ก็แค่ ‘รอบปฐมทัศน์’

มีเรื่องอยากจะบอก ๒ เรื่อง

เรื่องแรก สำหรับฝั่งไทย

คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณตา คุณยาย หนุ่มใหญ่ สาวเล็ก เด็กน้อย ตามศูนย์อพยพทั้งหลาย

กลับบ้านได้

เพราะภาพยนตร์เรื่อง “ศึกสองตระกูลตะกายชาติ” จบภาคแรกแล้ว

เรื่องที่ ๒ ที่จะบอกฝั่งเขมร

“ฮุน มาเนต” เห็นคุณได้รับพระบรมราชโองการจากกษัตริย์นโรดม สีหมุนี

แต่งตั้งให้เป็น “ผู้นำสูงสุดในการต่อสู้ในทุกสมรภูมิ” ทั้งทางทหาร การทูต การเมือง และกฎหมาย มิใช่รึ?

นี่ก็ “การรบเสร็จ”

จัดการเก็บและนับศพทหารในสนามรบได้แล้ว!

เป็นผู้นำแบบไหนกัน ที่เวสต์ปอยต์เขาสอนมาอย่างนี้หรือ

ยามดีก็ใช้เขาไปรบ

ครั้นเขาตาย แทนที่จะเก็บศพไปจัดการให้สมเกียรติ

กลับทิ้งเหมือนศพหมู-ศพหมาให้เป็นเหยื่อแร้งกา ครอบครัวเขาถามหา แทนที่จะเวทนา กลับผลักไส

อย่างนี้ ไม่ต้องให้ “หมอปราย” กระซิบถามท่านยมหรอก ถามผมก็ตอบได้

อนาคตที่จะเป็นใหญ่สืบต่อจากพ่อ....มันจุนจู๋!

ดูฮวงจุ้ยใบหน้าแล้ว....

ถึงจะไม่เลวนัก แต่เทียบไม่ติด “พลเอกเตีย เซ็ยฮา” รัฐมนตรีกลาโหม ลูกชายนายพลเตีย บัญ!

ประชาชนคนเขมร เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้...แต่เขาจำต้องอยู่ในอำนาจ “ฮุน เซน” เจ้าเหนือหัวคนเขมรทั้งประเทศ รวมทั้ง “กษัตริย์นโรดม สีหมุนี”

แต่ซักวัน เมื่อยามดีใช้-ยามตายไม่เหลียวแล แม้กระทั่งรบแพ้ ยังต้องกลับมาติดคุก แล้วยังจะมีใครอยากไปรบ

ไม่ใช่รบเพื่อชาติ แต่รบเพื่อ “ตระกูลฮุน” โดยตรง!

ทั้งประเทศ ผูกขาดโดยตระกูลฮุน....

ตระกูลฮุน กินดี-อยู่ดี ธุรกิจสัมปทานใหญ่ๆ มีหุ้นลม กาสิโนทุกแห่ง คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เป็นแหล่งเงินที่สร้างความรวยล้น

ฮุน เซน สามารถกินสตาร์บัคส์แก้วใหญ่ หวาน ๑๐๐% ราคาร้อยกว่าบาท ได้วันละ ๔-๔ แก้ว รวยไม่รวยก็คิดเอา

ขนาดผมมีคนเรียกว่าเสี่ย ยังซดแค่โอยัวะอเมซอน แก้วละ ๓๕ บาท วันละ ๒ แก้ว ยังยอบแยบเลย!

ครอบครัวตระกูลฮุน ขนาดไม่มีกิน ยังมีหูฉลามแห้งปิ้งจิ้มน้ำปลากินทุกวัน แต่ประชาชนเขมร มีแต่หยวกกล้วยต้มน้ำปลากินทั้งชาติ

แต่เวลาฮุน เซนดีซ่าน อยากสู้กะไทย ก็เกณฑ์คนกินหยวกกล้วยต้มน้ำปลามาแต่งเป็นทหาร ให้มารบ

คนเขมรพอรู้ต้องมารบกับทหารไทย ทุกคนรู้เลย...ถูกส่งไปตาย รุ่นแก่-รุ่นเก่า คราวนี้ก็เน่าเป็นพัน

ตอนนี้ ถึงรุ่นหนุ่ม-รุ่นสาวในยุคสื่อสาร ยิ่งพวกที่เคยมาทำงานฝั่งไทยแล้วถูกขู่จะริบบ้าน-ริบที่ดินถ้าไม่กลับ มีความรู้-ความเข้าใจในระดับหนึ่ง

กลับไป ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อรบกับไทย ยิ่งรู้ว่าทหารไทยเสียชีวิต ได้รับปูนบำเหน็จเป็น ๑๐ ล้าน

แต่ทหารเขมรเสียชีวิต ได้ ๑๔๐ บาท กับมาม่า ๑ ซอง นี่เฉพาะ ๕ ศพ ที่รัฐบาลประกาศว่าเสียชีวิตเท่านั้นนะ

ที่นอนเป็นศพเกลื่อนกลาดให้ทหารไทยขนหัวลุกกับเสียงหมาหอนตอนดึกอีกเป็นพันๆ ศพ นั้นปกปิดไว้

ถ้าเราเป็นคนรุ่นใหม่เขมร....

มีผู้นำสูงสุดแบบฮุน มาเนต-ฮุน เซน เห็นแบบนี้แล้ว ยังจะยอมตายเพื่อพวกเขาอยู่อีกมั้ย?

ซักวัน....

การเกณฑ์คนไปตายเพื่อให้ตระกูลฮุนเสวยสุขบนซากศพทหาร มันจะเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” บนหลังประชาชนคนเขมร

“ฮุน เซน” ตอนร่วมขบวนการเขมรแดง ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นล้านนั้น ระวังเถอะ....กรรมจะตามมาสนอง

ประชาชนตายเพราะตระกูลฮุน

กงจักรแห่งกรรมก็จะหมุนนำให้ตระกูลฮุนล่มสลายเพราะประชาชน!

อ้าว....คุยเรื่อยเจื้อย

ยังไม่ได้รายงานให้ท่านทราบผลเจรจา GBC ระหว่าง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมไทย กับพลเอกเตีย เซ็ยฮา รัฐมนตรีกลาโหมเขมร ที่มาเลย์เมื่อวาน (๗ ส.ค.๖๘) นี้เลยว่าเป็นไง

เอาตามที่พลเอกณัฐพลแถลงเสียงดัง-ฟังชัด บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ดังนี้

............................................

7 สิงหาคม 2568 - การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน

โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี

2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังและไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย

3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดนเขตน่านฟ้าหรือที่ตั้งของอีกฝ่าย

ตามสถานการณ์หยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน

5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี

6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย

โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ

หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ

7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์

8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้

8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่

8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค.68

8.3 ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ

9.งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม

ส่วนที่ 2 กลไกตรวจสอบการหยุดยิง

10.ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค.68 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย

11.เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน

ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย

12.ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซียเป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว

ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว

ส่วนที่ 3 การประชุม GBC

13.ให้จัดการประชุม GBC ในหนึ่งเดือนหลัง 7 ส.ค.68 (สถานที่จะตกลงกันภายหลัง) หรือมิเช่นนั้นการประชุม GBC วิสามัญ จะถูกจัดขึ้นเพื่อเจรจาการหยุดยิง

.......................................................

ความจริง ที่จะตกลงกัน มี ๑๕ ข้อ

แต่มี ๒ ข้อ ฝ่ายเขมรยังไม่ตอบรับที่จะตกลงด้วย บอกว่าประชุม GBC ครั้งหน้า ค่อยหยิบมาพูดกันอีกที ตอนนี้เอาแค่ “หยุดยิง” ก่อน

๒ ข้อที่ฝ่ายเขมรยังไม่ตอบรับ คือ

๑.ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียด จนนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน

เรื่องนี้ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชา ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะ

และพื้นที่อื่นๆ ตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

๒.ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ หรือออนไลน์สแกม ซึ่งส่งผลต่อประชาชนคนไทย และประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

อืมมมม.....
แสดงว่า พลเอกเตีย เซ็ยฮา ได้รับคำสั่งฮุน เซน ให้เซย์โน

ในข้อแรก การไม่ตกลงเรื่องกู้เก็บทุ่นระเบิด ส่อว่าในใจฮุน เซนยังต้องการมีภาค ๒

ส่วนข้อที่สอง ชัดแจ้งแดงแจ๋ นั่นคือธุรกิจอาชญากรรมทางไซเบอร์ในเขมร มันคือ “กล่องดวงใจ” ของข้า...ใครอย่าแตะ!

จบแน่ๆ.....ฮุน เซน

ทั้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ทั้งอาชญากรสงคราม

ขอให้โชคดี ที่ศาล ICC นะ!.

-เปลว สีเงิน

๘ สิงหาคม ๒๕๖๘

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’

๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'

เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”

เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม

มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”

“มิตรในยามยาก”

“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้

‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’

แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก