ยิ่งกว่าเหม็นเบื่อ

“คำพิพากษาวันนี้ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงในบริบทใหม่”

นี่..คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว..

ภายหลังศาลจังหวัดนนทบุรีมีการพิพากษายกฟ้องจำเลย 3 คน ได้แก่ กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์, แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ และภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี

ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและข้อหาอื่นๆ ในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม”

ส่วนจำเลยที่ 4 จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร ข้อหาแจ้งความเท็จ ปรับ 16,000 จำคุก 4 เดือน ทิ้งปฏิกูลลงในแม่น้ำ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี

ซึ่งคำพูดของคุณปานเทพนี้ ก็มีทั้งคนที่ให้กำลังใจ ทั้งคนที่ดูแคลน-ปรามาส ส่วนผมในเมื่อใจลึกๆ เชื่อว่าการเสียชีวิตของแตงโมไม่ปกติมาแต่แรก..

ก็..อยากให้กำลังใจคุณปานเทพกับคณะทุกท่านที่ได้พยายามจะสะสางคดีนี้ สู้กันต่อไปให้ถึงที่สุด!

 ส่วนจะไปสุดแบบไหน-อย่างไร นั่นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือ-ความรู้ ความสามารถของดีเอสไอและพยานหลักฐาน

สรุป..ตอนนี้สงครามยังไม่จบ จะรีบนับศพทหารไปทำไม ใจร่มๆ และให้เชื่อใจ-เชื่อมือคุณปานเทพกับชาวคณะ..

กับการ.. “เริ่มต้นในการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงในบริบทใหม่” ไปด้วยกันเถอะ!

เอ้า..แล้วนั่น แม้จะไม่ได้ไปด้วยกันด้านอุดมการณ์ แต่ความคิด-ความอ่านบางครั้งก็อาจจะถูกจริต-ตรงกันได้

ครับ..ผมหมายถึงคุณปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่ได้โพสต์ข้อความ.. “ยิ่งลักษณ์จะโดนกระทำหรือเปล่า นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่การที่แพทองธารออกมาโอดครวญความอยุติธรรมของอาสาว นี่คือทำในฐานะอะไร ทำในฐานะนายกรัฐมนตรี? ถ้างั้น กรณีอยุติธรรมอื่นๆ ทำไมถึงไม่ออกมาแสดงความเห็น?

นี่คือการเลือกปฏิบัติ ถ้าทำในนามคนในครอบครัวนี่ยิ่งแย่ เพราะยิ่งทำให้รู้ว่าใช้อำนาจทางการเมืองของตัวเองเพื่อปกป้องคนในครอบครัว ไม่ว่าจะอย่างไร ก็แย่

ที่มันแย่ก็คือ — อย่างที่ดิชั้นเขียนก่อนหน้านี้ — เราจะไม่เห็นว่าคนอื่นถูกกระทำแบบอยุติธรรม จนเมื่อตัวเองโดนเอง

ในทางกลับกัน ถ้าคนอย่างแพทองธารเห็นความอยุติธรรมที่เกิดกับคนอื่น วันนี้ทุกคนจะเข้าใจว่าทำไมแพทองธารถึงโกรธแทนอาสาว

หลายคน รวมถึงอีพวกนางแบก ล้วนโฟกัสไปที่ความอยุติธรรมที่เกิดกับยิ่งลักษณ์ บอกว่าไม่ว่าคุณจะชอบยิ่งลักษณ์หรือไม่ แต่คุณต้องต่อสู้เพื่อความอยุติธรรม บลา บลา บลา ไม่เถียงค่ะ

แต่ดิชั้นขอมองอีกด้าน ที่ผ่านมา สังคมไทยแทบจะไม่เคยพูดเรื่องความอยุติธรรม เพราะคนไทยถูกละเมิดจนเคยชิน แต่พอจะพูดเรื่องความอยุติธรรมขึ้นมา

แม่งก็เป็นเรื่องความอยุติธรรมเฉพาะตัวบุคคล เป็นความอยุติธรรมแบบแคบๆ และการต่อสู้จึงกลายเป็นเรื่องอภิสิทธิ์

ทำไมความอยุติธรรมของยิ่งลักษณ์จึงยิ่งใหญ่กว่าความอยุติธรรมของน้องๆ โนเนมหลายคนที่กำลังอยู่ในคุก

ทำไมความอยุติธรรมของยิ่งลักษณ์จึงยิ่งใหญ่กว่าของอานนท์ เพราะคนที่เรียกร้องความยุติธรรมให้ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งเดียวกันให้อานนท์และคนอื่นๆ

...ในสังคมนี้ ในการเมืองนี้ สาระแม่งจึงวนเวียนอยู่ที่มึงเป็นใคร ในช่วงปีที่ผ่านมา มีแต่การเรียกร้องความอยุติธรรมคืนให้ครอบครัวชินวัตร

รัฐบาลถูกจัดตั้งขึ้นก็เพื่อ "คืนความยุติธรรม" ให้ชินวัตร บอกตรงๆ เหม็นเบื่อ เมื่อไหร่วังวนการเมืองของไทยจะหลุดพ้นจากการเรียกร้องอะไรที่แม่งเฉพาะตัว เฉพาะกิจ

ไม่ได้เรียกร้องเพื่อคนส่วนใหญ่ หรือคนอื่นๆ บ้าง ที่แม่งไม่มีนามสกุล "ชินวัตร"???”

ขนาดอยู่เสียไกลโพ้นคุณปวินยังได้กลิ่นเหม็นเบื่อ แล้วผมที่อยู่ในดง-อยู่ภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลแพทองธาร..

มันยิ่งกว่าเหม็นเบื่อจนจะอ้วกอยู่แล้ว!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ก่อนที่ปฏิทินจะพลิกหน้ารับปีใหม่-พรุ่งนี้ (1 มกราคม พ.ศ.2569) ผมใคร่ขอกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่าน “ไทยโพสต์” ในทุกแพลตฟอร์ม อย่าเจ็บ อย่าจน ขอให้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขสมหวังกับทุกๆ สิ่งครับ!

ใครจะขึ้นยกมือ

อีกไม่กี่วันก็จะปี พ.ศ.2569 แล้ว.. แต่..วานซืน คุณตั้ม-ชรัมภ์ เทพชัย ก็มาจากลาโลกไปซะก่อน โดยผมได้ทราบข่าว (เศร้า) จากคุณธานินทร์ อินทรเทพ นายกสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ ว่า..

ฝากถึง ‘อาจารย์เชน’

“สรรพลี้หวน” (อ่านว่า สับ-พะ-ลี้-หวน).. ใครที่เป็นคนปักษ์ใต้ ก็น่าจะพอได้ยิน-ได้รู้มาบ้างหมายถึงอะไร หรือหากสงสัยด้วยไม่คุ้นตา-คุ้นหูมาก่อน ก็ลองอ่านจากที่วิกิพีเดียบันทึกไว้ก็ได้..

ใครต้องการ?

ธาตุไฟแตกอาการเป็นอย่างไร? ดูได้จากคุณอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ที่โพสต์เมื่อวานนี้.. “การเมืองที่ดี ต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่พากลับไปซ้ำรอยเดิม

‘ฝ่ายค้าน’นิรันดร์กาล!

“เวลานี้ด้วยความที่ทุกคนกล่าวขานกันอย่างชัดเจนว่า พวกส้มมาแน่ วันนี้เราจึงเจอปฏิบัติการ IO ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารพยายามทำลายดิสเครดิตพรรคประชาชนกันอย่างถ้วนหน้า