สธ. เผยยังใช้ UCEPโควิด19รักษาฟรีทุกที่ทั้งรัฐ-เอกชนได้ต่อไม่มีกำหนด ยังไม่รักษาตามสิทธิตัวเอง หลังครม.ตีกลับมอบสธ.ทบทวนแนวทาง
22 ก.พ.2565 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) แถลงแนวทางการรักษาและเบิกจ่ายโควิด-19 ระบบ UCEP ว่าตามที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมการดีเดย์ในวันที่ 1 มี.ค.2565 เพื่อปรับระบบการบริการให้ผู้ป่วยโควิด-19 ไปใช้การรักษาตามสิทธิสุขภาพของแต่ละบุคคล และเตรียมประกาศ UCEP โควิด-19 พลัส โดยให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) กำหนดเกณฑ์ผู้ป่วยโควิด19 กลุ่มอาการสีเหลืองและสีแดง เพื่อให้ใช้บริการได้ทุกที่ ฟรีทุกสิทธิในสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนนั้นวันนี้ (22 ก.พ.)มีการนำเรื่องอัตราที่จะจ่ายค่าบริการให้สถานพยาบาลเข้าคณะรัฐมนตรีครม.เพื่อขอความเห็นชอบ โดยครม.มอบให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนเรื่องกระบวนการและเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะกระบวนการติดต่อ การรักษา ช่องทางต่างๆ รวมถึงเรื่อง UCEP โควิด-19 พลัส ในอนาคตและการปรับระบบการรักษาที่บ้าน(Home Isolation:HI) ให้กระบวนการมีความคล่องตัว และการทำความเข้าใจกับประชาชน จึงยังไม่มีมติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องนี้มาเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน กับสถานพยาบาลและทบทวนกระบวนการต่างๆ
นพ.ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรอบเวลาที่จะใช้ทบทวน ก็จะต้องนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอต่อไป ส่วนเรื่องการประกาศยกเลิกกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินกรณีการติดโควิด-19 ครม.ให้ สธ.ดำเนินการทบทวนให้สอดคล้องกัน โดยสรุป คือ ตอนนี้ระบบการดูแลยังเป็น UCEP โควิด-19 เหมือนเดิม ซึ่งต้องไปดูแลกระบวนการดูแลผู้ป่วยเพิ่มเติมขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องมีการพัฒนาช่องทางการติดต่อเพื่อเข้าระบบ 1330 หรือการเข้า Line official ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) และดูแลระบบการรับส่งผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ประกาศว่า โควิด19ออกจากโรคฉุกเฉิน มีการลงนามไปแล้ว นพ.ธเรศ กล่าวว่า ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทางครม. จึงให้นำมาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องของภาคประชาชน จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปเพื่อทบทวนเรื่องการสื่อสาร และกระบวนการทั้งหมด ดังนั้น โควิด-19ยังเป็นโรคฉุกเฉิน รักษาฟรีได้ทุกที่ทุกสิทธิ์ รพ.เอกชนปฏิเสธไม่ได้ ส่วนคำถามถึงฮอสปิเทลว่าเหลือหรือไม่ ต้องเน้นย้ำว่าฮอสปิเทล เป็นกระบวนการหนึ่งที่ สบส. ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล เพื่อออกประกาศสถานพยาบาลชั่วคราว ในการปรับปรุงโรงแรมและทำงานร่วมกับโรงพยาบาล ขณะนี้ยังมีฮอสปิเทลที่ให้บริการถึง 200 แห่ง รวม 3.6 หมื่นเตียง ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.-ปริมณฑล ทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่ดูแลผู้ป่วยที่มีอาการน้อย ซึ่งมีอัตราเข้าพัก 30%"
เมื่อถามถึงกรณี รพ.เอกชน ปฏิเสธการรับผู้ป่วย นพ.ธเรศ กล่าวว่า ขณะนี้กลไกของ UCEP โควิด19มีผลบังคับใช้อยู่ ดังนั้น ผู้ป่วยโควิด-19ถือเป็นโรคฉุกเฉิน สถานพยาบาลต้องให้การดูแลและไม่สามารถปฏิเสธได้ หากสถานพยาบาลไม่มีศักยภาพในการดูแลหรือไม่มีเตียง ต้องส่งต่อผู้ป่วย และย้ำว่าไม่สามารถเรียกเก็บเงินมัดจำได้ ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ซึ่งการรักษายึดหลักการตรวจด้วย ATK หากพบว่าเป็นบวก สามารถดูแลในสถานพยาบาล รวมถึง HI/CI ด้วย สบส.แจ้งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ให้ทบทวนเรื่องนี้กับบริษัทประกันแล้ว
ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยโควิด-19ตามสิทธิ จะไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนคำถามว่าหากในอนาคตมีการปรับระบบบริการฉุกเฉินจะมีผลให้ผู้ป่วยต้องกลับไปยังหน่วยบริการที่ลงทะเบียนหรือไม่ ในส่วนของผู้อยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือบัตรทอง ขอย้ำว่า โควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่สามารถไปรับบริการในสถานพยาบาลได้ทุกที่ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่โควิด แต่ในโรคอื่นๆ หากประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ แต่ก็สามารถไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่ ตามนโยบายการยกระดับบัตรทอง ดังนั้น การดูแลไม่ว่าจะเป็นการรักษาที่บ้านหรือชุมชน( Home and Community Isolation ) การดูแลในโรงพยาบาล โรงแรม ระบบจะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่าย
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่ากรณีที่ผู้ป่วยต้องการติดต่อกับสายด่วน 1330 ข้อมูลวันที่ 21 ก.พ.2565 มีโทรศัพท์เข้ามาสูงเป็นประวัติการณ์ 49,500 สายในรอบ 24 ชั่วโมง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยในเดือน ส.ค.2564 สูงสุดอยู่ที่ 2-3 หมื่นสาย จึงมีปัญหาในเรื่องการโทรเข้ามา แต่ได้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่รับสายอีก 150 คน ตามที่ได้ตรวจสอบพบมีการรอสายทุกๆ วินาทีประมาณ 50 สาย ดังนั้น ขอแนะนำให้ประชาชนเพิ่มเพื่อนที่ไลน์บัญชีทางการของ สปสช.ที่ @nhso เพื่อลงทะเบียนและลดการรอสาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ทุบโต๊ะ! ประเทศมหาอำนาจกดดันไทยหยุดยิงไม่ได้ ต้องไปบอกฝ่ายกัมพูชา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนชนจีน ได้คุยโทรศัพท์กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
'อนุทิน' บอกถ้าได้เป็นรัฐบาล 'เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์' ร่วมงานต่อ เดินหน้าคนละครึ่ง
"อนุทิน" ระบุแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ตอบรับ แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลยืนยัน "เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์" ร่วมงานต่อ ส่วนจะเปิดตัววันไหนบอกยังมีเวลา ส่วนนโยบายพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่คนละครึ่งพลัสได้ไปต่อ
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”
แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน
แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"
'ประชาคมแพทย์' ปลุกคนไทยรวมใจเป็นหนึ่งขอ 3 ข้อจากเพื่อนให้โลกรู้
เพจประชาคมแพทย์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก

