
ดูท่าจะร้อนแรง...
เห็นใจคุณหมอในแพทยสภาครับ
โดยเฉพาะ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี
เพราะท่านเป็นประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ที่สอบสวนจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ทำการรักษา “ทักษิณ ชินวัตร”
ท่านแบกความคาดหวังของประชาชนไว้มาก ว่าจะทำให้ความจริงปรากฏจากกรณี “นักโทษเทวดาชั้น ๑๔”
ป่วยจริง หรือ ป่วยทิพย์
ลือกันหนาหูครับว่า จะมีการเสนอให้ลงโทษและสอบสวนหมอ ๗ คน
คำตอบจาก “คุณหมออมร” จึงพูดแบบหมอ ไม่ใช่นักการเมือง
“...มีคนส่งข่าวมาให้ผมดู แต่ผมตอบอะไรไม่ได้ ขอให้ไปรอติดตามผลการประชุมแพทยสภาวันที่ ๘ พฤษภาคมนี้
ข่าวที่ออกมา ผมก็ไม่รู้ว่าคนที่พูดเขาเอาข้อมูลมาจากไหน ก็บอกแค่นี้แล้วกันว่าให้รอฟังผลการประชุมแพทยสภาวันที่ ๘ พฤษภาคม ผมไม่ยืนยันและไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน
ก็ดูวันที่ ๘ พฤษภาคมนี้ว่าเรื่องนี้จะเข้าที่ประชุมแพทยสภาได้ทันหรือไม่ หากเข้าได้ ก็ขอให้รอฟังเนื้อหาที่จะออกมาอีกทีหนึ่งแล้วกัน...”
ถูกต้องครับ เพราะการสอบสวนมีกระบวนการและขั้นตอน
อีกทั้งวันที่ ๘ พฤษภาคม ยังมาไม่ถึง การพูดอะไรไปก่อน โดยที่แพทยสภายังไม่มิได้มีมติใดๆ ออกมา จะกลายเป็นการกดดันแพทยสภาโดยไม่จำเป็น
ผลสอบของแพทยสภาต้องอ้างอิงข้อเท็จจริงในหลักการแพทย์ครับ เอกสาร พยานหลักฐานต่างๆ จะยกเมฆ หรือทำขึ้นใหม่ในภายหลัง จะทิ้งร่องรอยต่างๆ ไว้มากมาย
ฉะนั้นให้รอฟังวันที่ ๘ พฤษภาคม
หากผลออกมา “ทักษิณ” ป่วยจริง มีหลักฐานชัดเจน มีกล้องวงจรปิดบันทึก ๒๔ ชั่วโมง มีหมอ พยาบาลวิ่งเข้าออกห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ เพราะผู้ป่วยเป็นตายห้าสิบห้าสิบ แต่ตอนนั้นอายไม่ออกสื่อ ไม่อยากเป็นข่าว ก็ต้องว่าไปตามนั้นครับ
หากมีข้อเสนอลงโทษแพทย์ ๗ คนที่เกี่ยวข้องจริง งานนี้คงต้องรวมพลสัปเหร่อ!
ตายหมู่!
ข่าวเสนอลงโทษแพทย์ ๗ คน มาจากโพสต์ของ “จตุพร พรหมพันธุ์”
“...ผลสอบสวนจริยธรรมแพทย์ของคณะอนุกรรมการแพทยสภาในวันที่ ๘ พฤษภาคมนี้ โดยมีรายงานแว่วมาว่า สั่งพักใบอนุญาตแพทย์ รพ.ตำรวจเบื้องต้น ๒ คน
และสอบเพิ่มเติมอีก ๕ คน ทั้งแพทย์ ๒ โรงพยาบาลคือ โรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์
และผลสอบคาดจะออกมาหนักกว่า ๒ คนแรกเสียด้วย...”
ครับ...อย่างที่บอกถ้าเป็นตามนี้ตายหมู่
ไปดูกันหน่อยครับว่า ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม ๑๒ คน ไปก่อนหน้านี้นั้นมีใครบ้าง
๑.นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
๒.นายสิทธิ สุธีวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
๓.นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
๔.นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
๕.พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
๖.พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ
๗.พันตำรวจเอก ชนะ จงโชคดี นายแพทย์ (สบ ๕) โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์เจ้าของไข้ และผู้ออกใบความเห็นแพทย์
๘.พลตำรวจตรี สามารถ ม่วงศิริ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ออกใบความเห็นแพทย์
๙.นายแพทย์ วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
๑๐.แพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่
๑๑.นายสัญญา วงค์หินกอง พัศดีเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
๑๒.นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ใน ๑๒ คนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ๗ คน
เห็นหน้าเห็นตาก็ตามนี้
จำนวนตรงกับข่าวกรองสองสลึงของ “จตุพร พรหมพันธุ์” แต่จะใช่คนเดียวกันหรือไม่ รอลุ้นที่ประชุมแพทยสภาในวันนี้ ๘ พฤษภาคม
ในส่วนของ ป.ป.ช.นั้น เป็นการไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องกล่าวหา บุคคลทั้ง ๑๒ ราย กรณีส่งตัวผู้ต้องขังคือ “ทักษิณ ชินวัตร” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ
และให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ ๑๘๐ วัน ทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ
ส่วนกรณีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็อย่างที่ทราบกัน ศาลมีคำสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ ๑๓
ศาลท่านสั่งให้ โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน ๓๐ วัน
“ทักษิณ ชินวัตร” ต้องไปศาลด้วยหรือเปล่า
“ชูชาติ ศรีแสง” อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความให้ความรู้ทางกฎหมายไว้ดังนี้ครับ...
“...ถ้าดูตามคำสั่งศาลในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ จำเลยไม่ต้องไปศาลครับ”
“...กรุณาอ่านคำสั่งศาลดู ศาลสั่งให้ชี้แจง ไม่ได้สั่งให้ไปศาลนะครับ...”
“...ผมเห็นว่า เพียงแต่อ่าน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์, กฎกระทรวงที่ออกตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ และ ป.วิอาญา มาตรา ๒๔๖ ก็วินิจฉัยได้แล้วว่า การกระทำของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ผ่านมาชอบด้วยกฎหมายและมีอำนาจกระทำได้หรือไม่ครับ...”
หนาวในหน้าร้อนบวกฝนครับ!
ใกล้คำว่า “ติดคุกแทนนาย” เข้าไปทุกที
ถ้าติดล็อตนี้จะไม่ใช่ล็อตแรก เพราะมีการติดคุกแทนนายใหญ่-นายหญิงมาแล้วหลายล็อต
แต่ล็อตนี้จะต่างไปจากครั้งอื่นๆ เพราะนายใหญ่ จะเข้าไปอยู่ด้วย ถ้าไม่หนีไปเสียก่อน
จะได้ไม่ห่างหมอแดนเดียวกันสักวินาทีเดียว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หัวใจติดปีก
สื่อโซเชียลร้อนฉ่าครับ ไม่ใช่เรื่อง “พี่โดม” กระเหี้ยนกระหือรือ แต่เป็นเรื่อง คนขับเครื่องบินเป็นคนหนึ่งไปส่งหัวใจให้ถึงมือหมอโดยแข่งกับเวลา
'เรามีดำ ไม่มีเทา'
นับคำขอโทษได้สักล้านคำกระมัง วานนี้ (๒๙ ธันวาคม) เป็นอีกวันของการพิสูจน์ว่า พรรคส้ม ใช่พรรคที่ความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏจริงหรือไม่
ทหารไทยระดับโลก
ได้เบอร์พรรคกันไปเรียบร้อยแล้วครับ วานนี้ (๒๘ ธันวาคม) กกต.รับสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จับได้เลขอะไร แต่ละพรรคทั้งประเทศเบอร์เดียวกันหมด
ผลงานรัฐบาล-กองทัพ
น่าจะจบอีกยกครับ... นับว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) เป็นวันที่ ๓ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ไม่เอาคนเนรคุณ
แยกข้างแบ่งขั้วกันตั้งแต่หัววัน... วานนี้ (๒๕ ธันวาคม) นายกฯ อนุทิน ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.๑๑๒ “...ถ้ายังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมด้วยแน่นอน พรรคไหนจะร่วมก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ดูแคนดิเดตของทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนตอบว่าจะแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ยกเว้นพรรคประชาชน...”
ใครแข็งในจุดขาย
ยังไม่ทันเลือกตั้ง ก็เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่รำไรแล้วครับ ปัจจัยหลักคือการประกาศจุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรค เงื่อนไข ไม่ใช่เรื่อง เทาหรือไม่เทา

