‘กูนี่แหละอัจฉริยะ’

เอ้า..เฮ้ย..

ใครจะไป-จะมา หรือจะออก-จะเข้าในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำไมต้องเอ่ยอ้าง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่ง “องคมนตรี” มาเกี่ยวข้องด้วยเล่า?

นี่..ผมไม่ได้สงสัย แต่มีคนเขาฝากถาม ส่วนใครจะตอบ-ไม่ตอบ ไม่ได้จะเค้น ด้วยรู้เช่นเห็นชาตินักการเมืองมาแต่ไหน-แต่ไร

คำว่า “คนรุ่นใหม่” น่ะ ไม่ได้หมายความจะเป็นผู้แทน-สส.ที่มีอุดมกง-อุดมการณ์ที่ดีไปกว่า “คนรุ่นเก่า” นักหรอก

ไม่งั้น จะมี “งูเห่า” เลื้อยเพ่นพ่าน และมี “เจ้าของสวนกล้วย” อยู่ร่วมในสภาให้เป็นที่นินทาดอกหรือ?

ฉะนั้น ก็ไม่ต้องลีลาให้มากเรื่อง จะออกไปอยู่พรรคไหน ก็เป็นได้เพียง “ผู้อาศัย” อยู่วันยังค่ำ ตราบที่ไม่ได้เป็นเจ้าของพรรค-แจกกล้วยเอง..สำนึกไว้!

เออ..เห็นข่าวมาหลายวันแล้ว ว่าคุณทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นเดอะจะหวนกลับมาทำหนังอีกครั้ง หลังจากหายหน้าไปจะร่วม 2 ทศวรรษ

แรกได้ยินก็เชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง จนเมื่อได้เห็นการเปิดตัว-แถลงข่าวนั่นแหละ จึงได้เชื่อเต็มร้อย..คุณทรนงไม่ได้กลับมาเล่นๆ หากแต่เอาจริง (ว่ะ)!

ก็ดูที่แกคุย..หนังเรื่องใหม่ที่จะสร้าง ชื่อ “2122 Armageddon War (กูนี่แหละอัจฉริยะ)” เป็นหนังไตรภาค โดยจะใช้ทุนสร้างเรื่องละ 300 ล้านบาท

สะกดไม่ผิดหรอกครับ.. “สามร้อยล้านบาท” ซึ่งจะได้มาจากไหนก็อย่าไปเซ้าซี้ ซักไซร้ถามให้แกหงุดหงิด-รำคาญไปเลย

เอาเป็นว่า..ถ้าสร้าง 3 เรื่องก็ตก 900 ล้านบาท ซึ่งก็จะลบสถิติเก่า ที่หนังไตรภาคเรื่อง “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ที่หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ “ท่านมุ้ย” เคยทำไว้..

และลงทุนไม่น่าจะเกิน 700 ล้านบาท เพราะถ้ามากกว่านี้ ป่านนี้ “ท่านมุ้ย” เห็นจะใช้หนี้ยังไม่หมด!

ไม่ใช่หนังเข้าฉายในโรงแล้วเก็บเงินไม่ได้ แต่ด้วยทุนสร้างมหาศาลขนาดนี้ จะเอาคนดูที่ไหนมาให้คุ้มทุน ยิ่งถ้าไม่มี “ตลาดนอก” รองรับ หมายถึงสามารถขายต่างประเทศได้ด้วยแล้ว..

ทำใจได้เลย..ขาดทุนแหงๆ!

แต่อย่างคุณทรนง คงไม่ได้หวังแค่ตลาดในบ้านจึงกล้าทุ่มงบแบบชนิดที่เรียกว่าเรื่องนี้เรื่องเดียว สร้างหนังไทย (ยุคปัจจุบัน) ได้นับเป็น 100 เรื่อง!

แกน่าจะได้วางแผนการตลาดต่างประเทศเอาไว้เป็นอย่างดี และดี-ไม่ดีอาจจะมีการตกลง “ซื้อ-ขาย” กันไปบ้างแล้วก็เป็นได้

เท่าที่ติดตามจากข่าว คุณทรนงคุยว่าหนังเรื่องนี้ ตัวเองได้เขียนบทเอาไว้หลายสิบปี และแก้ไขบทมาแล้วถึง 41 รอบกว่าที่จะได้ “บทภาพยนตร์” ดั่งใจต้องการ

ยิ่งไปกว่านั้น คุณทรนงบอกด้วยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวหนัง ตัวแกได้ติดต่อ-ทาบทาม “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล เป็นนางเอกแล้วด้วย แต่ถูกเธอปฏิเสธ

ซึ่งจะด้วยเหตุผลใด ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องคนทั้งสองเขา และแม้จะไม่ได้หนูลิซ่ามาเป็นตัวชูโรง แต่คุณทรนงก็ยังมั่นอก-มั่นใจ..

“กูนี่แหละอัจฉริยะ” จะเป็นหนังไทยที่ทำกำไรและปฏิวัติวงการที่ย่ำแย่อยู่ในตอนนี้ โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน!

แล้วทรนง ศรีเชื้อ เป็นใครกันล่ะ? บางท่าน-เด็กรุ่นหลังอาจมีคำถามขึ้นในใจ และเพื่อให้ง่ายโดยไม่ต้องคิดย้อนอดีต ผมคัดจากวิกิพีเดียแบบย่อๆ มาพอเป็นกระสายก็แล้วกัน

คุณทรนง มีผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2523 จากเรื่อง “สัตว์สงคราม” ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง “บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม”

หลังจากนั้นก็ได้มีผลงานมากมายทั้งภาพยนตร์แอ็กชัน และภาพยนตร์อีโรติก ซึ่งสำหรับภาพยนตร์อีโรติกนั้น ถือว่า เป็นภาพยนตร์แนวที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวอย่างมาก

เช่น กลกามแห่งความรัก 1 พ.ศ.2532 และกลกามแห่งความรัก 2 พ.ศ.2534 โดยสามารถสร้างดารานำหญิง 2 คนให้มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ คือ ดาริน กรสกุล และขวัญภิรมย์ หลิน

ผมแถมให้อีกเรื่อง..หนัง “สวรรค์ชั้น 7” คุณทรนงทั้งกำกับ-ทั้งแสดงเอง..

สยิวกันทั้งโรง!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ทนาย’..ไม่ต้อง!

เรื่องใกล้ตัว! บางคนท่านอาจเคยมีประสบการณ์ทั้งกับตัวเอง ทั้งกับการที่ตาได้แลเห็น ผมหมายถึงกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะกันหน้าร้านสะดวกซื้อ

เหตุเกิดที่‘ไทยพีบีเอส’

“ช็อกตาตั้ง” ครับ! เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!

ประชาธิปไตยจอมปลอม

“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”

ร่างทรงชาวบ้าน

ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..

‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!

คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

‘เด็กเสียนิสัย’?

“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด.. นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!