
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ตรวจเยี่ยมการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ 2 คนร้ายชิงทองกลางเมืองพิษณุโลก ย้ำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต้องสวมเสื้อเกราะทุกคน เพราะพระองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้
14 ก.ย.2565 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ตรวจการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์กรณี 2 คนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองกลางเมืองพิษณุโลก ให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะได้ติดตามตัวคนร้ายได้อย่างทันท่วงที โดยมี พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก. เมืองพิษณุโลก ได้ร่วมสังเกตการณ์ครั้งนี้ด้วย
โดยได้จำลองเหตุการณ์ มีคนร้ายเป็นชาย 2 ราย ใช้อาวุธมีดข่มขู่บังคับพนักงานร้านทองและหยิบทองคำรูปพรรณจำนวน 1 เส้นวิ่งหลบหนีไป 1 ราย และอีก 1 รายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูใบหน้าคนร้าย โดยที่เกิดเหตุนั้นมีตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบทันที แบ่งกำลัง 1 ชุด สกัดจับตัวคนร้ายที่วิ่งหลบหนีมายังสวนกลางเมือง ตำรวจได้สกัดกั้นไว้ พร้อมส่งสัญญาณให้คนร้ายยอมมอบตัว และเข้าตรวจค้นตามหลักยุทธวิธีตำรวจ โดยสั่งให้คนร้ายวางอาวุธมีดและยกมือขึ้นไว้บนท้ายทอย จนทำการจับกุมได้ในที่สุดพร้อมของกลางเป็นอาวุธมีด 1 เล่มและสร้อยคอทองคำของกลาง
ส่วนกำลังอีก 1 ชุด แบ่งเป็นชุดสายตรวจทำงานร่วมกันห้องศูนย์ควบคุมวิทยุ และเจ้าหน้าที่ห้องบันทึกภาพ CCTV โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้เข้าไปตรวจเยี่ยมและชมการทำงานภายในห้อง CCTV เพื่อติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย พบว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางในซอยราชอุทิศ มุ่งหน้าไปยังถนนศรีธรรมตรีปิฎก มุ่งหน้าแยกสุเหล่า และมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่สายตรวจแต่ละสายประจำจุดสกัด แสดงตัวปิดล้อมได้บริเวณถนนเส้นหลังตลาดบ้านคลอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 20 นาที ในการจับกุมคนร้ายทั้ง 2 รายไว้ได้
พล.ต.ท.อัคราเดชกล่าวว่า การซ้อมแผนเผชิญเหตุเหมือนจริง ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้เราต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการประชุมเอเปก ซึ่งในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องสนับสนุนกำลังกับส่วนกลาง วันนี้เป็นการซักซ้อม ตรวจสอบกระบวนการทำงาน ไม่ต้องมองถึงความสมบูรณ์ หรือไม่สมบูรณ์ ทุกอย่าง No body perfect ทุกอย่างยิ่งไม่สมบูรณ์เราจะได้ยิ่งปรับปรุง เพื่อที่จะได้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นของประชาชน จะได้รู้ว่าตำรวจภูธรภาค 6 เราพยายามทุกอย่าง เพื่อที่จะมีการพัฒนาเรียนรู้ส่งเสริมและฝึกฝนให้ตำรวจได้มีความกระชับ แคล่วคล่อง ว่องไว รู้ในยุทธวิธี รู้ในหลักกฎหมาย และรู้วิธีที่จะป้องกันเหตุให้ทุกท่าน เมื่อเหตุเกิดแล้วเราจะต้องวางแผนยังไงเหนือสิ่งอื่นใดคือเราต้องป้องกันไม่ให้เหตุเกิด แต่ถ้าเหตุเกิดแล้วต้องจับให้ได้ และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายว่าวันนี้มาเพื่อแนะนำไม่ได้มาจับผิดใคร ต้องการให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และย้ำว่าตำรวจทุกนายที่ออกไปเผชิญเหตุต้องใส่เสื้อเกราะทุกคน พระองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจเปิดปฏิบัติการค้น 82 จุดทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้า
ตร.เปิดปฏิบัติการ Smoke Out 2 ตัดวงจรพ่อค้าบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก! ถกปราบยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
'นายกฯอิ๊งค์' เข้า ทบ. ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ โวยาบ้าลดลงมาก เหตุจับได้เยอะ ยัน ’กัมพูชา‘ พร้อมร่วมมือไทยปราบแก๊งคอล 100% ปัดตอบโยงสัมพันธ์ ‘ทักษิณ -ฮุนเซน’
ผบช.ภ.9บอกมีคนร้าย 17 คน! ร่วมก่อเหตุยิงถล่ม-วางบึ้มสุไหงโกลก
ผบช.ตร.ภาค 9 เผยคืบหน้า เหตุพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบมีคนร้ายร่วมก่อเหตุ 17 คน สั่งเร่งสืบสวนติดตามตัว
ตร.นำตัวผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัวกำแพงเพชร ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงข่าวคดีคนร้ายฆ่า พ่อ-แม่-ลูก รวม 3 ศพทิ้งไว้ในรถบริเวณหน้าบ้านร้าง ใน ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
ตำรวจภาค 2 ชี้มี 10 กาสิโนในเขมรใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากไทย!
ตำรวจภาค 2 ซีลเข้มชายแดนจันทบุรี – ไพลิน ปฏิบัติการ 'ป้อมปราการพิทักษ์ชายแดนจันทบูร' ปิดประตูแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐาน เผยมี 10 กาสิโน พบการใช้สัญญาณ
เปิด 10 ฉายาตำรวจ 'บิ๊กต่าย' คว้า 'กัปตันเรือกู้'
เปิด 10 ฉายาตำรวจ 'บิ๊กต่าย' ฉายา 'กัปตันเรือกู้' จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร 'อัคราเดช' ได้ฉายา 'สุมาอ้อ ยอดกุนซือ' จากผลงานไล่ล่า 18 บอสดิไอคอนได้ในวันเดียว ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ฉายา 'ไซเบอร์อรรถ จัดเต็ม' ด้านจ๋อแจ๊ะได้ฉายา 'กุนซือมือฉบัง-อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ'


