ไต้หวัน : ชนวนสงครามรอบใหม่?

วาทะของสี จิ้นผิง จากปักกิ่ง กับของไช่ อิงเหวิน จากเกาะไต้หวัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อนแรงไม่น้อย

เพราะเรื่อง “จีนเดียว” กลับมาเป็นประเด็นใหญ่ เมื่อ สี จิ้นผิง ประกาศเนื่องในวันครบ 110 ปีแห่งการ “ปฏิวัติซินไฮ่” ที่โค่นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เมื่อ 1911 ว่าจีนจะต้อง “รวมชาติ” ให้สำเร็จเพื่อให้ไต้หวันกลับสู่ “มาตุภูมิ”

แม้สีจะเน้นว่าการรวมชาติจะใช้วิธีการ “แบบสันติ” แต่ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ผู้นำปักกิ่งจะย้ำว่า “หากมีความจำเป็น รัฐบาลจีนก็ลังเลที่จะใช้กำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายอันสำคัญนี้”

โดยเฉพาะหากไต้หวันประกาศเอกราชด้วยการแยกตัวเองออกไปเป็นอิสระ

ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ประกาศโต้ฉับพลันว่า ไต้หวันจะทำทุกอย่างเพื่อ “รักษาเสรีภาพและวิถีชีวิตประชาธิปไตยของตน” และจะไม่ยอมสยบต่อแรงกดดันของปักกิ่งเป็นอันขาด

10 วันที่ผ่านมาจึงเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกจับตาดูสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันอย่างใกล้ชิด

นั่นคือนับจากวันชาติจีน (1 ตุลาคม 2021) ถึงวันชาติไต้หวัน (10 ตุลาคม 2021) ที่เพิ่งผ่านมา

ความตึงเครียดถูกยกระดับขึ้นเมื่อจีนถือโอกาสวันชาติปีนี้ของแผ่นดินใหญ่ส่งเครื่องบินรบหลายฝูง นับจำนวนไม่น้อยกว่า 56 ลำ บินเข้าน่านฟ้าที่ไต้หวันถือว่าเป็นเขตปกป้องความมั่นคงของตน

ก่อให้เกิดบรรยากาศของการเผชิญหน้ารอบใหม่ที่ก่อให้เกิดคำถามใหญ่ว่า ถ้า สี จิ้นผิง สั่งบุกไต้หวัน สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของ โจ ไบเดน จะส่งกองกำลังมาปกป้องไต้หวันตามข้อตกลงที่มีกับเกาะแห่งนี้ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไร หรือไม่

ไต้หวันถือว่าสหรัฐเป็นพันธมิตรชิดใกล้ที่จะปกป้องตนเองและสนับสนุนให้กองทัพเรือรบของสหรัฐอเมริกาผ่านช่องแคบไต้หวันอย่างเปิดเผยมาตลอด

ช่องแคบไต้หวันนั้นจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของน่านน้ำภายในของจีน

แต่ไต้หวันก็ “อำนวยความสะดวก” ให้กับกองเรือสหรัฐแล่นผ่านโดยไม่ขออนุญาตจีนไปแล้วไม่น้อยกว่า 7 รอบ ตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา

จีนใช้วันชาติปีนี้แสดงแสนยานุภาพส่งสัญญาณเตือนชัดๆ ไปยังไต้หวัน

ด้วยการที่จีนส่งเครื่องบินรบแสดงฤทธิ์เดชเข้าไปในเขต Air Defense Identification Zone (ADIF) ที่ไต้หวันประกาศเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

สี จิ้นผิง ใช้โอกาสครบรอบ 110  ปีการปฏิวัติซินไฮ่ย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต้องรวมชาติจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันให้สำเร็จ เพราะถือเป็นผลประโยชน์ของจีน

สีตอกย้ำว่าจีนมีประเพณีอันรุ่งเรืองมายาวนานด้วยนโยบายคัดค้านการแบ่งแยกใดๆ

“การแบ่งแยกดินแดนเป็นอิสระของไต้หวันคืออุปสรรคใหญ่หลวงต่อการบรรลุการรวมชาติของมาตุภูมิ และเป็นอันตรายร้ายแรงที่สุดที่ซุกซ่อนอยู่ต่อการฟื้นฟูประเทศ” สีสำทับในคำปราศรัยที่ตอกย้ำถึงความขึงขังต่อไต้หวัน

และเสริมว่า “การรวมชาติแบบสันติจะเป็นประโยชน์ต่อชาวไต้หวันโดยรวมได้ดีที่สุด แต่จีนจะปกป้องอธิปไตยและความเป็นเอกภาพของตัวเอง”

ประโยคต่อไปนี้คือถ้อยคำที่ สี จิ้นผิง จงใจให้ชาวโลกโดยเฉพาะสหรัฐได้รับทราบถึงจุดยืนของปักกิ่ง

“ไม่ควรมีใครดูถูกความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ความมุ่งมั่น และความสามารถอันแข็งแกร่งในการต่อสู้เพื่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติของคนจีน” 

พูดง่ายๆ คือ สี จิ้นผิง กำลังเตือน โจ ไบเดน และไช่อิงเหวินว่าอย่า “ประเมินจีนต่ำเกินไป” เพราะเขายืนยันว่า

“ใครที่หลงลืมรากเหง้าของตัวเอง ทรยศต่อแผ่นดินแม่ และพยายามแบ่งแยกประเทศจะมีจุดจบไม่ดี พวกเขาจะถูกผู้คนเหยียดหยามและถูกประวัติศาสตร์ประณาม”

แต่ไต้หวันก็อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เพราะอาจถูกมองว่าเกิดความยำเกรงเสียงเข้มๆ จากปักกิ่ง ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันจึงโต้ด้วยแถลงการณ์ว่า

“อนาคตของไต้หวันอยู่ในมือของชาวไต้หวัน และความคิดเห็นสาธารณะมีความชัดเจนมากในการปฏิเสธโมเดล “หนึ่งประเทศ สองระบบ”

ตามมาด้วยคำแถลงของสำนักงานกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันเรียกร้องให้จีน “ละทิ้งการบุกรุกที่เป็นการยั่วยุ การล่วงละเมิด และการทำลายล้าง”

อีกทั้งรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันก็ยังพยากรณ์ว่าจีนอาจพร้อมบุกดินแดนอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2025 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า

รัฐมนตรีกลาโหมฉิว กัวเฉิง อัดปักกิ่งว่ากำลังจัดฉากเล่นละครเพื่อโจมตีไต้หวัน

“ตอนนี้แม้ว่าปักกิ่งจะคิดว่าตัวเองมีศักยภาพพอ แต่ก็ต้องรู้ว่าหากทำเช่นนั้นก็ยังมีราคาที่ต้องจ่าย”

ไต้หวันเตรียมตั้งรับการรุกคืบทางทหารเช่นกัน

มีข้อมูลว่า ภายในปี 2025 ไต้หวันจะเพิ่มงบประมาณกว่า 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท) เพื่อการผลิตอาวุธที่รวมถึงหัวจรวดและเรือรบเตรียมรบเหมือนกัน

แน่นอนว่าพี่ใหญ่คือสหรัฐก็เตรียมขายอาวุธมูลค่ากว่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) ให้แก่ไต้หวัน    ซึ่งปักกิ่งประท้วงมาตลอด

อีกทั้งไต้หวันก็ยอมให้เครื่องบินรบของสหรัฐลงจอดเป็นประจำ และเปิดทางให้เรือรบของสหรัฐแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน

ทั้งหมดนี้คือประเด็นที่จีนอ้างว่าเป็นการสมคบคิดระหว่างสหรัฐกับไต้หวันในการ “ยั่วยุ” และ “ละเมิดอำนาจอธิปไตยของจีนตามนโยบายจีนเดียว” มาตลอด

ไบเดนบอกว่าได้บอก สี จิ้นผิง ว่าสหรัฐจะทำตาม “ข้อตกลงเรื่องไต้หวัน” อย่างแน่นอน

นั่นแปลว่าการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ในช่องแคบไต้หวันยังจะดำเนินต่อไป

ไต้หวันจะกลายเป็น “ชนวน” สงครามรอบใหม่หรือไม่ จึงไม่ใช่คำถามลอยๆ ที่ไร้ที่มาที่ไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