
ทำไม.....
เขมรถึงจัดอีเวนต์ “กวนตีนไทย” ภายใต้คอนเซปต์ “เอ็งมาข้ามุด-เอ็งหยุดข้าแหย่” เป็นรายวันในช่วงนี้...รู้มั้ย?
อย่างล่าสุด ในเขตพื้นที่ภูผี ตำบลเสาธงชัย กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ที่ทหารเขมรจำนวนมากมาเป็นปุ๋ยบำรุงดินให้เมื่อปลายเดือนกรกฎา.
เมื่อวาน (๒๓ ก.ย.) ตอนบ่าย เขมรมันส่งทหารเดนตาย ๒-๓ นาย ย่องเข้ามาในแนวรั้วลวดหนาม ทีท่าจะมาทำอะไรซักอย่าง
ทหารไทยจึงให้เสียงไปทำนองว่า...
“อ๊ะ..อ๊ะ ข้าเห็นนะ ไอ้พวกลูกหมา มึงจะมาหาที่ตายกันอีกรึไง?”
เท่านั้นแหละ ทหารเขมรตกใจแทบเยี่ยวราด ใช้ปืนเล็กยาวยิงใส่รั้วลวดหนามตูมตามสลับยิงขึ้นฟ้า
ทหารไทยจึงยิงเตือนไปด้วยความเอ็นดู
ทหารเขมรพากันวิ่งหนีป่าราบกลับเข้าแดนไป โดยฝ่ายไทยไม่ได้ถือเป็นเหตุที่จะรุกไล่ด้วยหวังขยายสถานการณ์เพื่อบดขยี้
นี่เป็นพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ ที่เขมรได้แต่จ้องขยับ แต่ไม่กล้าเข้ามาต่อกรจริงๆ จังๆ เพราะยังแหยงสรรพคุณ “แม่ทัพบุญสิน”
แหยงแล้วทำไมจะเข้ามากระตุกหนวดเสืออีกล่ะ?
เดี๋ยวค่อยตอบ คุยต่อให้จบก่อน
ไปดูทางด้านตะวันออกที่สระแก้ว พื้นที่ “บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขตรับผิดชอบของทัพภาคที่ ๑ บ้าง
ก็จะเห็นความแตกต่างรูปแบบการก่อกวนของทหารเขมร ในพื้นที่ “แดนชนแดน” ของกองทัพภาคที่ ๒ ซึ่งเป็นพื้นที่ลึกเข้าไปในป่าทึบ
มีแต่ทหาร ไม่มีชาวบ้านตั้งชุมชน
ฉะนั้น การเผชิญหน้าปะทะกัน จะเป็นระหว่างทหารกับทหาร ไม่มีชาวบ้านปะปน เรียกว่า “ลงมือ-ลงตีน” กันได้ถนัด!
แต่ที่ “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” ของไทยที่ให้เขมรอาศัยซุกหัวตอนลี้ภัยแล้วมันยึดเลย นั้น
เป็นเขตเมือง พื้นที่ทุ่งนา-ป่าโล่ง เขมรตั้งเป็นชุมชนอยู่กันจำนวนมาก
ดังนั้น จะเห็นว่า ในการดื้อแพ่ง ไม่ยอมถอยกลับออกไปจากแผ่นดินไทย ตามที่ทางการยื่นคำขาด
ทหารเขมรไม่กล้าออกเผชิญสถานการณ์ด้วยทหารเอง ใช้ชาวบ้าน ลูกเล็กเด็กแดง คนแก่-คนเฒ่า เป็นโล่มนุษย์ออกหน้า โดยทหารบัญชาอยู่ข้างหลัง
เพราะถ้าทหารออกมาใช้กำลังต่อต้าน-ค้านคัดเจ้าหน้าที่ไทยที่เข้าไปทวงแผ่นดินคืน ก็เท่ากับเขมรเป็นฝ่ายใช้กำลังทหารบุกรุกไทย
เข้าข่าย “เขมรเปิดก่อน”!
เมื่อเปิดก่อน เขมรก็จะเหมือนลูกตะกร้อเข้าตีนไทย จะถูกทหารกองทัพภาคที่ ๑ ของแม่ทัพอมฤต บุญสุยา
“ตีรุกพรวดเดียว”.......
กวาดทั้งทหาร-ทั้งชาวบ้านเขมร ที่ยึดอยู่ “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” ให้กระเจิงกลับเขมรไปด้วยกันซะทีเดียวเลย!
เขมรมันรู้แกว
ว่าทหารไทยเกียรติภูมิสูง “จะไม่ทำร้ายประชาชน”
ดังนั้น มันจึงใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ออกรับหน้ากับปฏิบัติการ “ทวงคืนแผ่นดินไทย” ของกองทัพภาคที่ ๑
นี่คือกลเกมของเขมรที่ถนัดในการสร้างภาพ “ฟ้องโลก”
ถ้าทหารไทยทำอะไรรุนแรงกับชาวบ้านที่ทหารเขมรจ้างให้ออกหน้าหวังให้ปะทะกับทหารไทย มันก็จะเอาภาพนั้นไป “ฟ้องโลก”
ว่าทหารไทยไม่รักสันติภาพ ทหารไทยทำลายสิทธิมนุษยชน ทหารไทยโหดร้าย ทำรุนแรงกับประชาชน
ท่านพอเห็นภาพเปรียบเทียบเหตุด้านอีสานใต้ เขตกองทัพภาคที่ ๒ กับเหตุด้านตะวันออก เขตกองทัพภาคที่ ๑ ตามที่ผมลำดับความมั้ย?
ในอีสานใต้ เป็นภูเขาและป่าลึก ไม่มีตาชาวบ้าน ไม่มีตาผู้สังเกตการณ์คอยจับจ้อง
ทหารเขมรจึงไม่ต่างโจร ฝืนข้อตกลงกับไทยทุกอย่าง ลอบกัดทุกวิถีทาง กระทั่งลอบวางกับระเบิด!
ในตะวันออก ซึ่งเป็นเขตเมือง พื้นที่โล่ง มีตาชาวบ้านคอยจับจ้อง เขมรจึงไม่กล้าใช้ทหารปฏิบัติการเยี่ยงโจรกับไทย เลี่ยงไปใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์บังหน้า
ที่จ้างชาวบ้านมาก่อกวนหวังให้ปะทะกับไทยนั้น จุดมุ่งหมายของเขมรคือ
ต้องการภาพ “ทหารไทยใช้กำลังกับชาวบ้านเขมร” ไปฟ้องโลก
ขณะเดียวกัน เตี๊ยมกับคณะสังเกตการณ์ฝั่งเขมร จัดฉากให้เกิดการปะทะระหว่าง “ตำรวจ-ทหารไทย” กับ “ชาวบ้านเขมร” ปุ๊บ
คณะสังเกตการณ์ก็มาถึงปั๊บ เห็นต่อหน้า-ต่อตาว่า “ฝ่ายไทยทำรุนแรงกับชาวบ้านเขมร”!
ฉะนั้น เช้าขึ้นมาแต่ละวัน เราจึงเห็นข่าว เขมรจัดม็อบราวีไทยหน้ารั้วลวดหนามหรือรื้อรั้วลวดหนามไปชั่งกิโลขายทุกวัน
จนชาวบ้านรวมทั้งผมคันใจ.....
ว่า “พลโทอมฤต บุญสุยา” แม่ทัพภาคที่ ๑ ทำไมถึงไม่จัดการเรื่องนี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ถึงขั้นประกาศใช้ “กฎอัยการศึก” แล้ว ยังปล่อยให้เขมรสัตว์เนรคุณกำแหงอยู่ได้?
แล้วทหารกองทัพภาคที่ ๑ ทำไมจึงไม่แอ็กชัน กลับให้ตำรวจระดมหน่วย “ปฏิบัติการควบคุมฝูงชน” มารับหน้าม็อบชาวบ้านเขมรแทน?
ผมปรารภไปเมื่อวาน เห็นหลายท่านคอมเมนต์กันรุนแรงถึงตัวท่านแม่ทัพภาคที่ ๑ “พลโทอมฤต บุญสุยา” ก็เกรงว่าด้วยความมุ่งมั่นเพื่อชาติและแผ่นดินด้วยกัน
แต่ในเรื่องเดียวกัน เกิดระแวง-แคลงใจกัน ก็จะไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศรวม
ผมก็อยากทำความเข้าใจว่า ชาวบ้านก็มองการแก้ปัญหาในวิถีชาวบ้าน แต่ความจริงแล้ว ทหารแม้ตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง
แต่ยังมีเหตุปัจจัยทางยุทธศาสตร์พื้นที่และกลไกในเวทีโลกที่เป็นข้อคำนึง ก่อนจะปฏิบัติการทางทหารให้เบ็ดเสร็จ-เด็ดขาดลงไปดังที่ใจอยากจะทำ
ผมเห็นข่าว “นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล” ชั่งใจว่า จะไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๙ กันยา.นี้ ได้หรือไม่
เพราะรัฐบาลใหม่ ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ก็ไปดูว่า หัวข้อที่ยูเอ็นกำหนดให้ผู้นำแต่ละประเทศขึ้นไปแสดงวิสัยทัศน์ ปีนี้มุ่งไปทางไหน?
เขาตั้งหัวข้อไว้ในประเด็น “สันติภาพและสิทธิมนุษยชน” ครับ
ผมถึงบางอ้อทันที!
เพราะอย่างนี้ เขมรฮุน เซน ๒ พ่อลูก จึงประจบสอพลอประธานาธิบดีทรัมป์ ให้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ
และในความเป็น “เขมรขี้ฟ้อง”
ทั้งที่ทั้งโลกเห็นคาตา ว่าเขมรเปิดสงครามยิงจรวดใส่บ้านเรือนฆ่าประชาชนคนไทยก่อน
แต่เขมรกลับทำหนังสือฟ้องยูเอ็นบ้าง ฟ้องผู้นำประเทศโน้น-นี้บ้างว่า “ไทยรุกรานเขมรผู้รักสันติภาพ”
ทำอย่าง สะบัดลิ้นสองแฉกไปอีกอย่าง แล้วอ้าง “เขมรรักสันติภาพ”
พอไทยปกป้องแผ่นดินจากการรุกรานจนทหารเขมรเป็นผีเฝ้าป่า มันกลับฟ้องว่า “ไทยทำลายสันติภาพ”
เขมรรุกล้ำแผ่นดินไทย พอไทยทวงคืน ก็จ้างชาวบ้านมาเป็นโล่มนุษย์ยั่วยุ พอฝ่ายไทยยิงแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยาง ก็แหกปากไปฟ้องโลกว่า “ไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน”
มันก็รอเวทีสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ๒๓-๒๙ ก.ย.ที่นิวยอร์ก นี้ หวังประมวลเรื่องจากฉากที่ถ่ายทำเตรียมไปฟ้องชาวโลกในเวทียูเอ็น
ว่า “ไทยรุกรานเขมร ละเมิดสิทธิมนุษยชน ในขณะที่เขมรรักและแสวงหาสันติภาพ” ประมาณนั้น
เพราะอย่างนี้ ทางกองทัพภาคที่ ๑ จึงมีแผนปฏิบัติการร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ เตรียมรับมือเขมรขี้ฟ้องที่ยูเอ็น
โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาพ “ทหารไปตีกับชาวบ้าน” ซึ่งจะเข้าแผนเขมรที่ต้องการใช้เป็นภาพเหตุการณ์ไปฟ้องโลก
และจะไม่ทำอะไรให้เขมรนำไปอ้างได้ว่า “ไทยเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง JBC, GBC, RBC
เมื่อวาน นายกฯ อนุทิน ก็ตัดสินใจแล้ว “ไม่ไปร่วมประชุมยูเอ็น เพราะยัง “คาบลูก-คาบดอก” ในเรื่องอำนาจเต็ม
เมื่อนายกฯ อนุทินไม่ไป....
คนที่ไปรับมือเขมรปั้นเรื่องเท็จฟ้องไทยในเวทีโลก คิดว่าน่าจะเป็น “นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่เชื่อมือได้!
