
“พวกข้าพเจ้าเห็นว่า..
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป
เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ
และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน
ส่งผลให้ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่
เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง
ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง
ทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา เจตนา
ตลอดจนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน
แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น
นอกจากนี้ยังสมัครใจ ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง
ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ จากพฤติการณ์ดังที่พวกข้าพเจ้าได้กล่าวมา
หากปล่อยให้บุคคลดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ยากจะแก้ไขเยียวยาได้
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุผลและรายละเอียดต่างๆ จะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป”
นี่..เป็นถ้อยคำบรรยายในญัตติที่คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
ซึ่งอ่านแล้วใครจะรู้สึกอย่างไรไม่ทราบ สำหรับผมบอกตามตรง ชินซะแล้วกับ “ญัตติ” อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ว่าพรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน ก็จะ (เขียน) ทำนองนี้แหละ!
คือ..ดุดัน ขึงขังเอาเป็นเอาตาย แต่พอใช้ปากอภิปรายเข้าจริง ส่วนใหญ่ก็ออกไปทางชมนกชมไม้ หรือไม่ก็ประเภทน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง
หรือบ้างก็หนักไปทางลีลา โวหาร แข็งกร้าว แต่ก็เป็นแบบ.. “ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน” ซะมากกว่า!
ฉะนั้น..จึงเลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับตัวหนังสือของฝ่ายค้าน ยิ่งมีข่าวและพฤติกรรมระหว่างเจ้าของพรรคเขาได้แอบไปตกลงสัญญิง-สัญญากันด้วยแล้ว
ก็..เห็นจะเป็นแค่ “ละคร” ในสภาอีกฉากที่เขา (แสดง) หลอกให้ชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆ ดู โดยคิด-เข้าใจเอาว่าชาวประชาเคี้ยวหญ้า-กินแกลบกระมัง?
อีกอย่าง ที่บรรยายมาทั้งหมดนั้น ก็เป็นที่รู้-ที่เห็นของชาวบ้านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งนอกสภา ทั้งสื่อ ทั้งวิชาการ ทั้งกูรูการเมือง ทั้งนักกฎหมาย และใครต่อใครอีกมากมาย..
ต่างก็ได้วิพากษ์-วิจารณ์ต่อการกระทำและพฤติกรรมของนายกฯ มาโดยตลอด!
จึงพอจะนึกภาพออก ในการอภิปรายที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนา.นี้ เป็นแค่พิธีกรรมตามที่..
“เจ้าของพรรค” ได้ตกลงกัน!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ฝ่ายค้าน’นิรันดร์กาล!
“เวลานี้ด้วยความที่ทุกคนกล่าวขานกันอย่างชัดเจนว่า พวกส้มมาแน่ วันนี้เราจึงเจอปฏิบัติการ IO ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารพยายามทำลายดิสเครดิตพรรคประชาชนกันอย่างถ้วนหน้า
‘ทนาย’..ไม่ต้อง!
เรื่องใกล้ตัว! บางคนท่านอาจเคยมีประสบการณ์ทั้งกับตัวเอง ทั้งกับการที่ตาได้แลเห็น ผมหมายถึงกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะกันหน้าร้านสะดวกซื้อ
เหตุเกิดที่‘ไทยพีบีเอส’
“ช็อกตาตั้ง” ครับ! เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!
ประชาธิปไตยจอมปลอม
“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”
ร่างทรงชาวบ้าน
ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..
‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!
คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

