
คนโบราณนี่ท่านลึกซึ้งจริงๆ
เวลาจะสอนใคร ท่านจะ “พูดโดยนัย” ให้คิด แทนพูดตรงๆ เพราะการพูดตรงๆ คนบางจำพวก เช่นพวก “โง่แล้วหยิ่ง” จะไม่ชอบ
อย่างท่านจะเตือนพวกหูเบา ได้ยินอะไร ใครพูดอะไรก็เชื่อหมดในทันที ท่านก็จะเตือนโดยนัยว่า
“ใครมาบอกไอ้เข้ขึ้นที่ท่าน้ำ ก็อย่าเพิ่งรีบเชื่อนะ”!
ความหมายของท่านคือ ต้องไปดูให้แน่ใจก่อนว่า ไอ้ที่ตะคุ่มๆ อยู่ตรงท่าน้ำนั้น เป็นหัวตะโหงกหรือหัวจระเข้กันแน่?
วัน-สองวันนี้เช่นกัน
“นิวยอร์กไทมส์” สื่อสหรัฐฯ ตีพิมพ์บทความเชิงรายงานว่า
“เครื่องบินทหารจีน ได้ลงจอดที่กัมพูชาในเดือนมิถุนายน ไม่กี่สัปดาห์ก่อนข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยจะปะทุเป็นสงครามขึ้น
เครื่องบินดังกล่าวคือเครื่องบิน Y-20 ซึ่งถูกเรียกว่า Chubby Girls เนื่องจากลำตัวเครื่องบินกว้าง บรรทุกสัมภาระหนักได้
เครื่องบินเหล่านี้ บินมายังสีหนุวิลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ ๖ เที่ยวบิน โดยนำจรวด กระสุนปืนใหญ่ และปืนครก มาด้วย
ตามเอกสารข่าวกรองของไทย ที่นิวยอร์กไทมส์ได้ตรวจสอบ ว่าเป็นการขนส่งที่ไม่เคยมีรายงานมาก่อน
เอกสารระบุ อาวุธจีนถูกบรรจุลงในตู้คอนเทนเนอร์ ๔๒ ตู้ และเก็บไว้ที่ “ฐานทัพเรือเรียม” ที่อยู่ใกล้เคียง
ไม่กี่วันต่อมา กระสุนที่ผลิตในจีน ถูกเคลื่อนย้ายจากฐานทัพไปทางเหนือหลายร้อยไมล์ ไปยังชายแดนกัมพูชาที่ติดกับไทย ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทตามเอกสาร ............................
รายงานข่าวกรองทางทหารของไทย พบว่า ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ มิถุนายน จีนได้ส่งกระสุน ๗๐๐ นัด สำหรับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของสหภาพโซเวียต
รวมถึงระบบยิงจรวดหลายลำกล้องที่ผลิตในจีน ได้แก่ Type 90B และ PHL-03
นอกจากนี้ จีนยังส่งกระสุนปืนใหญ่สำหรับปืนใหญ่อัตตาจร SH-1 ของจีน และปืนใหญ่สำหรับปืนกลต่อสู้อากาศยานของสหภาพโซเวียตอีกด้วย
เอกสารระบุว่า ในอีก 2 วันต่อมา กัมพูชาได้เคลื่อนย้ายกระสุนไปยัง ๒ จังหวัดชายแดน คือ อุดรมีชัย และพระวิหาร
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การส่งมอบชุดใหญ่เช่นนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้นำระดับสูงของจีนเสียก่อน
“แอนโทนี เดวิส” นักวิเคราะห์ของ Janes สิ่งพิมพ์ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง ซึ่งประจำอยู่ในกรุงเทพฯ กล่าวว่า การส่งกำลังบำรุงอย่างรวดเร็วในระดับนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ....ฯลฯ...
