คงต้องบอกว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หลายๆ ท่านคงได้หยุดพักผ่อนกัน แต่สำหรับไทยโพสต์ยังคงไม่หยุดที่จะหาสาระดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง โดยเฉพาะคอลัมน์อาทิตย์เอกเขนก ที่ได้รับเกียรติจาก กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา หรือคุณกิ๊ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) มาพูดคุยอัปเดตถึงแนวทางการบริหารงานระบบขนส่งสาธารณะที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก ปัจจุบันในส่วนของไทยสมายล์บัสที่ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100%
ล่าสุด บริษัท ไทย สมายล์ บัส ได้รับ 2 รางวัลจากเวที Future Trends Awards 2025 ได้แก่ The Most Impactful Corporate รางวัลองค์กรที่เป็นที่สุดด้านการส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และ The Most Corporate Transformation รางวัลองค์กรยอดเยี่ยมด้านการเปลี่ยนผ่าน เพื่อเชิดชูความสำเร็จให้แก่การยกระดับธุรกิจบริการขนส่งสาธารณะของไทย จากรถเมล์ดั้งเดิมสู่การเป็นรถเมล์โดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ส่งให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง และยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมโดยรวม
คุณกิ๊ก เล่าว่า รางวัลนี้ไม่ได้มาจากกิ๊กคนเดียว ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทีมงานทุกๆ ท่าน เด็กรุ่นใหม่ที่อยากสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และอยากสร้างจุดเปลี่ยนที่โลกเราต้องตามทันในต่างประเทศ โดยเฉพาะในการให้บริการการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายไร้เงินสด แน่นอนว่าคือเป้าหมายเดียวกันขององค์กร คือการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น มีเป้าหมายการให้บริการรถสาธารณะจากสันดาปมาเป็นพลังงานสะอาด หรือพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงรถเมล์หันมาใช้รถไฟฟ้าเต็ม 100% และมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็ฝ่าฟันไปได้ เชื่อว่าอุปสรรคในชีวิตของคนเรา เดินทางมาขนาดนี้ชีวิตคงไม่เรียบหรู เป็นนักรบก็ต้องมีบาดแผล แต่บาดแผลตรงนี้ถ้าเรารบแล้วให้ชนะ ได้บรรยากาศเชิงบวกให้กับประเทศของเราเป็นประเทศที่น่าอยู่ มลพิษหายไป รวมทั้ง PM 2.5 ที่เรามองทุกวัน ต้องใส่หน้ากากอนามัย ก็มีความรู้สึกว่าเราเป็นโซ่ห่วงเล็กที่ผลักดันตัวเองและก็พัฒนาไปพร้อมกับภาคีเครือข่าย
จนมาวันหนึ่งมีประกาศการปฏิรูปรถเมล์ จึงได้เข้าไปยื่นข้อเสนอการเป็นฟีดเดอร์ เมื่อได้เข้ามาเป็นผู้ให้บริการ พบบางเส้นทางขาดทุน เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็มองว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ ไม่ว่าระบบความปลอดภัยของกัปตันเมล์ หรือคนขับรถเมล์ รวมถึงกระเป๋า คนเก็บตังค์แบบเดิม เราเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ซึ่งระบบเก็บตังค์แบบเดิมเราตรวจสอบไม่ได้ อยากให้เกิดความโปร่งใส ให้เขามีศักดิ์และศรีในตัวของเขาเอง ไม่อยากให้สังคมภายนอกมองว่าเป็นแค่คนขับรถเมล์หรือกระเป๋ารถเมล์ กิ๊กอยากสร้างให้เขามีอาชีพที่มีเกียรติเหมือนเป็นพนักงานออฟฟิศ เราเปลี่ยนรถอย่างเดียว แล้วเราไม่เปลี่ยนคน แบบนี้คือไม่ได้
ปัจจุบันไทยสมายล์บัสมีรถให้บริการ 2,250 คัน วิ่งให้บริการ 128 เส้นทาง เป็นรถที่ประกอบชิ้นส่วนโดยคนไทย แน่นอนว่าต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จึงได้เชิญชวนพันธมิตรมาร่วมลงทุนด้วย สิ่งเหล่านี้คือความตั้งใจ เชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาร่วมลงทุนด้วยจะถูกใจกับวิสัยทัศน์ที่ได้นำเสนอแผน คือการนำร่องให้โครงข่ายเกิดการเชื่อมโยงขยายตัว เช่น อาจจะขายโฆษณา หรือทำระบบ AI ให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเราไม่มีผู้ที่เปลี่ยน สังคมไทยก็จะเป็นเหมือนเดิม
ในช่วงเวลาที่ไทยสมายล์บัสเข้ามาในวงการ ได้มีเป้าหมายในการเปลี่ยนถ่ายยุคของการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเป็นโอกาสที่เราได้เสนอเรื่องคาร์บอนเครดิต โดยจับมือกับภาคีเครือข่าย เพราะบางครั้งการที่เราจะเปลี่ยนรถ กฎระเบียบยังไม่ครอบคลุม ดังนั้นจึงต้องไปหาภาคีเครือข่ายที่ทำตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งเราเป็นเหมือนโอเปอเรเตอร์ที่เป็นเหมือนฟีดเดอร์เข้ามา จึงเป็นที่มาของการขายคาร์บอนเครดิตจำนวน 5 แสนตันให้กับสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นโครงการแรกของโลกที่ทำสำเร็จ
สำหรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้ความตกลงปารีส Article 6.2 การร่วมมือกันระหว่างไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยกรอบความร่วมมือภาคสมัครใจ ทั้งยังมีการปฏิบัติตรงตามมาตรฐานด้านคุณภาพต่อสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน โดยมี Klik Foundation เป็นผู้ซื้อ Carbon Credit ที่เกิดขึ้นและนำ Carbon Credit ดังกล่าวไปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
“ไทยสมายล์บัส ใส่ใจเรื่องความสะอาด รถที่เข้ามาแต่ละคันจะมีระบบ AI และกล้องในรถจำนวน 6 ตัว ส่วนของพนักงานขับรถจะมีระบบ AI ตรวจจับพฤติกรรมต่างๆ เช่น ง่วงนอน เผลอหลับ หรือสูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้จะส่งไปยังวอร์รูม เตือนว่าพนักงานไม่มีความพร้อมในการขับรถ ขณะที่เรื่องความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง หรือผู้โดยสารที่ลืมสิ่งของไว้บนรถ เราสามารถติดตามได้”
ปัจจุบัน ไทยสมายล์บัสมีแอปพลิเคชัน TSB Go Plus สามารถตรวจสอบเวลารถโดยสารประจำทางที่จะถึงป้าย และตั้งเตือนเมื่อรถมาถึง เป้าหมาย คืออยากให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายไร้กังวล และสามารถวางแผนการเดินทางได้ ขณะเดียวกันยังมีบัตร “HOP Card” สามารถรองรับการแตะจ่ายบริการขนส่งสาธารณะ ตลอดจนร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ที่อยู่โดยรอบเส้นทางเดินรถ
คุณกิ๊กทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันได้ให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า โดยให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเรือสองท้องนั่งสะดวกสบาย ปัจจุบันให้บริการตั้งแต่สาทรถึงท่าน้ำนนทบุรี สามารถให้บริการในทุกสภาวะ เช่น ช่วงปริมาณน้ำขึ้นสูง ดังนั้นตัวเรือใหม่ที่มีความกะทัดรัดย่อมเข้ามาตอบโจทย์การให้บริการทั้ง 3 เส้นทางในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ City Line/Metro Line และ Urban Line ปัจจุบันสาย City Line สาทร-พระปิ่นเกล้า สามารถใช้บริการที่ท่าเรือวัดวรจรรยาวาส และท่าเรือสยามเจริญนครได้แล้ว บริเวณนี้ยังมีคาเฟ่สยามเจริญนคร คาเฟ่สวยๆ ฟีลธรรมชาติ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ‘ปัฐตพงษ์ บุญแก้ว’วิศวกรสร้างทางคู่ สุดหินสายเหนือสร้างอุโมงค์เจาะภูเขาฝ่าภัยพิบัติและความเชื่อ
ท่ามกลางแนวเขาสลับซับซ้อนของพื้นที่ภาคเหนือ ที่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วง “เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ” กำลังค่อยๆ เผยให้เห็นภาพความคืบหน้างานก่อสร้าง คงต้องบอกว่า
โมเดลสร้างเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ‘นิลมังกร’ แปลงร่างคนตัวเล็กให้กลายเป็นฮีโร่ของเศรษฐกิจท้องถิ่นไทย
ในโลกธุรกิจระดับสากล องค์กรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดมักถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์น” ซึ่งเน้นการเติบโตแบบทวีคูณ แต่สำหรับเมืองไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
เปิดแนวคิดปั้นแบรนด์‘bpositive’ลงสนามเฮลท์แคร์ไทย ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมายและมอบพลังบวกแก่สังคม
ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดเฮลท์แคร์ไทย ตามความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ได้มองแค่การ “รักษา” แต่เปลี่ยนผ่านสู่การ
‘หงเปา(Hong Bao)’ขยับสเต็ปพลิกเกมสู่โอกาส! วัดใจเศรษฐกิจ:ปรับกลยุทธ์สู้ปัจจัยเสี่ยงไต่ระดับดาวเด่นภัตตาคารอาหารจีน
ในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวนสูง ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องเร่งปรับตัว เช่นเดียวกับ ‘ธุรกิจภัตตาคาร-ร้านอาหารจีน’ เพื่อให้สามารถแข่งขันและรักษาฐานลูกค้าได้
แสตมป์‘ความทรงจำของชาติ’ เทิดพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ตราไปรษณียากรที่ออกในราชอาณาจักรไทยมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่แรกเริ่ม จากแสตมป์ชุดแรกของสยามคือ “ชุดโสฬส” ที่เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
‘ชุมพร’เมืองประตูสู่ภาคใต้ เสน่ห์แห่งทะเลและไลฟ์สไตล์ชุมชนจุดยุทธศาสตร์พลังงานภูมิภาค
“ชุมพร” ชื่อนี้อาจเป็นภาพจำของประตูสู่ภาคใต้ สำหรับนักเดินทาง แต่หากได้ลองแวะพักและสัมผัสอย่างลึกซึ้ง จังหวัดริมฝั่งอ่าวไทยแห่งนี้จะเผยให้เห็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบ

