'เลิกแล้วค่ะ...หนูเลิกแล้วค่ะ'

ตกลง "ขึ้น-ไม่ขึ้น" VAT จาก ๗% เป็น ๑๕%   ตามแนวคิดรัฐบาลเพื่อไทย?

ก็มีคำตอบผ่าน "ตุ๊กตาไขลาน" ออกมาแล้ว                

"นายกฯ แพทองธาร" โพสต์เฟซ และ X เมื่อวาน

1.ไม่มีการปรับ VAT เป็น 15%  

2.กระทรวงการคลัง กำลังศึกษาการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งต้องมองทั้งระบบให้ครบทุกมิติและเป็นธรรม 

เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

3.การปรับโครงสร้างภาษีของประเทศอื่นๆ ใช้เวลาศึกษาและปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

บางประเทศใช้เวลาปรับเปลี่ยนกว่า 10 ปี

4.นโยบายหลักของรัฐบาลคือ การลดรายจ่ายของประชาชน ลดรายจ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ

ควบคู่ไปกับการหาโอกาสจากการสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชน ทั้งหมดนี้ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนคนไทย

เขียนเองหรือใครเขียนให้ก็ช่างเหอะ ประเด็นสำคัญ คือ โหรงเหรงเนื้อหา สร้อยภาษารุ่มร่าม-รุงรัง!

เขียน ๔ ข้อ ความจริง "วลีเดียว" ก็พอ

"หนูเลิกแล้วค่ะ"!

อย่างอื่น "น้ำท่วมทุ่ง" จิ้มเฟซให้เมื่อยนิ้วไปเพื่ออะไร? 

ที่ว่า "นโยบายหลักของรัฐบาล คือการลดรายจ่ายของประชาชน ลดรายจ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ"  นั่นน่ะ        

พูดเองหรือพ่อสอน หรือพวก "หลี่กงกง" บ้านพิษสอน?

ที่โพสต์นั้น "เอาจริง" หรือ "โพสต์เอาโก้" ไปงั้น?

เพราะทุกอย่าง "ที่พูด" กับ "ที่ทำ" มันขัดแย้งกันมาตลอด

ตอนหาเสียงประกาศ เพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะเพิ่มเงินใส่กระเป๋าให้ประชาชนเป็นการเพิ่มการใช้จ่าย เพื่อไปกระตุ้นเศรษฐกิจ

แจกเลย..แจกทันที.....

แจก "ดิจิทัล วอลเล็ต" คนละ ๑ หมื่น ๕๐ ล้านคน  ๕.๖ แสนล้านบาท!

สร้าง "พายุหมุน" ไปฉุดเศรษฐกิจในระบบให้หมุน  ๕-๖ รอบ จีดีพีประเทศจะได้โต ๓-๕% ในปีนี้

จำไม่ได้แล้วหรือไง....
 วันนี้ ถึงมาโพสต์ "นโยบายหลักของรัฐบาล คือการลดรายจ่ายของประชาชน"!?

แล้วแบบนี้ "พายุหมุน" ที่กะปริบ-กะปรอย มันก็หมุนอยู่แค่ "เศรษฐกิจในคอกหมา" เท่านั้นน่ะซี

ถามจริง "ลดรายจ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล" โพสต์ไปเรื่อยหรือจริงตามนั้น?

ถ้าจริง ผมจะสนับสนุนข้อมูลให้นายกฯ นำไปพิจารณาเพื่อ "ตัดงบ" บางรายการ

รับรอง "ลดรายจ่าย-เพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ" เป็นข่าวโลก ชนิด CNN, FOX, Al Jazeera ต้องมาสัมภาษณ์แน่

-ค่าอาหารรับรอง สส.ในวันประชุม หัวละ ๑,๐๐๐  บาท/วัน สัปดาห์ละ ๑ ล้านบาท

-ค่าอาหารรับรอง "กรรมาธิการสามัญ"

 นอกจากนั้น ยังต้องมีของ "คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน" อีกตะหากด้วย

ตัวอย่าง "งบปี ๖๖" เฉพาะค่าอาหาร สส.ในวันประชุม รวม ๗๒,๐๓๑,๐๐๐ บาท

สส.ตอนหาเสียง ล้วนบอก "อาสาเข้ามาเป็นปากเสียงให้ประชาชน" ทั้งนั้น แต่เข้าสภา กระดาษเช็ดตูดก็ยังต้องเบิก

๑ ปี สส.ประชุมประมาณ ๔ เดือน

แต่รับเงินเดือน+เงินเพิ่ม รวม ๑๑๓,๕๖๐ บาท/เดือน  ยังไม่นับค่าเบี้ยประชุม กมธ.อีกครั้งละ ๑,๕๐๐ บาท

พูดตรงๆ เงินเดือนพอที่จะซื้ออาหารกินเองได้อยู่แล้ว  เพื่อ "ลดรายจ่าย-เพิ่มประสิทธิภาพให้รัฐ"

นายกฯ ตัดซิครับ "ตัดงบ" นี้ไปเลย!

