สุดท้ายยุบสภาอยู่ดี?

ผมผิดเอง ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ได้โปรดครับพี่ ให้มันจบเถอะ อย่าเสนอข่าวเลย ผมไหว้แล้วครับพี่ แบบนี้ยิ่งแย่ลง ขอร้องครับ ด้วยความเคารพพี่ๆ นักข่าวทุกๆ ท่านครับ”

ก็..เป็นอันว่าไม่ต้องถามอะไรต่อ และแม้จะพบหน้าพ่อ-หน้าแม่ของโน้ตจูเนียร์ในงานอุปสมบทลูกชาย (มิกซ์) คุณหม่ำ จ๊กมก ที่วัดสุนทรธรรมิการาม

ผมก็ยอมเสียความเป็นคนข่าว เลี่ยงที่จะไม่ถามปัญหาภายในครอบครัวให้คุณโน้ตกับภรรยาต้องลำบากใจที่จะตอบ-อธิบายความรู้สึก

อีกอย่าง..สงสารโน้ตจูเนียร์ อุตส่าห์อ้อนวอน วิงวอนพี่ๆ นักข่าวเสียขนาดนั้น ก็อยากให้เงียบๆ จบๆ ลงเสีย ถึงอย่างไรแม่กับลูก..ลูกกับแม่ ก็ยากที่จะตัดขาดกันได้!

กระนั้นก็ได้ถามถึงสารทุกข์สุกดิบ เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้ คุณโน้ตเจ็บป่วยหนักถึงกับต้องเข้าไปนอนให้หมอรักษาตัวที่โรงพยาบาล

“เฉียดตาย”..ตลกอาวุโสเริ่มต้นตอบคำถาม ก่อนจะคุยเสียงแผ่วด้วยสุขภาพ กำลังวังชายังไม่เข้าที่เข้าทางว่า..

ตอนแรกมันปวดท้อง คิดว่าปวดธรรมดา สุดท้ายต้อย (ภรรยา) ก็พาไปตรวจอัลตราซาวด์ ก็เจอนิ่วในถุงน้ำดีประมาณ 36 เม็ด

และพอไปทำซีทีสแกนพบว่าตับมีอะไรผิดสังเกต อันตรายมาก จำเป็นต้องเลาะชิ้นเนื้อออก ก็เลยต้องผ่าตัด

ความจริงผ่าดี ผ่านิ่วแป๊บเดียว ส่องกล้องแป๊บเดียวก็เสร็จ แต่นี่ต้องใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง ที่นานเพราะต้องค่อยๆ เลาะเอาชิ้นเนื้อออกมาเข้าห้องแล็บร่วม 10 วัน

ช่วง 10 วัน ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดถึงลูก-หลาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะถ้าเป็นอะไรไป ครอบครัวจะอยู่ยังไงวะ แต่พอรู้มันไม่ใช่เนื้อร้ายก็ใจชื้น

แต่ก็ยังต้องนอนโรงพยาบาลอีกอาทิตย์กว่า เพราะต้องต่อเอาสายยางระบายเลือด ต้องสวนท่อปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมง

ไม่บอกใคร..เกรงใจคนที่รักเราห่วงเราต้องมาเป็นทุกข์กับเรา ส่วนคนที่ไม่ชอบเราก็กลัวเขาจะเหนื่อยกับการแช่งเรา เมื่อไหร่มันจะตายซักทีวะ

ตอนนั้นน้ำหนักลดไปตั้งเกือบ 10 กิโล เหลือ 70 กิโลเอง แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 72 กิโลแล้ว ต้องกินเยอะๆ เพื่อจะให้ได้น้ำหนักที่ 75 กิโล..

หมอบอกห้ามกินของมันๆ วันนี้ก็เลยกินข้าวขาหมูเสียหน่อย” คุณโน้ตพูดพลางตักข้าวขาหมู (ที่เจ้าภาพนำมาเลี้ยงในงาน) ใส่ปาก แต่มีเสียงใครก็ไม่รู้พูด.. “ขาหมูไม่ใช่มันสักหน่อย”

“เออ ใช่” ผมช่วยยืนยัน “มันก็มันสิ แต่นี่ขาหมู มันซะที่ไหน” เจอมุกนี้เข้า โน้ตก็โน้ตเถอะ ชอร์ตไปชั่วครู่เหมือนกัน 55

ครับ..พูดถึงเรื่องเจ็บป่วย วันก่อนเห็นคุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นั่งเล่าประสบการณ์ภาวะฮีตสโตรกในรายการแฉแล้วก็ทำให้ได้คิด

คุณพงษ์พัฒน์เคยคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตมาอย่างดี แข็งแรง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ออกกำลังกายด้วยการวิ่งวันละ 10-20 กิโลทุกวัน

แต่ก็ต้องมาพบกับวิกฤตเส้นเลือดในสมองตีบ หรือฮีตสโตรก ซึ่งคุณพงษ์พัฒน์ยอมรับว่าจริงๆ แล้วตัวเองไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิด ร่างกายแข็งแรงก็จริง

แต่ปัจจัยที่ทำให้เส้นเลือดสมองอุดตัน คือ นอนน้อย เครียดสะสม การทานอาหาร ตัวเองออกกำลังกายก็จริง แต่ก็ชอบทานขาหมู ปาท่องโก๋ 

แถมเป็นความดันสูง 180 กว่า แต่ไม่ยอมทานยา..ความเครียดสะสมบางทีไม่รู้ตัว..ความจริงแล้วก่อนมีอาการฮีตสโตรก ร่างกายส่งสัญญาณมานานแล้ว

 คือตื่นมาแล้วเวียนหัว แต่สะบัด 2-3 ทีมันก็หาย บางทีนั่งๆ อยู่เหมือนบ้านหมุน นั่งสักพักก็หาย แล้วก็มีอาการปวดบ่า ปวดไหล่ก็หาย ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร จนสุดท้ายมันมาทีเดียวเลย 

เนี่ย..ก็อยากจะบอกว่า อย่าประมาทกันทั้งผมทั้งท่านผู้อ่านนั่นแหละ อ่าน-ดูข่าวการเมืองก็อย่าไปเครียดกับมันให้มาก..มันจะได้-ไม่ได้มหาดไทย สุดท้าย..

มันก็ยุบสภาอยู่ดี!.

สันต์ สะตอแมน