
‘ไต้หวัน’ เมืองใหม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว หนึ่งในประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับประเทศไทย ที่ในปัจจุบันก็มีการพัฒนาระบบรุดหน้าเป็นอย่างมาก เพื่อให้สามารถเดินทางได้ง่าย สะดวก และปลอดภัย จากการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบข้อบังคับ ไปจนถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐ การร่วมมือกันของภาคเอกชน ส่งผลให้รูปแบบการขนส่งสาธารณะจากรถสันดาป ปรับเปลี่ยนมาสู่พลังงานสะอาด โดยการใช้พลังงานไฟฟ้า (EV-Bus)
ทั้งยังมีการเชื่อมต่อโครงข่าย Single Network เหมือนกับระบบบัตรโดยสาร Easy Card, บัตร i-Pass ที่สามารถเชื่อมโยงระบบการใช้บริการได้ครบถ้วน รถ-เรือ-ราง ไล่เรียงตั้งแต่ รถไฟฟ้า Metro Taipei, Kaohsiung Metro & LRT, Metro Taiyuan, Metro Taichung, New Taipei Metro, รถไฟ Taiwan Railway, รถไฟความเร็วสูง, รถเมล์ EV Bus, รถรับส่ง Shuttle Bus, เรือเฟอร์รี, รถแท็กซี่ ไปจนถึงบริการเช่าจักรยาน T-Bike และ You Bike

ขณะที่ประเทศไทย บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ที่เป็นรูปแบบรถเมล์พลังงานสะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ก็มีความมุ่งมั่นต้องการยกระดับระบบขนส่งมวลชนของไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ เพื่อเป็นขนส่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ชูไต้หวันโมเดล
โดย น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSB ระบุว่า ประเทศไทยยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายได้อย่างแท้จริง แม้ปัจจุบัน TSB มีการนำร่องเชื่อมต่อรถเมล์ไฟฟ้า กับเรือโดยสารไฟฟ้าในเครือเรียบร้อยแล้ว และหารือผู้ประกอบการขนส่งทุกราย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอีกมาก ดังนั้นจึงต้องอาศัยอำนาจของภาครัฐเข้ามาเป็นคนกลางในการดำเนินการประสานความร่วมมือกันทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้ศึกษาดูงานระบบโครงข่ายการขนส่งมวลชนที่ประเทศไต้หวัน พร้อมนำมาเป็นโมเดลต้นแบบในการต่อยอดบัตรโดยสาร HOP Card ให้สามารถใช้ชำระค่าสินค้า-บริการเหมือนกับ Easy Card ของไต้หวัน ที่ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใช้จ่ายค่าบริการร้านอาหาร สวนสนุก โรงแรม ขึ้นกระเช้าท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้บริการ
"วันหนึ่งอาจเห็นภาพการเดินทางของประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ใช้รถเมล์ ต่อรถไฟฟ้าแล้วมีสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้บริการเพิ่มเติมเพื่อลดค่าครองชีพ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดด้านราคา ลดค่าแรกเข้า เป็นต้น" น.ส.กุลพรภัสร์ กล่าว
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน TSB Go Plus เพิ่มฟังก์ชันให้หลากหลาย อาทิ ตรวจสอบเวลาเดินรถเมื่อกำลังเข้าป้าย คำนวณระยะเวลาเดินทาง มากกว่านั้นยังมีระบบสำหรับผู้ลงทะเบียนบัตร HOP Card โดยเฉพาะ ให้สามารถเช็กประวัติการเดินทางย้อนหลัง ขึ้น-ที่ป้ายใด เวลากี่โมง พร้อมประเมินความพึงพอใจหรือร้องเรียนติชมพนักงานผู้ให้บริการ แล้วส่งข้อมูลตรงถึงฝ่ายปฏิบัติการได้ทันที ทำให้ปัญหาของผู้โดยสารจะได้รับการตรวจสอบแก้ไขได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ตั๋วใบเดียวเชื่อมต่อทุกระบบ
ด้าน นายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ TSB กล่าวถึงการมาประเทศไต้หวันในครั้งนี้ได้เห็นตัวอย่างการเชื่อมต่อระบบคมนาคมขนส่งโดยการใช้บัตรใบเดียวในภาคของการขนส่ง โดย
TSB จะนำแนวทางโมเดลระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวันไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ หรือผู้ให้บริการอื่นๆ และได้มีการเชื่อมต่อการขนส่งระหว่างรถกับเรือไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาคการให้บริการ กับ operator อื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อ ขณะนี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง third party ที่เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วมผลักดันตรงจุดนี้แล้ว
"ระบบขนส่งสาธารณะของไทยและไต้หวันในส่วนของระบบเทคโนโลยีมีความใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ไม่เทียบเท่าของไต้หวัน คือระบบสาธารณูปโภค การจัดสรรพื้นที่ เส้นทางที่รถวิ่ง รวมถึงนโยบายการสนับสนุนผู้ให้บริการของภาครัฐ ดังนั้นต้องมีการหารือกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรูปแบบการเชื่อมต่อระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อทำให้บัตรใบเดียวสามารถใช้บริการระบบสาธารณะได้ทุกรูปแบบ โดย TSB พร้อมที่จะเปิดและหาทางในการให้บริการประชาชนร่วมกัน ทั้งภาคของรัฐวิสาหกิจและเอกชนอื่นๆ ทั้งในเรื่องของ Data base หรือระบบหลังบ้านเพื่อให้ระบบขนส่งมีการเชื่อมต่อกันอย่างจริงจัง" นายวรวิทย์ กล่าว

จัดรถทดแทนรายเดิมหยุดวิ่ง
นายวรวิทย์ ย้ำว่า TSB ได้เล็งเห็นถึงปัญหาในกรณีที่ผู้ประกอบการรายเดิมเตรียมหยุดให้บริการรถโดยสารประจำทางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ในเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทางของผู้โดยสาร หลังจากผู้ประกอบการรายเดิมถอดถอนรถให้บริการออกไป TSB จึงได้เตรียมแผนที่จะนำรถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าออกมาให้บริการทดแทน มั่นใจมีความพร้อมในการให้บริการประชาชนในเส้นทางทั้งหมด
โดยเบื้องต้นได้เตรียมรถให้บริการเพิ่มอีก 389 คัน จากปัจจุบันที่มีรถให้บริการแล้ว 2,350 คัน จะทยอยเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง ตามความต้องการของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น และจะเริ่มให้บริการเต็มระบบใน 14 เส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ TSB ได้เตรียมความพร้อมทั้งรถ และผู้ให้บริการมาสักระยะแล้วในการยกระดับครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีความพร้อม 100% ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยมีมาร์เก็ตแชร์วางไว้ที่จำนวน 30 ล้านบาท และเชื่อว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 50,000-100,000 คนต่อวัน เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับกรมการขนส่งทางบกและผู้ให้บริการเดิมมาก่อนจะมีการถอดถอน เพราะอยู่ในแผนเดิมที่พูดคุยตั้งแต่ต้นปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บช.น. ร่วมกับ TSB ลงนาม MOU ยกระดับความปลอดภัยการเดินทาง สู่เมืองยั่งยืน
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จับมือกับ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการ “การส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางและวินัยจราจร
โมเดลสร้างเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ‘นิลมังกร’ แปลงร่างคนตัวเล็กให้กลายเป็นฮีโร่ของเศรษฐกิจท้องถิ่นไทย
ในโลกธุรกิจระดับสากล องค์กรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดมักถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์น” ซึ่งเน้นการเติบโตแบบทวีคูณ แต่สำหรับเมืองไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
เปิดแนวคิดปั้นแบรนด์‘bpositive’ลงสนามเฮลท์แคร์ไทย ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมายและมอบพลังบวกแก่สังคม
ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดเฮลท์แคร์ไทย ตามความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ได้มองแค่การ “รักษา” แต่เปลี่ยนผ่านสู่การ
TSB รับโล่เกียรติยศ Climate Action Innovator จาก TGO Forum&TCNN 2025
ไทย สมายล์ บัส รับโล่เกียรติยศ องค์กรผู้พัฒนานวัตกรรมด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก 2025 จาก TGO Forum&TCNN Conference 2025 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Net Zero ด้วยขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาด
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ TSB ส่งมอบข้าวสาร ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วยนางสาวกุลพรภัสร์ วงมาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส
‘หงเปา(Hong Bao)’ขยับสเต็ปพลิกเกมสู่โอกาส! วัดใจเศรษฐกิจ:ปรับกลยุทธ์สู้ปัจจัยเสี่ยงไต่ระดับดาวเด่นภัตตาคารอาหารจีน
ในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวนสูง ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องเร่งปรับตัว เช่นเดียวกับ ‘ธุรกิจภัตตาคาร-ร้านอาหารจีน’ เพื่อให้สามารถแข่งขันและรักษาฐานลูกค้าได้