นอกจากนี้แล้ว สส. ๕๐๐ ยังมีงบค่าเดินทางให้ตะหาก ทั้งรถไฟ รถประจำทาง เครื่องบิน มีคนติดตามได้อีกคนด้วย

ไปต่างประเทศก็มีเบี้ยเลี้ยงให้ เจ็บป่วย ก็มีสิทธิรักษาพยาบาลฟรี ตรวจสุขภาพประจำปีก็ฟรี หลวงจ่าย

มาประชุมสภา ค่าเดินทาง ค่าที่พักหลวงก็จ่าย เป็นสส.แค่ ๒ ปีขึ้นไป มี "บำเหน็จ-บำนาญ" ให้อีก

ตายแล้ว ยังเป็นมรดกถึงลูก-ถึงเมีย!

ลองคำนวณดูซี ชาวบ้านต้องจ่ายภาษีเลี้ยงดู สส. ๕๐๐ คน ปีละกี่พันล้าน?        

แล้วชั่งน้ำหนักซิ...

เราได้อะไร ประเทศชาติ-บ้านเมืองได้อะไร เทียบกับเงินทองจากหยาดเหงื่อของเรา ที่ต้องเอาไปขุนเลี้ยง สส.-สว.?

ยัง..ยังไม่หมดแค่นี้นะ.....

"สิ่งมีชีวิต" ที่เรียก "สส." ดูดเลือดพวกเราชาวบ้านไปอีก

สส. ๑ คน มีผู้ช่วยได้ ๘ คน แยกเป็น

-ผู้เชี่ยวชาญ ๑ คน เงินเดือน ๒๔,๐๐๐ บาท

-ผู้ชำนาญการ ๒ คน เงินเดือน ๑๕,๐๐๐ บาท

-ผู้ช่วยดำเนินการ ๕ คน เงินเดือน ๑๕,๐๐๐ บาท

สรุป สส. ๑ คน+ผู้ช่วย ๘ คน ....

รวมภาษีชาวบ้านจ่าย ๑๑๓,๕๖๐ + ๑๒๙,๐๐๐ บาท = ๒๔๒,๕๖๐ บาท/คน ประเทศได้ประโยชน์อะไรจากส่วนนี้บ้าง ลองตอบให้ชื่นใจซิ?

สส.-สว.รวม ๗๐๐ คน แต่ละปี สูบเลือดประชาชนไม่เคยอิ่ม!

เป็นรัฐบาล "เสียงมาก" ก็ใช้เสียงมากนั้น "ลดไขมันส่วนเกิน" ลงไปซี

นี่ในส่วนรัฐสภา....

ทีนี้มาดู "ลดรายจ่าย" ในส่วนของรัฐบาลเป็นการ "เพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ" กันบ้าง

ข้อแรกเลย ไอ้ "ครม.สัญจร" นั่นน่ะ แต่ละครั้ง มันผลาญงบโดยไม่จำเป็นไปมากมาย

"ทำเนียบรัฐบาล" เขามีที่ให้ประชุมดีอยู่แล้ว ยุคนี้-ยุคไอที ประชุมออนไลน์ได้ทั่วประเทศ จะหาเสียงแบบ "ตุกติกเงินหลวง" นั่นนะ

"รวยแล้วเลิก" ซะทีได้มั้ย...แม่คุณ?

ไปต่างประเทศ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไปเครื่องบินโดยสารและนำคนไปเท่าที่จำเป็นก็พอ

ไม่ใช่ยกโขยง "เหมาลำ" เครื่องบินกันไปเที่ยว-ไปทัวร์แล้วอ้างประชุมอย่างที่ทำ

"เศรษฐา" เป็นนายกฯ กี่วัน ใช้เงิน ๓๐-๔๐ ล้าน "เช่าเหมาลำ" การบินไทย "ออนทัวร์" ๑๕ ประเทศ!

ขนกันไปแต่ละเที่ยว "ครึ่งร้อย" เทียบผลได้ที่สะท้อนกลับมา ค่าเป็น 0!

จากรายงาน "คณะกรรมาธิการงบประมาณ" สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยค่าใช้จ่ายการเดินทางไปราชการต่างประเทศของนายกฯ, รองนายกฯ และ รมต.สำนักนายกฯ

ระหว่าง ตุลา.๖๖ ถึง กันยา.๖๗

-เยือนฮ่องกง บรูไน สิงคโปร์ ผู้ร่วมคณะ ๑๗ คน งบ ๙ แสนกว่าบาท

-เยือนจีน และประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะรัฐมนตรีความร่วมมือ รัฐอ่าวอาหรับ ที่ซาอุดีฯ ผู้ร่วมคณะ ๓๗ คน งบกว่า ๒ ล้านบาท

-เยือนลาว ร่วมคณะ ๑๗ คน งบกว่า ๑ แสนบาท

-ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่สหรัฐฯ ร่วมคณะ ๓๑ คน งบกว่า ๕ ล้านบาท

-ประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่น ร่วมคณะ ๓๐ คน งบกว่า ๒ ล้านบาท

