังที่ยังไม่เห็นแม้แสงสว่างเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์แต่อย่างใด

 (พรุ่งนี้: เธอคือ “นักรบเพื่อประชาธิปไตยรุ่นก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย”).