เขมร ‘สิ้นสุดทางเลื่อน’

ก็บอกแล้ว.....

 “เขมรต่ำ” มันจะ “ทำหยิ่ง” กับไทยไปได้ซักกี่น้ำ?

แค่ปิดด่าน “เดือน-สองเดือน” มันก็จะอดตายกันทั้งประเทศอยู่รอมร่อ

กร่างได้พักเดียว ตอนนี้ ทั้งเหี่ยวทั้งหด เหมือนหอยตากแห้ง เงื่อนไข ๔ ข้อของไทยที่เคยบอกปัด

ประชุมล่าสุด ทั้งระดับ GBC และ JBC เขมรขมีขมันถาม “จะให้เซ็นตกลงตามนั้นตรงไหนครับ!?”

อย่าว่าแต่ยอมเซ็นทุกเงื่อนไขเลย ผมว่าตอนนี้เสนออะไรไป “เขมรได้หมดสดชื่น” ในทุกเงื่อนไข!

ผมถึงว่า เราไม่ต้องไปรุ่มร้อนอะไรมากนักกับเรื่องเขมร

ปลายตุลา. เชื่อมต่อพฤศจิกา.

 “๒ พ่อลูกตระกูลฮุน” หัวจะหมุนพังไปเอง!

ตอนนี้ อยู่ในท่า “พังพาบ” ก่อน “พัง” เพราะโลกล้อมเขมรไว้ทุกด้าน ถึงขั้นสหรัฐฯ ประกาศเขมรเป็นแหล่ง “องค์กรก่ออาชญากรรมข้ามชาติ”

ทั้งสแกมเมอร์ ทั้งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งค้ามนุษย์ ทั้งฟอกเงิน ทั้งแหล่งหลอกลวง-ต้มตุ๋น ทั้งเป็นแหล่งกักขังทำทารุณกรรมมนุษย์ นี่...ล่าสุด เมื่อวาน (๒๓ ต.ค.๖๘)

“สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา” (CNRC) ของ “นายสม รังสี” ที่ลี้ภัยอยู่ฝรั่งเศส ประกาศตั้ง “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ ๒๓ ตุลาคม” หวังขับไล่รัฐบาล “ระบอบฮุน เซน” ออกไป

ในแถลงการณ์ของ CNRC ตอนหนึ่งระบุว่า.....

“ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาได้เปลี่ยนผ่านสู่รัฐมาเฟีย ซึ่งการหลอกลวงทางออนไลน์และการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายข้ามชาติ ได้แพร่หลายภายใต้การคุ้มครองของทางการ”

คำถามมีว่า “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ” ของสม รังสี จะเป็น “รัฐบาลว่าว” เหมือน “นายกฯ ว่าว” ของนายพิธามั้ย?

กุญแจไขหาคำตอบคำถามนี้ มีอยู่ในแถลงการณ์ตรงที่ว่า

“รัฐบาล ๒๓ ตุลาคม....

ขอแสดงความขอบคุณต่อ “สหรัฐอเมริกา” สำหรับการดำเนินการเมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๐๒๕ ในการขึ้นบัญชีดำ

และตั้งข้อหา “แก๊งอาชญากรข้ามชาติ” ที่นำโดย “เฉิน จื้อ” พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายสิบคน

รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาในครอบครัวและกลุ่มบริวารของฮุน เซน ผู้นำเผด็จการที่ไม่มีใครโค่นล้มได้ ซึ่งปกครองประเทศมานานกว่าสี่สิบปี”

ลอง “สม รังสี” ขอบคุณสหรัฐฯ โจ่งแจ้งเช่นนี้ คงไม่ต้องให้บอกว่า ที่สม รังสี “เปิดหน้าท้าชก” ชิงบัลลังก์ “๒ พ่อลูกตระกูลฮุน” นี้ ได้ยาดีมาจากไหน?!

ถ้ายังไม่แน่ใจ ดูอีกวรรคในแถลงการณ์ก็ได้ ตานี้แหละ ไม่แน่ใจ ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว

๓.กัมพูชาต้องได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์ ผ่านความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด

โดยกำหนดให้ “ปิดฐานทัพเรือจีนที่เรียม” และ “ฐานทัพต่างประเทศอื่นๆ ทั้งหมด”

จบเลย ไม่ต้องพูดต่อว่า “สม รังสี” เป็นหมากของใครในกระดานนี้ ลองว่า “ให้ปิดฐานทัพเรือจีนที่เรียม”

ป่านนี้ “มังกรบูรพา” หนวดกระดิกไปแล้ว เพราะนี่มันเกม “ชิงท่าเรือเรียม” ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนชัดๆ

เมื่อสหรัฐฯ เชิด “สม รังสี” เป็นม้าใช้ ก็เชื่อว่า จีนต้องส่งตัวเชิดมาชิงตัดหน้า “ม้าสม รังสี” ของสหรัฐฯ แน่

เกมนี้ ชักสนุก ชวน “ขนลุก” ยังไงไม่รู้ เหตุเกิดที่เขมรก็จริง แต่ยากที่จะไม่ให้ไทยเราพลอยเป็น “ติ่งสงคราม” ตามไปด้วย!

เอ้า...มาดูเรื่องของเราบ้าง การประชุม “คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา” (JBC) ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลา.จันทบุรี

โดยเอกอัครราชทูต “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธานฝ่ายไทย และ “นายฬำ เจีย” รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนกัมพูชา เป็นประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา

ผลเป็นยังไง อ่านจากนี่เลย เขาสรุปไว้เข้าใจง่ายและชัดเจน

................................................

thaiarmedforce.com

 การประชุม JBC ระหว่างไทยและกัมพูชามีข้อสรุปแล้ว โดยคร่าวๆ เป็นการเร่งรัดให้มีการแก้ไข TOR

เพื่อให้ใช้ LiDAR ในการสำรวจเขตแดนได้โดยเร็ว

นอกนั้น มีการจัดทำหลักเขตทดแทนหลักเขตที่ชำรุดหรือสูญหายจำนวน ๑๕ หลัก ซึ่งเป็นหลักที่เห็นตรงกันและไม่มีข้อขัดแย้ง

และส่วนหนึ่ง “เป็นหลักที่ไทยจะสร้างรั้ว” ด้วย

โดยในพื้นที่ #บ้านหนองจาน และ #บ้านหนองหญ้าแก้ว นั้นทั้งสองฝ่ายกำหนดว่า

จะทำ “หมุดเขตแดน” ชั่วคราว เสนอรัฐบาลของแต่ละประเทศในการปรับถือครองที่ดินต่อไป

ซึ่งหมายถึง “ถ้าตกลงกันได้” ก็อาจมีการเคลื่อนย้ายและอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากพื้นที่ทั้งสองได้โดยไม่ต้องใช้กำลัง

ส่วนเรื่อง “การสร้างรั้ว” นั้น ทางฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า “ไม่ได้รับอนุญาตให้ตัดสินใจ” ในเรื่องนี้

ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงกันว่า “จะถอนวาระนี้ออก” หมายความว่าไทยน่าจะ “ดำเนินการฝ่ายเดียวไปได้เลย” โดยไม่ต้องรอผลการประชุม

สำหรับรายละเอียดผลการประชุมจากคำแปลของกระทรวงการต่างประเทศมีดังนี้

๑.ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่

เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน ๑๕ หลัก ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม

๒.ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน ๓ หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง

๓.ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps)

เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย

เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

๔.เกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ ๔๒ ถึง ๔๗ บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว

ก.ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI)

สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ ๔๒ ถึง ๔๗

ข.เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ

เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป

ค.การวางหมุดชั่วคราวนี้ วัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ

ง.ทั้งสองฝ่ายตกลงจะกำชับหน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับ “ชุดสำรวจ” จากทุ่นระเบิด ตามข้อ ๓ ของ MOU 2543

 เพื่อให้ชุดสำรวจปฏิบัติงานได้ โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว

๕.ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ๒๕๖๙ ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

................................................

เป็นไงครับ ท่า “หมอบราบคาบแก้ว” ของเขมร สวยงามมั้ย ทีนี้ ลองฟังทัศนะชาวบ้านต่อข้อตกลงนี้ดูซักนิด

เพจ “บ้านหมอดูวัชรพล” โพสต์ไว้ส่วนหนึ่ง มีดังนี้

“..........ครั้งนี้ เอกสารหลักฐานมีออกมามากกว่าเดิม ทำให้ Digital Footprint มีมากกว่าเดิม

และสาระสำคัญที่ผมดีใจ จากการเจรจาครั้งนี้ ก็คือ “หมุดปักปันเขตแดน” ใด ที่มีอยู่ ก็ให้รักษาไว้ หมุดใดเสียหายก็ให้ซ่อม และหมุดใดหาย ก็หาใหม่

โดยมีการใช้ LiDAR

ดังนั้น มันจะทำให้การใช้แผนที่ 1:200,000 มันถูกยกเลิกไปโดยปริยาย

(LiDAR ใช้กรณีหมุดปักปันเขตแดนที่หายไปเท่านั้น ส่วนที่มีอยู่หรือชำรุดก็จะใช้ไปตามเดิม แผนที่ไหนๆ ก็ไม่มีผล เพราะมีหมุดปักอยู่ในพื้นที่แล้ว

หมุดมันขนาด 40 c.m. x 40 c.m. และใช้กึ่งกลางของหมุด เป็นเส้นเขตแดน มันละเอียดกว่าแผนที่ใดๆ อยู่แล้ว)

ในการหาหมุด หรือกำหนดหมุดใหม่ กำหนดให้ใช้ LiDAR ซึ่งในกรณีที่เป็นเส้นเขตแดนที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน การใช้ LiDAR มันช่วยทำให้เรากำหนด “สันปันน้ำ” ได้ง่าย

และละเอียดด้วยแผนที่มาตราส่วน 1:25,000 ที่ถูกบังคับใช้โดยปริยายด้วยเทคโนโลยี (และตามข้อตกลงนี้) ​ก็ทำให้แผนที่แนบท้าย 1:200,000 กลายเป็นเพียง Guide Line เท่านั้น

นี่คือ “ความได้เปรียบ” ไปตามลำดับ เป็นการรุกคืบอย่างมียุทธศาสตร์และมีผลเป็นความยั่งยืนด้วย

เพียงแต่ประชาชนคนไทยทุกคน ต้องเป็น "ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก" ให้กับข้อตกลงนี้

โดยอย่าให้ นักการเมือง, NGO หรือแม้แต่สื่อสำนักไหน มาปั่นหัวได้อีก แล้วเราจะได้จบกับเหมนเรื่องนี้เสียที (หมายถึง ข้อโต้เถียงในเวทีนานาชาติ)” .......ฯลฯ.......

............................................

“นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รมว.ต่างประเทศบอกเมื่อวานว่า การประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เมื่อ ๒๓ ตุลา. หากทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะมีการลงนาม

ประกาศ “ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา” ระหว่างนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกูล” และนายกฯ “ฮุน มาเนต” ในช่วงการประชุม “สุดยอดผู้นำอาเซียน” ที่มาเลเซีย วันที่ ๒๕ ตุลา.

โดยมี “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ “นายอันวาร์ อิบราฮิม” นายกฯ มาเลเซีย รวมทั้งผู้นำชาติสมาชิกอื่นๆ เป็นพยาน

เรื่องนี้ ต้องยกเป็นเครดิต “รัฐบาล ๔ เดือน” กับกองทัพ ที่ใช้แผน “กดดัน” ให้เขมรยอมรับเงื่อนไข เราก็ชนะ แทนการใช้กำลังสู้รบ

แต่ถ้าเขมรไม่ทำตามเงื่อนไขให้ปรากฏ “ไทยอย่าเปิดด่าน” ก่อนเป็นอันขาดเชียว

“เชื่อเขมร” เท่ากับเชื่อว่า “ควายบินได้”

ฉะนั้น “ไทยใจอ่อน” ยังดีกว่าให้โลกเขาว่า “ไทยไก่อ่อน”!.

-เปลว สีเงิน

๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘       

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' เท่านั้น 'นายกฯ'

ช่วงนี้... เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ” ในสมรภูมิเลือด ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย

‘วันเกิดไทย-วันตายเขมร’

“จะเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้หมด ไทยจะต้องจัดการเขมรให้สิ้นซาก ไม่ให้คิดที่จะเข้ามารุกล้ำดินแดนไทยอีกในอนาคต” ‎ ‎ ‎

'ยุทธการชิงเนิน ๓๕๐'

“นักยุทธศาสตร์การศึก” ทั่วโลกขณะนี้ จับจ้องไปที่ “สมรภูมิ เนิน ๓๕๐”! อยากรู้ว่า ด้วย “ชัยภูมิที่เสียเปรียบ” สุดๆ

มีปาก 'อย่าสักแต่พูด'

“หายอยากกันแล้วละซีท่า!?” เมื่อวาน ถึงมีคนโพสต์ถามลอยๆ “สงครามจะจบเมื่อไหร่?” “นายกฯ อนุทิน” เคยบอก

“คนรุ่นใหม่” ไปแนวหน้า

เหมือนเสี้ยนที่ตำคาใจตั้งแต่ ๒๘ กรกฎา.ได้รับการบ่ง เมื่อเพจ “Army Military Force” แพร่วิดีโอคลิปเมื่อวาน (๑๕ ธ.ค.๖๘) พร้อมข้อความว่า