การประชุมประจำปี World Economic Forum สวิส  ร่วมคณะ ๔๖ คน งบกว่า ๖ ล้านบาท

-เยือนศรีลังกา ร่วมคณะ ๔๕ งบร่วม ๒ ล้านบาท

-ประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย ร่วมคณะ ๔๕ คน งบกว่า ๕ ล้านบาท

-เยือนเยอรมนี ร่วมคณะ ๔๕ คน งบกว่า ๕ ล้านบาท

-เยือนเวียดนาม ร่วมคณะ ๔๕ คน งบร่วม ๒ ล้านบาท

-เยือนฝรั่งเศส ร่วมคณะ ๔๖ งบกว่า ๕ ล้านบาท

-ประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ลาว ร่วมคณะ ๔๕ งบร่วม ๒ ล้านบาท

-เยือนอินโดฯ ร่วมคณะ ๔๕ คน งบร่วม ๒ ล้านบาท

-เยือนอินเดีย ร่วมคณะ ๔๖ คน งบร่วม ๕ ล้านบาท

-การประชุม Nikkei Forum ญี่ปุ่น ร่วมคณะ ๔๕ งบ ร่วม ๔ ล้านบาท

-เยือนฟิลิปปินส์ ร่วมคณะ ๔๕ คน งบร่วม ๒ ล้านบาท

-เยือนเกาหลีใต้ ร่วมคณะ ๔๕ คน งบร่วม ๓ ล้านบาท

-ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สหรัฐฯ ร่วมคณะ ๔๖ คน งบร่วม ๖ ล้านบาท

-เยือนสิงคโปร์ ร่วมคณะ ๔๕ คน งบร่วม ๒ ล้านบาท

นี่เป็นส่วนของคณะนายกฯ......

ทีนี้ เป็นส่วนของรองนายกฯ และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งผมดูแล้วก็ไม่เข้าใจ มันไปทำอะไรกัน (วะ)

-กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบภารกิจที่รองนายกฯ และ รมต.สำนักนายกฯ กำกับดูแลในภูมิภาคยุโรป

งบ ๑,๙๖๗,๐๐๐.๐๐ บาท เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย มีผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

-กิจกรรมในกรอบภารกิจของคณะเดียวกัน แต่ที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง

งบ ๑,๕๕๗,๔๐๐ บาท เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ร่วมคณะ ๑๒ คน

-การเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย ของคณะเดียวกัน แต่กำกับราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

งบ ๑,๑๓๖,๙๐๐.๐๐ ส่งเสริมบทบาทของไทย ในเวทีระหว่างประเทศ ผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

-กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบภารกิจของคณะเดียวกัน แต่คราวนี้ ไปในบทกำกับดูแลภูมิภาคเอเชีย

งบ ๗๖๗,๖๐๐.๐๐ บาท เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

-กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบภารกิจของคณะเดียวกันอีกละที่กำกับดูแลภูมิภาคเอเชีย

งบ ๗๖๔,๘๐๐.๐๐ บาท เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

-กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในกรอบภารกิจของคณะเดิมที่กำกับดูแลในภูมิภาคยุโรป

งบ ๑,๙๔๗,๐๐๐.๐๐ บาท เป็นโอกาสแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

-กิจกรรมเดียวกัน-คณะเดียวกันเช่นเดิมที่กำกับดูแลในภูมิภาคเอเชีย

งบ ๗๖๔,๘๐๐.๐๐ บาท เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ผู้ร่วมคณะ ๑๒ คน

  เนี่ย...

ผมไม่เข้าใจงาน "กิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือกรอบภารกิจที่รองนายกฯ และ รมต.สำนักนายกฯ" เลย

"คณะเดิม-คนเดิม" ไปแสดงศักยภาพเศรษฐกิจอะไรกันเป็นรายเดือน ตั้งแต่ "มีนา.-กันยา.๖๗" ดูตัวเลขคร่าวๆ  ใช้ไปกว่า ๑๐ ล้านบาทมั้ง?

นายกฯ ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจทีซิว่า นี่มันเป็นการใช้งบ "เพิ่มประสิทธิภาพรัฐ"....

หรือใช้ศักยภาพ "ผลาญเศรษฐกิจ" ของรัฐ?

-เปลว สีเงิน

๗ ธันวาคม ๒๕๖๗

 

วันเสาร์ที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.ชิดตะวัน' .. เปิดหลุมดำ-หายนะ กาสิโน-พนันออนไลน์!! I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

'ดร.ชิดตะวัน' .. เปิดหลุมดำ-หายนะ กาสิโน-พนันออนไลน์!! อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568

เหตุที่ 'ฝนหลวง' หาย?

เพราะ "ประเทศกูมี"..... ลูกสาวหัวหน้าคอกหมา "เป็นนายกฯ" มี "หมาในคอก" เป็นรัฐมนตรี

คำให้การ 'ก่อนมัจจุราช'

"วงเวียนกรรม" นี่ น่ากลัวนะ! "ลูกตายเพราะพ่อ-พ่อตายเพราะลูก" แค่คิดผมก็ยังไม่อยากคิด เพราะมันจะเป็นไปได้อย่างไร?