ปรับลดระดับพื้นที่สีส้มเป็น 44 จว. ต่อ พรก.ฉุกเฉิน 2 เดือน มีผล 24 ม.ค.นี้

20 ม.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.เป็นประธานว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ระหว่าง 1 ก.พ.-31 มี.ค.

พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่ พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 69 จังหวัด เหลือ 44 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (สีเหลือง) 25 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี

ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ยังคงไว้ 8 จังหวัดเท่าเดิม ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา ภูเก็ต และบางอำเภอใน 18 จังหวัด ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 24 ม.ค.

สำหรับกิจกรรมและกิจการที่มีความแตกต่างกันระหว่างพื้นที่สีส้มและสีเหลือง อาทิ พื้นที่สีส้ม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน ส่วนพื้นที่สีเหลืองห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน ขณะที่การรับประทานอาหารในร้านอาหาร พื้นที่สีส้มสามารถบริโภคในร้านได้ตามปกติ แต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องแอลกอฮอล์ ส่วนพื้นที่สีเหลือง เปิดบริโภคในร้านได้ตามปกติ โดยไม่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องแอลกอฮอล์ในร้าน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดักคอ 'ทักษิณ' อย่างัดมุกติดโควิด เบี้ยวขึ้นศาล 13 มิ.ย.

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอ้ำอึ้งเรื่องไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

'หมอยง' เผยเดือนนี้จะเป็นเดือนที่โควิด 19 ระบาดสูงสุด และจะตามมาด้วยไข้หวัดใหญ่

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิท

'หมอยง' แจงฤดูกาลระบาด 4 โรคไวรัสทางเดินหายใจ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า