กลัวไมค์เยอะ

เป็นยุคที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีบทบาทเยอะอีกครั้ง สำหรับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

หลายเรื่องที่เป็นข้อกฎหมาย หากถูกค้าน ถูกต้าน หรือมีเครื่องหมายคำถาม รัฐบาลจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ตลอดจนไปปรับแก้เพื่อความชัวร์

อย่างเรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … หรือกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็มีหน้าที่รับจบอีกหน

โดยมีการตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษขึ้นมาปรับถ้อยคำโดยเฉพาะ ซึ่งมี วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ขณะที่คนรับหน้าเสื่อ ต้องคอยตอบคำถามสื่อ หนีไม่พ้น ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาคนปัจจุบัน ศิษย์ก้นกุฏิซือแป๋ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องคอยอัปเดตความคืบหน้าและประเด็นร้อนๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ทุกวันนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกครั้ง เลขาฯ ปกรณ์ กลายเป็นเป้าหมายหลักของผู้สื่อข่าวที่รอดักสัมภาษณ์กันเป็นโขยง

หากมีความคืบหน้าในเรื่องที่ถาม เลขาฯ ปกรณ์ จะเล่าให้ฟัง แต่หากยังอยู่เหมือนเดิมเหมือนสัปดาห์ก่อน เจ้าตัวก็จะบอกเช่นกันว่า ยังไม่มีอะไร

แล้วจะบอกว่าเป็นขวัญใจสื่อทำเนียบฯ ไปแล้วคงไม่ผิดนัก เพราะ เลขาฯ ปกรณ์ อธิบายอะไร เข้าใจง่าย กระชับ มีความคล้ายกับ อ.วิษณุ อยู่เหมือนกัน

แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวยังไม่ชินคือ การถูกล้อมรอบด้วยนักข่าวสิบๆ ชีวิต โดยจะมีอาการเคอะเขิน เนื่องจากไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพที่ชินไมค์

อย่างวันก่อน นักข่าวเชิญไปยืนตรงไมโครโฟนที่ตั้งไว้ให้ เลขาฯ ปกรณ์ ถึงกับโบกมือไม่ไหวๆ มันทางการเกินไป ไม่ค่อยถนัด ร้องขอแบบยืนคุยหรือยืนสัมภาษณ์ธรรมดาๆ แต่สุดท้ายทนคำอ้อนนักข่าวไม่ไหว ต้องยืนให้แบบติดเขินนิดๆ

เอาน่ะเลขาฯ อีกสักแป๊บ ถูกสัมภาษณ์แบบนี้บ่อยๆ เข้า เดี๋ยวก็ชินเอง.

ฌ.เฌอ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง

ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร