พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (27)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร                                                           

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”

พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า ใน 43 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 21 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  4 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

ต่อไปคือ พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์  (วัน  จามรมาน)

พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์ท่านไม่ได้เป็นสมาชิกคณะราษฎร แต่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว เมื่อมีการตั้งสมาคมคณะราษฎรขี้นในปี พ.ศ. 2475 (อีกนัยหนึ่งคือ พรรคคณะราษฎร) พระยานิติศาสตร์ไพศาล ได้เป็นนายกคณะกรรมการสมาคม และท่านได้เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 10 ธันวาคม 2475 โดยมีบางท่านเห็นว่า ท่านเป็นอนุกรรมการที่มาจากฝ่ายเจ้า จากนั้น ท่านได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในคณะรัฐมนตรีคณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหารวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 และมีพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารและเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา จากนั้นพระยานิติศาสตร์ไพศาลย์ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 และในคณะรัฐมนตรีคณะที่ 5 และคณะที่ 6 ท่านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และท่านได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2479

ท่านมีทัศนะที่เห็นด้วยกับปรีดี เช่น แนวคิดเรื่องเกณฑ์อายุการเลือกตั้ง 23 ปีที่เสนอโดยปรีดีนี้ พระยานิติศาสตร์ไพศาลก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน รวมทั้งการตั้งศาลพิเศษในการพิจารณาคดีผู้ต้องหากบฎที่เสนอโดยปรีดีเช่นกัน หลังรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 ท่านได้เป็นประธานกรรมการธนาคารออมสิน (พ.ศ. 2490-2492) แต่ไม่ปรากฎว่าท่านได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ                                                                   

จากข้างต้น กล่าวได้ว่า การที่ได้ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา ไม่ได้มีส่วนให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี” เสียทีเดียว แต่ท่านน่าจะเป็นผู้ที่มีแนวโน้มสนับสนุนปรีดีมากกว่าจะเป็นพวกปรีดีเสียทีเดียว

ผลล่าสุดคือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

พันเอก ช่วง  เชวงศักดิ์สงคราม   

 

 

+

 

หลวงชำนาญนิติเกษตร์  (อุทัย  แสงมณี)  

 

 

 

       +

 ชาญ บุนนาค

  +

 

 

 

ชุณฑ์  ปิณฑานนท์  

   +

 

 

 

พลตรี  ไชย  ประทีปะเสน

 

   +

 

 

  ช่วย สุคนธมัต

   +

 

 

 

  ดิเรก ชัยนาม

   +

 

 

 

  เดือน  บุนนาค

   +

 

 

 

พลเรือตรี ถวัลย์  ธำรงนาวาสวัสดิ์ 

   +

 

 

 

พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์  (วัน  จามรมาน)

 

 

+

 

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 44 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 21 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้