
เข้าโหมดการทำงานในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มาเกิน 6 เดือนแล้ว ซึ่งเจ้าตัวลุยทำงานแก้ปัญหาในทุกมิติ แต่เพิ่งจะได้เห็นนายกฯอิ๊งค์ในโหมดเข้มแบบสุดๆก็คราวนี้
หลังจากเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด กรณีเหตุแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดในยุคของรัฐบาลนายกฯอิ๊งค์พอดี งานนี้ภาวะผู้นำพุ่ง เพราะตอนเกิดเหตุระบบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนประชาชน ไม่ได้รวดเร็วอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ตามระบบการแจ้งเตือนเบื้องต้น จะเริ่มที่กรมอุตุนิยมวิทยา ส่งต่อไปกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ ปภ.ส่งข้อความให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เพื่อให้ กสทช.ส่งข้อความดังกล่าวไปยังค่ายมือถือ ให้ส่งข้อความแจ้งเตือนถึงประชาชน
ซึ่งยังมีข้อจำกัดการส่งข้อความทำได้เพียงครั้งละ 200,000 เบอร์ ทำให้ข้อความที่ส่งถึงประชาชนดูจะล่าช้าเกินไป ไม่ทันการณ์ นายกฯอิ๊งค์ จึงเรียกประชุมบูรณาการเร่งด่วนในวันหยุด ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) สวมโหมดเข้มตั้งแต่ก้าวเข้าห้องประชุม
เมื่อนั่งหัวโต๊ะเปิดประชุมด้วยสีหน้านิ่ง พร้อมคำถามแรก ถามผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนว่า สิ่งแรกที่ควรจะเกิดขึ้นทันทีที่เกิดแผ่นดินไหวมันคืออะไรค่ะ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นประชาชนควรได้รับรู้อะไรบ้าง?
งานนี้ทุกคนในห้องประชุมถึงกับนิ่งไปสักครู่ ก่อนนายกฯจะกล่าวอีกว่า ใช่เรื่อง sms หรือไม่ ถ้าใช่หน่วยงานไหนรับผิดชอบเรื่องนี้? ให้ทุกคนยกมือตอบได้เลย เพราะต้องทำงานร่วมกัน
ก่อน นายกฯอิ๊งค์ จะไล่บี้ถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ ปภ.และ กสทช. เรียกว่าถามละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการส่ง ส่งได้ทีละเท่าไหร่ เริ่มส่งครั้งแรกกี่โมง ส่งได้กี่ข้อความ และมีข้อติดขัดตรงไหนทำไมถึงล่าช้า ซึ่งบรรยากาศในห้องทำบรรดาหน่วยงานต่างๆรีบเตรียมข้อมูลของตัวเองกันใหญ่เพื่อรอตอบคำถาม
ก่อนนายกฯอิ๊งค์จะมีประโยคคำถามด้วยเสียงเข้มว่า ตอนเกิดเหตุตนและรมว.มหาดไทยปฏิบัติงานอยู่ที่ภูเก็ต แต่สั่งการตั้งแต่บ่ายสองโมงให้ส่ง SMS แต่ระบบไม่ออก เมื่อมหาดไทยและนายกฯสั่งแล้ว มันต้องทำยังไง
งานนี้ได้เห็น นายกฯอิ๊งค์ สวมบทเข้มที่สุด จนทุกคนต้องเกรงกันหมด!
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลายคนนับถือหัวใจ
ถือว่าสะเทือน หลัง ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุเรื่องสุขภาพ ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.หลายคนถือจังหวะกระโดดหนีไปหาต้นสังกัดใหม่เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ในครั้งนี้
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
เปิดซีเกมส์อีกรอบ
การเมืองช่วงนี้ทำให้เราเหนื่อยมากพอแล้ว ย้ายมาวงการการเมืองผสมกีฬาหน่อย ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีคนเก่งของเรา ที่ไปสร้างตำนานโป๊ะแตกในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ นี่เอง
'แนะนำหนังสือ'
หลังจากที่ พรรคเพื่อไทย เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ แล้ว หลายคนทราบประวัติของ อ.เชน ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ทำให้เห็นว่า อ.เชน เคยเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย แถมเป็นนักวิชาการที่ทั้งมีงานวิจัยและผลงานมากมาย
กัดไม่ปล่อย
ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

