หลังสิงหา.‘ฟ้าเปิด’

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร

ฉบับที่ ๔

ตามที่สำนักพระราชวังได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย

และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 ความทราบทั่วกันแล้วนั้น

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถและเครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระปัปผาสะ (ปอด) และพระวักกะ (ไต) มาโดยตลอด

คณะแพทย์ตรวจพบการติดเชื้อเป็นครั้งคราว ซึ่งได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพื่อรักษาพระอาการติดเชื้อดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2568 เป็นต้นมา

คณะแพทย์ตรวจพบว่าทรงมีการติดเชื้อที่รุนแรงและเข้าในกระแสพระโลหิต ทำให้ต้องถวายพระโอสถปฏิชีวนะหลายขนานร่วมกัน

รวมทั้งถวายพระโอสถกระตุ้นความดันพระโลหิต เพื่อรักษาความดันพระโลหิตให้คงที่ คณะแพทย์ยังคงถวายการรักษาอย่างเต็มที่และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

๑๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

..............................................................

นี่ก็เข้าครึ่งหลังของเดือนสิงหา.แล้ว!

ก็อยากบอกว่า....

หลังจากครึ่งเดือนนี้ไป บ้านเมืองของเราจะค่อยๆ พ้นสภาพจากการถูกนักการเมืองกักขังแล้วกระทำย่ำยีทั้งกายและใจจนปี้ป่น

แต่ไม่ใช่วันนี้-วันพรุ่ง ผมหมายถึง จากนี้ไป อะไรที่ใช่ ก็จะไฉไลเข้ามา ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ ก็จะบรรลัยออกไป

ทุกอย่างในบ้านเมืองจะค่อยๆ เข้ารูป-เข้ารอย และค่อยๆ ลงตัวในลักษณะ “เชิดหัวขึ้น” ในปีหน้า

ด้วยการเมืองใหม่ ที่ไม่ใช่ “ตระกูลชิน”!

บ้านเมืองไทย ไม่มีใครทำอะไรในทางร้ายได้สำเร็จหรอก ยามจน ก็จนแบบเศรษฐีขาดไฟ

แต่ถึงตอนรวย จะรวยกัน แม้ทอดกล้วยทอดขายก็กลายเป็นทองคำ

ยึดมั่นในชาติ ในพระศาสนา และในสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ อย่าไปเนรคุณ แล้วชีวิตจะได้รับการค้ำคูณตามฐานานุรูป ไม่มีตกต่ำ

คนรวยจากโกงที่ไม่จบลงด้วยความบรรลัยภายใน ๓ รุ่น ผมยังไม่เคยเห็นนะ

เห็นแต่ที่รวยตามครรลอง รวยแล้วอุปถัมภ์ศาสนา ตั้งศาลาโรงทาน แจกจ่าย-แบ่งปันตามกาลอันควร และรู้จักตอบแทนคุณแผ่นดิน

คนเหล่านี้ แปลก... ยิ่งให้-ยิ่งได้ ทั้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข

ตรงข้ามคนที่ “ยิ่งโกง” กลับ “ยิ่งบรรลัย” แม้ไม่ติดคุก บางคนถึงขั้นฉิบหาย-ตายโหง

ญาติพี่น้อง-ครอบครัว ลงท้าย ทะเลาะ แก่งแย่ง แตกทำลาย กันไป ชนิดผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ!

คอยดูเขมรฮุน เซนซี.....

ไม่ต่างโจรปล้นแผ่นดิน ทั้งผิดศีล-ผิดสัตย์ สะบัดลิ้นปลิ้นปล้อน พลิกเรื่องจากดำเป็นขาว จากขาวเป็นดำ

การทำเช่นนี้กับประเทศไทย อันมีคุณพระรัตนตรัยเป็นกำแพงแก้ว ๗ ชั้น ห้อมล้อมเป็นขอบเขตจักรวาล

สร้างกรรมหยาบช้ากับบ้านเมืองที่พระคุ้มนั้น ทำมาแรง ก็จะสะท้อนกลับไปแรงเป็นสองเท่า

“ตระกูลฮุน” มีสิทธิ์พินาศเป็นจุณให้เราได้เห็นกันสมัยนี้แหละ!

เล่นอะไรก็เล่นได้

แต่ใครก็อย่าไป “ล้อเล่น” กับกรรม โดยเฉพาะกรรมจาก โกงชาติ โกงประชาชน เชื่อผมเถอะ!

ฉะนั้น เราอย่าไปชื่นชม-ยกย่อง-สนับสนุน คนรวยจากโกง เศษกรรมจะตกกับตัวเราเองด้วย

วันนี้ ผมคุยอะไรก็ไม่รู้..นิ ฟังยาก น่าเบื่อ แต่เพราะผมเห็นตีนฟ้าเริ่มเปิด...เริ่มเท่านั้นน่ะ ยังไม่เปิด ชนิดทันใจท่าน

ก็อยากให้ท่านได้ตื่น เพื่อดู “แสงใหม่แห่งความหวัง”!

เออออ...๒๙ สิงหา.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปสนทนา “อุ๊งอิ๊ง-ฮุน เซน” มิใช่หรือ?

ผมเห็นข่าวหนึ่งที่มีคนโพสต์และแชร์ต่อๆ กันไปมาก เกี่ยวกับคดีนี้ โดยพาดพิงถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง ๙ ท่าน ทั้งนำภาพท่านมาทำในลักษณะที่ไม่สมควรเลย

คือข่าวนั้น เขาเริ่มว่า...ชักเริ่มกลิ่นไม่ค่อยดี

แล้วแยกเป็นตุลาการ ๕ ท่านที่ไปอินเดีย กับอีก ๔ ท่านที่ไม่ได้ไป และลงท้ายด้วยข้อความว่า “ชักได้กลิ่นขนมมาจากอินเดียแรงมาถึงนี่”

ผมว่า ไม่สมควรทำกันเช่นนี้....

มันเป็นการแบ่งแยกเพื่อทำลายทั้งสถาบันศาลรัฐธรรมนูญและทั้งตัวคณะตุลาการ ทั้ง ๙ ท่าน โดยตรง

ลักษณะกัดกร่อนบ่อนเซาะความเชื่อในดุลยธรรมของศาล เจตนาให้คนทั่วไปเคลือบแคลง-ระแวงสงสัยในคำตัดสินว่า

“เที่ยงธรรม” หรือ “ถุงขนม”!?

จะจริงแท้-จริงเท็จอะไรก็ช่าง แต่จะมาดักหน้า-ดักหลัง ว่า กลุ่มนั้น-เท่านี้, กลุ่มนี้-เท่านั้น แล้วสรุปลงที่ ๕:๔ ผมว่าเสรีกันจนน่าเกลียด

ถึงอ้างว่าเป็นการ “ตีปลาหน้าไซ” เหมือนตาวิเศษ อ๊ะ..อ๊ะ รู้นะ ว่ากำลังจะทำอะไร แต่มันก็ไม่สมควรอยู่ดี

รักชาติ รักความเป็นธรรมนั้น ถูกต้อง-ดีแล้ว

แต่รักแบบไร้ราก-เลื่อนลอย ก็รังแต่จะเดือดร้อน เป็นการทำลายทั้งตัวเองและผู้อื่น

อย่างรายนี้ เขาก็รักชาติ แต่เขาไม่ได้ทำแบบคิดเอา-นึกเอา แต่เขาทำตามรัฐธรรมนูญ หมวดที่ ๔ ว่าด้วย “หน้าที่ของปวงชนชาวไทย” ตามมาตรา ๕๐

คือเมื่อวาน (๑๕ ส.ค.๖๘) ที่ “สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น”

นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น

พร้อมด้วย นายชัยชนะ ทัศนนิยม ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย, นายอภิชัย เพชรสม และนายวีระศักดิ์ สายทอง แกนนำองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ

เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.๑๑๙, ๑๒๐, ๑๒๔, ๑๕๗  และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายตุลย์ กล่าวว่า....

“การมาร้องทุกข์กล่าวโทษ นายภูมิธรรม ครั้งนี้ เพราะเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

แต่ “รักษาการนายกฯ” ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเสียเอกราชได้

ถ้ามองดูการทำงานฝ่ายทหาร.....

จะเห็นว่าฝ่ายไทยเข้าไปยึดพื้นที่กลับมา นั่นแปลว่าเราเสียเอกราชไปแล้ว แต่ว่าทหารได้ไปยึดกลับมา ๑๑ แห่ง ยืนยันโดยทหาร

“รักษาการนายกฯ” ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง

แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตาย ทรัพย์สินเสียหาย นั่นคือความร้ายแรงของผู้รักษาการนายกฯ ต้องทำและต้องปกป้องให้ได้

แต่กลับไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชานั่นเป็นโทษร้ายแรงมาก

เราจำเป็นต้องปกป้องรักษาโดยอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา ๕๐ มากล่าวโทษร้องทุกข์วันนี้

เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างเคร่งครัด คือมาตรา ๑๕๗, ๑๑๙, ๑๒๐, ๑๒๔

ส่วนกรณีที่รักษาการนายกฯ ไปให้สัมภาษณ์ประเด็นต่างๆ คือการไปเข้าข้างศัตรูอย่างร้ายแรง  โทษมาตรา ๑๑๙ คือประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

นายตุลย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า

การที่นายภูมิธรรมไปกล่าวว่า “กัมพูชาไม่ได้ตั้งใจยิง” นั้น เป็นการคุกคามอย่างร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศ ยอมรับไม่ได้ มันคืออาชญากรสงคราม

เราต้องร้องไปที่ไอซีซี หรือกฎหมายระหว่างประเทศที่มีการดำเนินการกันอยู่ตอนนี้

อยากให้ดำเนินคดีกับนายภูมิธรรม จากบทสัมภาษณ์ว่า “เขมรไม่ได้ล็อกเป้า” วิถียิงแบบกระจาย

โดยเฉพาะข้อความสุดท้าย ที่บอกว่า “ไม่ได้ตั้งใจยิงใส่โรงพยาบาล”

นายภูมิธรรมมีหน้าที่ต้องไปตอบแบบนี้หรือไม่  คนที่จะตอบแบบนี้ คือฝั่งเขมร

แต่นายภูมิธรรมตอบแบบนี้ เสมือนว่าไปตอบแทนฝั่งกัมพูชา ซึ่งมีบางส่วนจะนำนายภูมิธรรมเข้าสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ

หากฮุน เซนเอาบทสัมภาษณ์นี้ไปบอกศาลว่า  “รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยตอบแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ”  

ศาลจะฟังใคร.....?

 เพราะเราไปตอบเองแล้ว เราไปตอบแทนฝั่งกัมพูชาแล้ว

นายภูมิธรรมไม่ได้มีหน้าที่วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าตั้งใจยิงหรือไม่ตั้งใจยิง

ที่สำคัญ ยังไปบอกทหารอีกว่าการลาดตระเวนที่ขาขาดเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น

เราในฐานะคนไทย ถ้ารับกับสิ่งเหล่านี้ได้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ทุกคนจึงมีเจตนาให้ดำเนินคดีนายภูมิธรรมตามเอกสารที่แนบมานี้”

นี่ผมก็หยิบมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนตำรวจจะรับเป็นคดีหรือไม่อย่างไร ตามข่าวเขาไม่ได้แจ้ง

แต่เป็นคดีอาญา ตำรวจคงต้องรับ รับแล้ว ทาง สภ.ขอนแก่น ทางผู้กำกับคงรายงานตามลำดับชั้นจนถึง ผบ.ตร.แล้วมั้ง?

ก็บอกแล้ว “แผ่นดินไทย” ใครคิดไม่ซื่อ ยากจะอยู่สุข

พูดไปอีกที ก็ต้องขอบคุณเขมร....

ที่ช่วยเป็นตัวเช็ก “เรตติ้ง” ให้รู้ว่า คนไทยรักชาติ-รักบ้าน-รักเมืองไทย มากน้อยขนาดไหน?

แต่ “รักชาติจนน้ำลายไหล” อย่างนักการเมือง แบบนั้นไม่เอานะ!

-เปลว สีเงิน

๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๘

 

วันเสาร์ที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การทูต “มือคนละชั้น”

เขมรท่องแต่คำว่า “ไทยรุกราน” แต่เมื่อวาน เป็นวันประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในเรื่องสันติภาพแท้ๆ ที่มาเลย์

ไทย 'พระเอกโลก'

ไม่คิดว่าจะมีภาพนี้ให้เห็นได้จากนายกฯ คนไหนๆ แต่เมื่อวาน (๒๑ ธ.ค.๖๘) ก็ได้เห็น..... “นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล” คุกเข่ากราบ ๒ ร่างวีรชน “จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน” และ “พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา”

🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568

'อนุทิน' เท่านั้น 'นายกฯ'

ช่วงนี้... เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ” ในสมรภูมิเลือด ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย

‘วันเกิดไทย-วันตายเขมร’

“จะเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้หมด ไทยจะต้องจัดการเขมรให้สิ้นซาก ไม่ให้คิดที่จะเข้ามารุกล้ำดินแดนไทยอีกในอนาคต” ‎ ‎ ‎