
ตร.บช.ปส. ฝากขัง “บังลาย” 2 คดี ทั้งจ้างวานขนยาบ้าเกือบล้านเม็ด อีกสำนวน เฮโรอีน 400 กิโลฯ พร้อมค้านประกัน
11 เม.ย. 65 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 บช.ปส. ยื่นคำร้องฝากขังผ่านจอภาพ นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือบังลาย ผู้ต้องหา อายุ 33 ปี ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆเกี่ยวกับยาเสพติด และข้อหาฟอกเงิน เนื่องจากต้องสอบสวนปากคําพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษและลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติ ฯ , รอผลข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือจากบริษัทผู้ให้บริการ จึงขอฝากขังผู้ต้อง ไว้ระหว่างสอบสวนต่อไปอีก กําหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.- 22 เม.ย.2565
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค.63 เจ้าหน้าที่บช.ปส. ได้ทำการจับกุมตัวนายบุญฤทธิ์ หรือ ส่งแสงกับพวกไปรับยาบ้าจากจังหวัดปทุมธานีโดยใช้รถบรรทุก ของกลางยาบ้าจำนวน 998,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ เพื่อนำไปส่งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ตามคำสั่งของเฮียเก้าผ่านการวีดีโอคอล ทาง Messenger Facebook ชื่อ บังลาย คับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิค ทราบชื่อ นายธวัชชัย อ้อมชมพู และให้นายบุญฤทธิ์ ดูแล้วยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับ เฮียเก้าจริง จากนั้นจึงทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่านายธวัชชัย หรือเฮียเก้า ได้ซื้อรถบรรทุกสิบล้อคันของกลางให้กับนายบุญฤทธิ์เพื่อใช้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางลงสู่ภาคใต้
พนักงานสอบสวนได้จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุมนายธวัชชัย ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับ จากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(POLIS) ระบบสารสนเทศสถานีตำรวจ (CRIMES) และระบบศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม (PDC) พบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา วันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปรับตัวนายธวัชชัย ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวร สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงหมายจับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อหาตามหมายจับดังกล่าวพร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้นายธวัชชัย ทราบตามกฎหมาย จากนั้นได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือ ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดและได้มีการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดย การตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 มาตรา 7(1), 15วรรคหนึ่ง15วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม, พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ,ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ,พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2535 มาตรา 8 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ต่อมา ได้มีประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2565 การกระทำของผู้ต้องหาจึงเป็นความผิดฐาน ร่วมกันจําหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน โดยผิดกฎหมายสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 1,50,127วรรคสอง, 145 วรรคหนึ่ง 145วรรคสอง(2) และ 146วรรคสาม (2), 152,ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 31 ก.ค.61ข้อ 1,2 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ.2561 ลงวันที่ 31 ก.ค.61 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลำดับที่ 38 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง การกระทำของผู้ต้องหามีลักษณะการทำงานเป็นเครือข่าย และเป็นภัยต่อสังคม หากได้รับการประกันตัวไป เกรงว่าจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ยังได้ยื่นคำร้องฝากขังนายธวัชชัย หรือบังลาย อีกคดี กรณีนายธวัชชัย หรือบังลายร่วมกับพวกมียาเสพติดประเภท 1 เฮโรอีนหนัก 400 กก.ราคาประมาณ 400 ล้านบาทไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ,ร่วมสมคบกันมียาเสพติดไว้ในครอบครอง เป็นเวลา 12 วัน จนถึงวันที่ 22 เม.ย.นี้ ชั้นสอบสวนนายธวัชชัย ให้การปฏิเสธ ทุกข้อหา
ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัวถึงที่สุด เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการทำงานเป็นเครือข่าย เป็นภัยต่อสังคม
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หิ้ว 'นานา ไรบีนา' ฝากขังค้านประกันตัว!
ตำรวจสอบาวนกลางคุมตัว 'นานา ไรบีนา' ฝากขังคัดค้านการประกันตัว
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ศาลฟันหนัก! ขัง 11 คน เปิดบัญชีม้า ปั่นเหยื่อโอน 21 ล้าน โดนยาว 14-18 ปี
ศาลลงดาบจำเลยทั้ง 11 ราย คดีบัญชีม้าให้แก๊งหลอกโทรปั่นเหยื่ออ้างเป็นดีเอสไอ มองเป็นขบวนการทำร้ายสังคม-เศรษฐกิจ ย้ำต้องลงโทษแรงเพราะพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่สนคำรับสารภาพ สั่งจำคุกตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี พร้อมให้คืนเงินผู้เสียหายกว่า 21 ล้านบาท
ป.ป.ส. จับชาวเวียดนาม 5 ราย ยึดเฮโรอีนเกือบ 3 กก. เตรียมส่งออสเตรเลีย
ป.ป.ส. สกัดกั้นเครือข่ายเวียดนามข้ามชาติ ซุกเฮโรอีนส่งออสเตรเลีย ขยายผลค้นห้องพักกลางกรุง ยึด “คลับดรักส์” เตรียมกระจายนักเที่ยว
ศาลอาญาไฟเขียว อัยการขยายยื่นอุทธรณ์อีก 30 วัน คดี 'ทักษิณ' หมิ่นเบื้องสูง
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องขอขยายอุทธรณ์ของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา8แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์จนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นเวลาประมาณ 30 วัน ที่พนักงานอัยการฯมีเวลายื่นอุทธรณ์คดีนี้ได้
'ทักษิณ' แย่แน่! 'อสส.' คนใหม่ สวนมติเดิม สั่งอุทธรณ์คดี 112
'ทักษิณ' ลำบากแล้ว! 'อัยการสูงสุด' มีความเห็นยื่นอุทธรณ์คดีหมิ่นเบื้องสูง สวนมติ คกก.คดี 112เผยคดีนอกราชอาณาจักร อำนาจ อสส.


