16 มี.ค.2565 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอมาตรการผ่อนคลายต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ วันที่ 18 มี.ค.นี้ ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้เป็นไปตามที่วางฉากทัศน์ไว้ว่า ช่วงกลางเดือนมีนาคม การติดเชื้อจะเริ่มชะลอตัว แต่จะไม่ลดลงฮวบ เนื่องจากมีการใช้มาตรการคล้ายการกั้นน้ำ ที่น้ำค่อยๆ เอ่อล้นและเริ่มลดลง สำหรับสายพันธุ์โอมิครอนข้อมูลจากนักวิชาการ โรงพยาบาล (รพ.) ศิริราช และต่างประเทศระบุว่า อยู่ในช่วงกลางๆ และกำลังจะเข้าขาลง เช่น สหรัฐอเมริกา ก็กำลังเริ่มลดลง เนื่องจากวัคซีนเพิ่มและเชื้ออ่อนแรง รวมถึงติดเชื้อมากขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ก็ติดเชื้อมากกว่าไทยทั้งยอดสะสมและติดเชื้อใหม่รายวัน ดังนั้น เมื่อเทียบกับต่างประเทศไทยถือว่า อยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างดี
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าโรคจะแรง เพราะตัวเลขจำนวนติดเชื้อ แต่เราจะดูเฉพาะตรงนี้ไม่ได้ เมื่อก่อนเรารู้โรคไม่มากจึงใช้ตัวเลขติดเชื้อ ผู้ต้องนอน รพ. ผู้เสียชีวิต แต่ตอนนี้รู้จักโรคมากขึ้น มีอาวุธพร้อมแล้ว ดังนั้น เราต้องมองมากกว่ามิติการระบาด ไม่ใช่เพียงตัวเลขติดเชื้อรายวัน แต่ต้องมองการครอบคลุมวัคซีน ระบบบริการ มองตัวเชื้อและลดลงความรุนแรงลง
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีการนัดหมายวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศระบบไม่กักตัว Test and go เพื่อให้เกิดความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ จากเดิมกำหนดว่าผู้เดินทางจะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้ามา เมื่อมาถึงแล้วให้ตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งทันที ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะมีการเสนอว่า การตรวจ RT-PCR ใน 72 ชั่วโมง ก็จะไม่จำเป็นแล้ว ปรับให้มาทำครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางเข้าถึงไทย และให้ตรวจ ATK ซ้ำอีกครั้ง ในวันที่ 5 ของการเดินทางมาถึง ขณะที่ เงินประกันสุขภาพผู้เดินทางจะกำหนดลดลงจาก 50,000 ดอลลาร์เหลือ 10,000 ดอลลาร์ ตรงนี้เราคำนวณจากค่าเฉลี่ยการรักษาพยาบาล แต่ตอนนี้โรคเบาลงแล้วจากเดิมที่เราเฉลี่ยค่ารักษา 1 ล้านบาทต่อราย ตอนนี้ก็เหลือเพียง 2 หมื่นบาทต่อราย
นพ.เกียรติภูมิ ยังกล่าวอีกว่า จะมีการนำเรียนต่อ ศบค. เรื่องแผนปรับโควิด-19 ในช่วง Endemic Approach ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนไว้ เนื่องจากการจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นจะมีผลต่อการควบคุมโรค การรักษา สังคมและกฎหมาย ดังนั้น ศบค.จะต้องรับทราบและดูแลเรื่องสังคมกับกฎหมาย ส่วนเรื่องการแพทย์ได้รับการสนับสนุนให้การแพทย์นำอยู่แล้ว โดยเราต้องพิจารณาทางสังคมและการแพทย์ให้สมดุลกัน เนื่องจากเราออกกฎหมายหลายสิบฉบับในช่วงการระบาด ฉะนั้นต้องปรับกฎหมายเข้าสู่ปกติ เช่น พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางรัฐบาลเตรียมการปรับเป็น พ.ร.บ.โรคติดต่อในภาวะฉุกเฉิน โดยเตรียมไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อให้สอดรับกับแผนที่จะทำให้โควิดเป็น Post Pandemic
นพ. เกียรติภูมิ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ 4 เดือน ในช่วง 3 เฟส บวก 1 นี้ เราจะทำให้เกิดเป็น Post Pandemic ที่ไม่มีการระบาดใหญ่อยู่ในช่วงปลอดภัย ส่วนการทำให้เป็น Endemic เราอาจต้องดูการประกาศจากองค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ทั้งหมดต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า ไวรัสไม่กลายพันธุ์รุนแรงเข้ามาอีก โดยต้องทำอย่างมีขั้นตอน (สเต็ป) ค่อยๆ ทำ ไม่ใช่ว่า 4 เดือนแล้ว จะเปิดหน้ากาก มีกิจกรรมสังคมเต็มที่ แต่เราตั้งเป้าหมายว่า สวนสาธารณะจะเป็นแห่งแรกที่ไม่ต้องสวมหน้ากาก เพื่อให้ชีวิตเป็นปกติ แต่ยังสนับสนุนให้คนสวมหน้ากากอยู่ โดยเฉพาะคนป่วย แต่คนทั่วไปก็จะผ่อนคลายได้บ้าง ส่วนกิจกรรมรวมกลุ่มก็อาจผ่อนคลายมากขึ้น เช่น กีฬา ฟุตบอล คอนเสิร์ต แต่ต้องมีมาตรการป้องกันคลัสเตอร์ใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วมสงขลา' 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย
นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า จะยึดข้อมูลที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นหลัก เพราะศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลา 16.00 มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน
'อนุทิน' เมินดรามา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอกเรื่องปกติถูกโจมตี
นายกฯ เมิน ดรามา ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอก ‘ผมมาทำงาน อยู่แวดวงการเมืองมานาน’ มองเรื่องปกติถูกโจมตี
'เอกปริษฐิ์' ปลดล็อก แชมป์แรก 'เอเชียนทัวร์' ที่ไต้หวัน
เอกปริษฐิ์ หวู่ นักกอล์ฟลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ปลกล็อคคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งแรกให้กับตัวเองจากรายการ ไต้หวัน กลาส ไท่ฟง โอเพ่น หลังหวดรอบสุดท้ายเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 ที่สนามไท่ฟง กอล์ฟ คลับ ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยแซงชนะ ฮัง เชียน-เหยา โปรกอล์ฟเจ้าถิ่นสองสโตรค
ชาวพัทยาแปรแสงไฟราตรีเป็นแสงแห่งความภักดีแด่ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
ชาวพัทยา ร่วมใจแสดงความอาลัย แปรแสงไฟราตรีเป็นแสงแห่งความภักดีแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
นายกฯ ย้ำชัดเจน ไม่ห้ามจัดกิจกรรมรื่นเริง-งานประเพณี เชื่อประชาชนใช้ดุลพินิจเหมาะสมในห้วงถวายความอาลัย
นายกฯ ย้ำไม่ห้ามจัดงานรื่นเริง ยึดตามความเหมาะสม ขณะที่ ”งานแต่ง-งานบวช“ จัดได้ตามประเพณี ส่วนร้านเหล้า เปิด-ปิด ได้ตามปกติ แต่อย่าจัดเต็มแม็ก เชื่อวุฒิภาวะผู้ประกอบการ เปรียบเหมือนเสียญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ ควรรู้ทำได้ระดับไหน
รัฐบาลขอภาคธุรกิจบันเทิง-สถานบันเทิง งดหรือลดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน
น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รัฐบาลขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจบันเทิง สถานบันเทิง และสถานบริการต่าง ๆ งดหรือลดกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัยของปวงชนชาวไทย


