
ต้องบอกว่ายามนี้ “พรรคภูมิใจไทย” ของเสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี เนื้อหอมเป็นอย่างยิ่ง ถนนทุกสายต่างมุ่งไปหา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยล่าสุดกลุ่ม “ชุมพล จุลใส” อดีต สส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยกขบวนเข้าซบแล้ว และอีกไม่นาน “บ้านใหญ่กาญจนะ” จากสุราษฎร์ธานี และ “บ้านโล่สถาพรพิพิธ” จากตรังก็จะทยอยเข้ามาอีก นี่ยังไม่นับรวมก่อนหน้านี้ที่มี “บุญญามณี” จากสงขลาที่เข้าไปก่อนแล้ว จึงไม่แปลกที่พรรคเสี่ยหนูจะตั้งเป้ากวาด สส.ในพื้นที่ด้ามขวานกว่า 30 เก้าอี้ เพราะหากพินิจพิเคราะห์บ้านใหญ่ทั้งหลาย และเจ้าของพื้นที่เดิมและขาใหญ่ที่เสื่อมทรุดลงทุกวันอย่าง “ประชาธิปัตย์” ก็มีแนวโน้มสูง ...๐
ยิ่งล่าสุดแม้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” จะตัดช่องน้อยแต่พอตัวลาออกจากเก้าอี้ไปแล้ว แต่ “เดชอิศม์ ขาวทอง” ก็ยังนั่งเป็นเลขาธิการพรรคอยู่ แม้จะมีน้ำจิ้มอย่าง “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ “เต้ พระราม 7” พร้อมทีมงานไขก๊อกล่าสุด ด้วยเหตุผลว่าเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จึงตัดสินใจลาออกตาม เพื่อแสดงจุดยืนและความภักดีก็ตามที แต่ สิ่งที่วงกาแฟสนใจและให้ราคาต่อรองอย่างมากคือ ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป ...๐
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพลิกพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพราะ “ตราบาป” การร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยที่ต้องบอกว่า “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” กันมานานนม ได้กลายเป็นสิ่งที่ฝังหัวจิตหัวใจสาวก ปชป.อย่างไม่มีทางขจัดออก แม้ จะตีปี๊บว่า “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะกลับมาทำหน้าที่ แต่บรรดาเกจิทางการเมืองต่างก็ฟันธงว่าไม่ได้ช่วยอะไร หรือแม้แต่จะลาก “ชวน หลีกภัย” กลับมานั่งก็เรียกศรัทธาไม่ขึ้น เพราะการไปผสมพันธุ์กับระบอบทักษิณนั้นมันรุนแรงเกินให้อภัย ...๐
ที่ไม่ต่างจากพรรค ปชป.ก็หนีไม่พ้นพรรคดีเอ็นเอลุงตู่อย่าง “รวมไทยสร้างชาติ” นั่นแล เพราะดูท่าแล้วอาการหนักกว่าเสียอีก ล่าสุด “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” พร้อมทีมก็โบกมือลาแล้ว ไม่นับก่อนหน้านี้ที่ “สุชาติ ชมกลิ่น” ได้หนีไปก่อนแล้ว แม้ล่าสุด “ชัชวาลล์ คงอุดม” หรือ “ชัช เตาปูน” สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่แทนก็ตามที แต่ดูสภาพแล้วก็เชื่อว่าไปต่อยาก ที่สำคัญยังต้องลุ้นว่า “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” จะกล้าและลงทุนเดินหน้าพรรคต่อหรือไม่ ซึ่งหากเจ้าตัวเซย์โน ก็เชื่อว่าบรรดาเด็กประชาธิปัตย์เก่าทั้ง “วิทยา แก้วภราดัย” และ “จุติ ไกรฤกษ์” คงต้องคิดหนักว่าจะหวนคืนบ้านเก่าหรือไปสมทบเพื่อนๆ ที่แห่ไปอยู่ภูมิใจไทยกันดี ...๐
หันมาดูพรรคประชาชนกันบ้าง เมื่อวันวาน หัวหน้าเท้ง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ก็ออกมาขู่ฟ่อๆ ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญห้ามล่ม โดยรวมเรื่องเสียง สว.ไว้เป็นความรับผิดชอบของพรรคสีน้ำเงินด้วยว่า หากสะดุดหยุดลงเมื่อใดรัฐบาลถูกล่มด้วยเสียงพรรคส้มแน่ วันนี้ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” ก็ออกมาขู่ล้มรัฐบาลอีกระลอก หากละเมิดเอ็มโอเอ เพราะส้มเริ่มเห็นว่าสีน้ำเงินเริ่มจะเข้มกันมากทุกที พิโธ่! นี่ยังไม่ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 และยังไม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแต่ประการใด พ่อเจ้าประคุณผู้มีอุปการคุณมอบเก้าอี้นายกฯ คนที่ 32 ก็ทวงบุญคุณกันยิกๆ แล้ว ...๐
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง พอเป็นฝ่ายค้านก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาทันตา โดย “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็บอกว่าได้เตรียมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้ว รอหารือในที่ประชุมพรรคก่อนเดินหน้าต่อไป เล่นเอางงกันทั้งบาง ทำไมพอเป็นรัฐบาลเรื่องดังกล่าวเงียบฉี่ จน “ทั่นไอติม” ทวงถามไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ พอเป็นฝ่ายค้านฝ่ายแค้นไม่ทันไรกลับขยันขันแข็งขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ที่ชาวบ้านร้านถิ่นเขาสงสัยกันเหลือเกิน ทำไมไม่กล้าประกาศและการันตีว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แตะหมวด 1 และ 2 หรือเพราะดีลลับที่นายใหญ่กลับเข้าคุกเข้าตะรางเลยทำให้เกิดอาการคันเหมือนส้มจี๊ดกันจ๊ะ ...๐
ทิ้งท้ายด้วยคดีดังประจำวันพุธ เมื่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้พิพากษาคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวแล้ว โดยสั่งจำคุก “ยศวริศ ชูกล่อม” หรือ เจ๋ง ดอกจิก 6 ปี 4 เดือน ส่วน “ศรีสุวรรณ จรรยา” พร้อมพวกโดนฐานสนับสนุน คนละ 4 ปี งานนี้คงต้องต่อสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์ที่ถือว่าสิ้นสุดแล้ว โดยหากในชั้นนี้ตัดสินเร็ว เรา อาจได้เห็น “เจ๋ง-พี่ศรี-สทร.” เป็นเพื่อนร่วมคุก ตอกย้ำว่าโลกมันกลมก็เป็นได้ ใครจะไปรู้ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น
บันทึกหน้า 4
ยังไม่ถึงเวลา! วันศุกร์นี้ "รัฐบาลอนุทิน" ยังคาดเข็ดขัดนิรภัยต่อ แม้ "นายกฯ หนู" จะบอกว่าพร้อมยุบสภาทุกเมื่อ เตรียมพระราชกฤษฎีการอไว้แล้ว ถึงจะเลื่อนเร็วขึ้นจากไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ใช่ 12 ธ.ค.