นี่ “นิวยอร์กไทมส์” รายงานและสื่อไทยเผยแพร่ต่อยาวกว่านี้ ผมเพียงคัดย่อเนื้อหาหลักๆ มาให้ทราบเท่านั้น
ใครอ่านข่าวนี้ปุ๊บ ก็ต้องเข้าใจปั๊บ ว่า อ้อ...มันอย่างนี้นี่เอง!
“ไทย-จีน” พี่น้องกัน
แต่จีนกลับขนอาวุธหนัก-เบามาให้เขมรยิงถล่มไทย!?
ผมไม่เถียงว่า ใน “สงคราม ๕ วัน” นั้น อาวุธที่เขมรใช้ถล่มไทยมาจากจีน
แต่ผมเพียงอยากเตือนสติว่า “ดูให้แน่ก่อนว่า ข่าวนี้มันเป็นหัวตะโหงกหรือหัวจระเข้?”
ในความเห็นผม นี่คือ “เรื่องจริง” ที่ “ต่างกาลเวลา” แต่สหรัฐฯ ฉวยจังหวะนำมาใช้แสดงความปรารถนาดีต่อไทยแบบ “ประสงค์ร้าย”
เจตนาต้องการให้ไทย “ขุ่นเคืองใจ” กับจีน!
เพื่อให้มิตรภาพ “จีน-ไทยพี่น้องกัน” เกิด “ช่องว่าง” ให้สหรัฐฯ ฉวยโอกาสแสดงบท “มหามิตร” หวังแทรกเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานยันจีน ที่ตั้ง “ฐานทัพเรือ” อยู่ที่เรียม
จุดที่เขมรให้จีนตั้ง “ฐานทัพเรือเรียม” นั้น
เป็นจุดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ทางเข้าอ่าวไทย ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์ ทั้งยังอยู่ใกล้ช่องแคบมะละกา!
ทำให้สหรัฐฯ ต้องร้อนรน .....
เมื่อจีนตั้งฐานทัพเรือที่เรียม เท่ากับจีนคุม ๒ มหาสมุทร ทั้งด้านอ่าวไทย ที่จะไปทะเลจีนใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ คือมหาสมุทรแปซิฟิก
อีกด้าน คือ ด้านอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย อันเป็นเส้นทางขนน้ำมันจากตะวันออกกลางมาลอดช่องแคบมะละกาไปออกทะเลจีนใต้ สู่มหาสมุทรแปซิฟิก
เมื่อจีนมีฐานทัพเรือคุมจุดยุทธศาสตร์ด้านขนส่งเชื่อมต่อ ๒ มหาสมุทรเช่นนี้ สหรัฐฯ จะตายตาหลับได้อย่างไร?
สหรัฐฯ ก็แค้นเขมรจนแน่นในอกที่ยกฐานทัพเรือเรียมให้จีน ทั้งที่ก่อนหน้าฐานทัพแห่งนี้สหรัฐฯ ก็ใช้เป็นที่ฝึกทางทะเลร่วมกับเขมร
แต่อย่างว่า สหรัฐฯ จะคบใครก็ตอนจะได้ประโยชน์ ตอนไหนไม่ใช้ประโยชน์ ก็ไม่เหลียวแล
ก็เลยเสร็จจีน!
ธรรมเนียมตะวันออกก็รู้อยู่แล้ว การ “ผูกมิตร-ผูกใจ” ไปไหน-มาไหน ก็ต้องมีของติดไม้-ติดมือไปฝากเป็นประจำ
จีนได้ฐานทัพเรียม “คุม ๒ อ่าว” ด้านยุทธศาสตร์โลก ดีใจยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ ๑ ยกชุด
ฮุน เซน จะเอาอะไรล่ะ จีนกลั้นใจ ทูนหัว-ทูนเกล้า ให้หมด!
ฉะนั้น ไม่แปลกหรอก ที่จีนจะโละอาวุธเก่าๆ มาให้เขมร และผมก็เชื่อ ไม่ใช่เพราะเขมรอยากถล่มไทย ไปขออาวุธจีน แล้วจีนก็จัดให้ เพื่อการนี้
อย่าลืมว่า กว่า ๑๐ ปีมาแล้ว เขมรไม่เคยมีเรื่องกับไทย เพิ่งมีตอนทักษิณกลับมาเป็นพ่อนายกฯ ในรัฐบาลเพื่อไทยนี่แหละ
เรื่องที่เคยตกลงจะขุดพลังงานในอ่าวไทยแบ่งกัน ๕๐/๕๐ และเรื่องมุบมิบในผลประโยชน์ร่วมหลายๆ อย่าง มันไม่เป็นตามสัญญา
ปัญหามันก็เลยระเบิด จากคลิปสนทนาอังเคิลฮุนกับแพทองธาร...แม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นคนฝ่ายตรงข้ามกับเรา นั่นแหละ!
เขมร ก็ไม่ต่าง “คนป่าได้ปืน”
เมื่อจีนขนมาให้เป็นการจิ้มก้องเขมร ก็ไม่คิดว่า เขมรจะเอามาใช้ถล่มไทย เพราะไม่เห็นว่าไทยกับเขมรจะบาดหมางอะไรกัน
ก็พอดี “พ่อลูกตระกูลฮุน” แค้นฝังหุ่น “พ่อลูกตระกูลชิน” จีนขนอาวุธมาประเคนให้เป็นกองพะเนิน
“แค้นนัก-มันหักหลังกู”...
ก็เลยงัดเอามายิงถล่มไทย แต่ทหารฝ่ายตัวเองกลับต้องกลายเป็น “เขมรต้มเปรต”
ตายเกลื่อนป่า จนห่าลงและเหี้ยทึ้งศพ!
นี่ไม่ใช่ผมมา “แก้ตัว-แก้ต่าง” ให้จีน เพราะผมเชื่อ จีนไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน
ที่นิวยอร์กไทมส์ ทำเป็นข่าว ก็หวังเป็น “ลิ่ม” ตอกให้ไทยกับจีนแตกแยก เพื่อตัวเองจะได้แทรกเข้ามา
ลงท้าย ไทยก็จะกลายเป็นสมรภูมิให้ “สหรัฐฯ-จีน” ฟัดกัน ฝ่ายที่จะบรรลัย ก็คือไทยเรานี่แหละ!
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ก็พูดเรื่องนี้กับนักข่าวเมื่อวาน (๒ ต.ค.) ว่า
“เรื่องจีนส่งจรวดและกระสุนปืนใหญ่มายังกัมพูชา ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะมีการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา นั้น จากการตรวจสอบกับหน่วยข่าว เรื่องนี้เป็นข่าวเก่า”
“เคยชี้แจงกับสื่อมวลชนเมื่อช่วงต้นปี ๒๕๖๘ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจีนได้มีการสนับสนุนอาวุธให้กับกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ช่วงนั้นไทย-กัมพูชา ยังไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น
แต่ถ้ามีความขัดแย้งและความตึงเครียดในลักษณะนี้ ก็มั่นใจว่า ทางจีนคงจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ”
นักข่าวถาม “ช่วงที่ผ่านมาจีนไม่ได้มีการส่งอาวุธเพิ่มให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่?”
พลเอกณัฐพลตอบว่า “ทางด้านการข่าวไม่มี”
“ที่จีนมอบอาวุธให้กัมพูชาเกี่ยวกับการซ้อมรบร่วมกันแล้วไม่ได้เอาอาวุธกลับไปใช่หรือไม่?” นักข่าวซัก
“ก็อาจเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งทราบมาจากการข่าว เพราะทางกัมพูชาไม่ได้แถลงข่าวออกมา” พลเอกณัฐพลตอบ
ความจริง ตอนเขมรยิงถล่มเข้ามาฝั่งไทย เมื่อ ๒๔ ก.ค.ก็มีข่าวผ่านตาผมพอจำได้คร่าวๆ ว่า ทูตทหารไทยที่ปักกิ่ง ได้เข้าคุยกับทางจีนในเรื่องนี้
ค้นๆ ดู ก็พบนี่ อ่านดูนะ
....................................................
กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters
26 กรกฎาคม 2568
ฝ่ายจีนยืนยันต่อทูตทหารไทย : “จีนไม่เคยสนับสนุนอาวุธให้กัมพูชาโจมตีไทย”
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.45 น. พันเอกศิวัตม์ รัตนอนันต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกและรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง
ได้เข้าพบหารือข้อราชการเร่งด่วนกับพันเอกพิเศษเซิ่ง เวย รองผู้อำนวยการกองเอเชีย สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (People’s Liberation Army - PLA) ณ อาคารสำนักงานความร่วมมือทางทหาร กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งมอบเอกสารอย่างเป็นทางการ “The Royal Thai Army Reports a Clash Incident on Thailand-Cambodia Border” ให้กับฝ่ายจีน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน
ด้านฝ่ายจีนได้เน้นย้ำอย่างชัดเจนว่า “นับตั้งแต่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
จีนไม่เคยส่งยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกองทัพกัมพูชาเพื่อใช้โจมตีไทย”
พร้อมชี้แจงว่า ยุทโธปกรณ์จีนที่มีอยู่ในกัมพูชา ล้วนเป็นผลจากความร่วมมือในอดีต ขอให้ฝ่ายไทยอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่ถูกปล่อยโดยผู้ไม่หวังดี
การพบปะครั้งนี้ สะท้อนถึงความโปร่งใสในการสื่อสารระดับทหารและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพจีน ในการร่วมกันรักษาเสถียรภาพและความเข้าใจอันดีในภูมิภาค
................................................
เรื่อง “ไทยกับเขมร” ผมว่าต้องระวังมือที่ ๓ ที่ ๔ แทรกเข้ามา แล้วมันจะบานปลาย บ้านเราก็จะกลายเป็นลานให้พวกเขาเข้ามาเล่นกันจนเละ
ส่วนพวกเขา ถลกตูดกลับประเทศมันไป จะมาอินังขังขอบอะไรกับไทย ที่หมดประโยชน์จะใช้แล้ว!
ดังนั้น “ไทยกับเขมร” เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง
ถ้าจะตีกัน ก็ให้ “สองประเทศ” นี้เท่านั้น ตีให้แหลกกันไปข้าง!.
-เปลว สีเงิน
๓ ตุลาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568
'อนุทิน' เท่านั้น 'นายกฯ'
ช่วงนี้... เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ” ในสมรภูมิเลือด ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย
‘วันเกิดไทย-วันตายเขมร’
“จะเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้หมด ไทยจะต้องจัดการเขมรให้สิ้นซาก ไม่ให้คิดที่จะเข้ามารุกล้ำดินแดนไทยอีกในอนาคต”
'ยุทธการชิงเนิน ๓๕๐'
“นักยุทธศาสตร์การศึก” ทั่วโลกขณะนี้ จับจ้องไปที่ “สมรภูมิ เนิน ๓๕๐”! อยากรู้ว่า ด้วย “ชัยภูมิที่เสียเปรียบ” สุดๆ
มีปาก 'อย่าสักแต่พูด'
“หายอยากกันแล้วละซีท่า!?” เมื่อวาน ถึงมีคนโพสต์ถามลอยๆ “สงครามจะจบเมื่อไหร่?” “นายกฯ อนุทิน” เคยบอก
“คนรุ่นใหม่” ไปแนวหน้า
เหมือนเสี้ยนที่ตำคาใจตั้งแต่ ๒๘ กรกฎา.ได้รับการบ่ง เมื่อเพจ “Army Military Force” แพร่วิดีโอคลิปเมื่อวาน (๑๕ ธ.ค.๖๘) พร้อมข้อความว่า

