
วันนี้ อาทิตย์เอกเขนก จะขอนำท่านผู้อ่านไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของ มหานครฉงชิ่ง หนึ่งในมหานครใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของจีน ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองของจีนที่มีที่เที่ยวครบครัน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติแสนมหัศจรรย์ ที่เที่ยวประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวมรดกโลก มีความงดงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เข้ากับความสร้างสรรค์ทางสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลายและน่าประทับใจ ส่วนใครที่ชอบทานหม่าล่าหม้อไฟต้องชอบแน่ๆ เพราะที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องหม่าล่าสุดๆ

เริ่มที่ อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองฉงชิ่ง ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังจัดให้เป็นมรดกโลกระดับ 5A อีกด้วย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองฉงชิ่ง ลักษณะภูมิประเทศเป็นกลุ่มภูเขาหินปูนที่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดหลุมใหญ่ลึกประมาณ 300-500 เมตร บางส่วนเป็นโพรงทะลุ ลักษณะคล้ายสะพานธรรมชาติที่ทอดข้ามระหว่างภูเขา ซึ่งมีอยู่ 3 แห่งอันเป็นที่มาของชื่อ
อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ หรือ อู่หลงคาสต์ เป็นหนึ่งในอุทยานธรณีวิทยาที่สำคัญระดับโลก ด้วยลักษณะภูมิประเทศแบบคาสต์อันน่าทึ่งที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำเป็นเวลานานนับล้านปี ไฮไลต์สำคัญคือ หลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) ซึ่งประกอบด้วยสะพานหินธรรมชาติขนาดมหึมา 3 แห่ง ได้แก่ สะพานมังกรฟ้า (Tianlong Bridge), สะพานมังกรเขียว (Qinglong Bridge) และสะพานมังกรดำ (Heilong Bridge)

สะพานเหล่านี้มีความสูงและความกว้างที่น่าตื่นตาตื่นใจ ราวกับเป็นประตูสู่โลกอีกมิติหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงามตามเส้นทางที่จัดไว้ ซึ่งจะนำไปสู่จุดชมวิวต่างๆ และสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมี โรงเตี๊ยมโบราณ (Tianfu Post House) ซึ่งเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง” ของผู้กำกับจาง อี้โหมว ให้ได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคอีกด้วย ดังนั้นไม่ควรพลาด

ต่อด้วย หงหยาต้ง (Hongyadong) เป็นหมู่อาคารยกใต้ถุนสูง ความสูง 11 ชั้น ในย่านธุรกิจเจี่ยฟ่างเป่ย และในยามค่ำคืนเปิดไฟสีสันสว่างไสว ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่สำคัญของนักท่องเที่ยว และเป็นจุดชมวิวชั้นดี ซึ่งใครมาเที่ยวฉงชิ่งก็ต้องแวะมาชมความงามที่นี่ทุกคน ถือเป็นอีกหนึ่งในแลนด์มาร์กของฉงชิ่ง โดยด้านในเต็มไปด้วย ร้านอาหาร ตลาด ร้านค้า และธุรกิจโรงแรม ขอบอกว่าที่นี่มีร้านหม่าล่าหม้อไฟเด็ดๆ หลายร้านเลยทีเดียว ส่วนด้านบนสุดจะเป็นส่วนของจุดชมวิว แม่น้ำเจียหลิง สวยสุดๆ ในยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงรูปปั้นที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวจีนในสมัยก่อนให้เราได้ไปซึมซับและถ่ายรูปเล่นอีกด้วย

แปลกแต่จริง สถานีรถไฟที่สร้างผ่านกลางอาคารที่พักอาศัย 19 ชั้นได้อย่างน่าทึ่ง รถไฟทะลุตึก (Liziba Rail Transit Station) ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นรถไฟวิ่งทะลุตึก บริเวณสถานี Liziba (หลี่จื้อปา) เป็นสถานีรถไฟฟ้าแบบชานชาลาด้านข้างของ Chongqing Rail Transit (CRT) สาย 2 และมีแนวเส้นทางที่ตั้งสถานีอยู่ภายในอาคารพาณิชย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนด้วย
โดยการก่อสร้างแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและสถานีภายในอาคารของฉงชิ่ง สืบเนื่องจากฉงชิ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น และพื้นที่จำกัด การก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าจึงต้องหาทางประหยัดพื้นที่ให้มากที่สุด ในบางพื้นที่ไม่สามารถเวนคืนที่ดินกว้างๆ ได้ง่ายๆ ดังนั้นการใช้แนวทางร่วมกันระหว่างอาคารและระบบขนส่งสาธารณะจึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด

อาคารที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ไม่ได้เป็นแค่ตึกทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้รองรับโครงสร้างรถไฟฟ้า โดยชั้นล่างของอาคารถูกดัดแปลงให้เป็นส่วนของสถานี มีระบบลดเสียง และแรงสั่นสะเทือน ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในตึก ไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงดังมากนัก ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่า การพัฒนาสถานี Liziba สถานีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ปัจจุบันจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ช่วยการพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง และทำให้พื้นที่โดยรอบคึกคัก

ปิดท้ายทริปที่การไหว้พระขอพรตามแบบฉบับคนไทย สำหรับผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและศาสนา ฉงชิ่งมีวัดและศาลเจ้าที่สวยงามและเก่าแก่หลายแห่งให้ได้เยี่ยมชมและสักการะขอพร อาทิ วัดหลัวฮั่น (Luohan Temple) ที่มีพระอรหันต์ 500 องค์ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน หรือ วัดหัวหยาน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและสถาปัตยกรรมที่งดงาม การได้มาไหว้พระขอพรถือเป็นการเติมเต็มการเดินทางและสัมผัสจิตวิญญาณท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
เรียกได้ว่าการไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่ “ฉงชิ่ง” ได้เห็นเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างอุทยานหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ และความน่าทึ่งของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เช่น รถไฟทะลุตึก ควบคู่ไปกับการสัมผัสวัฒนธรรมผ่านการไหว้พระขอพร ทำให้ฉงชิ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางทุกรูปแบบ การเดินทางมายังฉงชิ่งจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความประทับใจได้อย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ
หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ
'ลุงสุทิน' ยก 'ทูตพิเศษจีน' คือของจริงที่หยุดลมหายใจเขมรได้ ส่วน 'อันวาร์' คนเดินสารให้สหรัฐฯ จบเห่แล้ว
ตามที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนจะเดินทางไปกัมพูชาและไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยการปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย
'จีน' ปฏิเสธส่งอาวุธช่วยกัมพูชารบ หลังไทยยึดคลังแสงสัญชาติจีนบนเนิน 500 ช่องอานม้า
เพจเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยออกมาโพสต์คำกล่าวของ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนซึ่งตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในการแถลงข่าวประจำวันของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันที่ 17 ธันวาคม 2568
ทบ. พร้อมพิสูจน์เชิงลึกจีนส่งอาวุธช่วยกัมพูชา ทหารยังไม่ผ่อนหนุนการทูตเร่งกดดัน
พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์สู้รบอาจลดลงหรือไม่ว่า มีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาน้อยลงจริง ซึ่ง อาจเกิดจากการที่กองทัพบก และกองทัพอากาศ ลิดรอนการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา
ดาบนั้นคืนสนอง! หนุนทหารไทยใช้ GAM-102LR ถล่มเขมร
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ดาบนั้นคืนสนอง ข้อเสนอให้ใช้ GAM-102LR อาวุธร้ายแรงที่ยึดจากทหารเขมรจัดการกองทัพเขมร จัดไปอย่าให้เสียของ
ยึด 'จรวด - ระบบ' อาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR สัญชาติจีน เนิน 500
พบ“จรวด-ระบบ”อาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR สัญชาติจีน ทันสมัยสุด รุ่นใหม่เปิดตัวต้นปี 68 หลังทหารไทยยึดเนิน 500 ช่องอานม้า แล้วยึดได้