เมื่อมองรอบด้านแล้ว และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ก็ได้เข้าใจว่า ทำไม “พลโทอมฤต” จึงไม่ทำอย่างนั้น-อย่างนี้ ดังใจชาวบ้าน
ชาวบ้านอย่างเราๆ คิด นั่นคิดเบ็ดเสร็จด้านเดียว
แต่กองทัพเขาต้องคิดด้วยรับผิดชอบและแผนปฏิบัติการที่รอบคอบ
ส่วนความต้องการในการแก้ปัญหาเขมรนั้น ทหารกับชาวบ้าน “ต้องการตรงกัน”
แต่การทำ ต้องอยู่บนฐาน “ความรับผิดชอบ” และต้องไม่พลาดที่จะนำความเสียหายให้เกิดกับชาติบ้านเมือง เป็นหลักสำคัญ
กองทัพเขาจะไม่ทำอะไรที่ไม่มีแผนที่ตกผลึก
ผมจึงเข้าใจเหตุที่ “พลโทอมฤต” ไม่ใช้ทหารจัดการม็อบชาวบ้านเขมรที่ราวีไทยให้เกิดคำว่า “ไทยใช้ทหารปราบปรามประชาชน”
หลีกเลี่ยงไปใช้ตำรวจควบคุมฝูงชนรับมือแทน เพื่อไม่ให้เขมรนำไปกล่าวอ้างว่าไทยใช้ทหารทำร้ายชาวบ้านเขมร!
ผมก็ว่า ถึงกระนั้น ในฐานะแม่ทัพ “พลโทอมฤต” เรื่องที่จะทำ แต่นำมาพูดต่อสาธารณะให้ฝ่ายเขมรรู้ด้วยไม่ได้นั้น ก็จริง
แต่ “กองทัพของประชาชน” ในยามบ้านเมืองมีปัญหาถูกเขมรอันธพาลรุกรานบ้านเมืองและประชาชน
ท่านแม่ทัพ น่าจะออกมาพูดจา-พบปะกับชาวบ้านบ้าง ในฐานะ “กองทัพของประชาชน-ประชาชนของกองทัพ” เพื่อความอบอุ่นใจว่า “ไม่ทิ้งกัน”
เอาละ อีกไม่กี่วัน ท่านแม่ทัพภาค ๑ ก็จะประชุม RBC กับฝ่ายเขมร ส่วนระดับ JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่เคาะตัวคณะเจรจา
สรุปความว่า....
ปัญหาชายแดน “ไทย-เขมร” ทั้งอีสานใต้ ทั้งตะวันออก ที่สระแก้ว และที่ตราด-จันทบุรี แม้ไม่จบในเดือนนี้
แต่ “ต้องจบในรุ่นนี้”
กองทัพกล่าว “เปลว สีเงิน” ไม่ได้กล่าว!
-เปลว สีเงิน
๒๔ กันยายน ๒๕๖๘
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568
'อนุทิน' เท่านั้น 'นายกฯ'
ช่วงนี้... เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ” ในสมรภูมิเลือด ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย
‘วันเกิดไทย-วันตายเขมร’
“จะเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้หมด ไทยจะต้องจัดการเขมรให้สิ้นซาก ไม่ให้คิดที่จะเข้ามารุกล้ำดินแดนไทยอีกในอนาคต”
'ยุทธการชิงเนิน ๓๕๐'
“นักยุทธศาสตร์การศึก” ทั่วโลกขณะนี้ จับจ้องไปที่ “สมรภูมิ เนิน ๓๕๐”! อยากรู้ว่า ด้วย “ชัยภูมิที่เสียเปรียบ” สุดๆ
มีปาก 'อย่าสักแต่พูด'
“หายอยากกันแล้วละซีท่า!?” เมื่อวาน ถึงมีคนโพสต์ถามลอยๆ “สงครามจะจบเมื่อไหร่?” “นายกฯ อนุทิน” เคยบอก
“คนรุ่นใหม่” ไปแนวหน้า
เหมือนเสี้ยนที่ตำคาใจตั้งแต่ ๒๘ กรกฎา.ได้รับการบ่ง เมื่อเพจ “Army Military Force” แพร่วิดีโอคลิปเมื่อวาน (๑๕ ธ.ค.๖๘) พร้อมข้อความว่า

