
ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด
ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกวันอังคาร วิษณุ จะไปที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งมีห้องทำงาน และสถานที่คุ้นเคยตั้งแต่รับราชการก่อน
เสร็จแล้วจะนั่งรถยนต์มาตึกบัญชาการ 1 สถานที่ประชุม ครม. โดยใช้ทางขึ้น ฝั่งติดกับตึกนารีสโมสร แล้วค่อย ๆ เดินเข้าตึกไปอย่างช้า ๆ
ทางเข้าบริเวณนี้ จะกองทัพนักข่าวคอยดักสัมภาษณ์บรรดารัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เข้าร่วมประชุม วิษณุ ยังคงเป็น ขาประจำ เสมือนเมื่อครั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะต้องถูกจิ้มไมค์สัมภาษณ์
แม้ในช่วงรัฐบาลนายเศรษฐา เจ้าของฉายา เนติบริกร ดูเหมือนจะไม่อยากให้สัมภาษณ์เท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนอะไรใน ครม. ไม่เหมือนกับตอนเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่มีความรับผิดชอบ แต่ด้วยแรงอ้อนวอน ประกอบกับความคุ้นเคยกับบรรดานักข่าว ที่มักจะใช้มุกขอความรู้ข้อกฎหมาย ทำให้ วิษณุ ใจอ่อน ต้องปริปากอยู่เสมอ
ขณะที่หลายครั้งเวลามีวาระสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. นักข่าวมักจะแซวอยู่เสมอว่า นายกฯ หรือ รัฐมนตรี มีใครขอความเห็นบ้างหรือยัง คำตอบคือ ยัง
ทำเอาหลายคนแปลกใจ อุตส่าห์แต่งตั้งนักกฎหมายชั้นเซียนที่สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงนักมา แต่เหตุใดจึงไม่ใช้บริการ
กระทั่งมีคนเมาธ์มอยให้ฟัง ตั้งแต่ อ.วิษณุ มาคอยช่วยนั่งใน ครม. เพื่อความอุ่นใจของรัฐบาลว่า จะไม่มีอะไรผิดพลาด แม้จะยังไม่มีการขอความเห็นจากปรมาจารย์กฎหมาย แต่มีครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยแสดงความเห็นเองมาแล้ว
โดยครั้งนั้น ขณะกำลังพิจารณาเรื่องสำคัญอยู่ อ.วิษณุ เลยกดไมค์อธิบายระเบียบ ข้อกฎหมายเอง โดยทุกคนตั้งใจฟัง
แล้วพอ อ.วิษณุ อธิบายเสร็จ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ อาจจะด้วยเพราะเข้าใจที่อธิบายได้ถี่ถ้วนแล้ว หรือเพราะประกาศิตของนายกฯ ไม่ทราบ
เพราะมีการแอบเมาธ์กันว่า เศรษฐา สั่งไว้ ถ้า อ.วิษณุ อธิบาย ไม่ต้องเถียง ฟังอย่างเดียว ฮ่าๆ.
ฌ.เฌอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัดไม่ปล่อย
ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

