
ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยมิจฉาชีพแฝงตัวการลอยกระทงออนไลน์ เปิด 5 วิธีป้องกันตกเป็นเหยื่อ
6 พ.ย.65 – พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า เนื่องใน วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ถือเป็นวันลอยกระทง ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะออกมาทำกิจกรรม ร่วมกันสืบทอดประเพณีอันดีงาม และมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้เดินทางออกมาร่วมกจิจกรรม เนื่องจากเหตุผลหลายๆ ประการ โดยจะใช้บริการลอยกระทงออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ของหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานเอกชน ซึ่งจะมีการให้ประชาชนกรอกข้อมูลต่างๆ เพื่ออธิษฐานขอพรออนไลน์
ในการลอยกระทงออนไลน์ เหล่ามิจฉาชีพอาจอาศัยโอกาสดังกล่าวสร้างเว็บไซต์ปลอมขึ้นมาทั้งหมดหรือเว็บไซต์ปลอมที่คล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกลวงให้ประชนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลไปเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊ก ไลน์ โดยมิชอบ แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า หรือถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย
บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
การกระทำดังกล่าวจะมีความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ “ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
” ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันการใช้งาน หรือเข้าถึงบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีและระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคคล ซึ่งมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปเเสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้
จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัว พร้อมแนวทางการป้องกัน ดังนี้
1.ระมัดระวังเว็บไซต์ปลอม หรือเว็บไซต์เสมือน หากต้องการจะเข้าเว็บไซต์ใดให้พิมพ์หรือกรอกชื่อเว็บด้วยตนเอง
2.อย่ากดลิงก์ที่เเนบมากับอีเมล หรือความสั้น (SMS) ที่น่าสงสัย ไม่ทราบเเหล่งที่มา
3.หากต้องกรอกข้อมูล ควรกรอกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หากมีการขอข้อมูลในส่วนที่ไม่จำเป็น ให้สันนิษฐานได้ว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน หากไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถามกลับไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนโดยตรง
4.ไม่โพสต์ข้อมูลที่สำคัญลงในสื่อสังคมออนไลน์ และควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวจำกัดผู้เข้าถึงข้อมูล
5.ตั้งรหัสผ่านให้คาดเดาได้ยาก เช่น ใช้อักษรตัวพิมเล็ก ตัวพิมใหญ่ ใช้อักขระพิเศษ ตัวเลข มารวมกัน อย่าใช้ชุดเลขที่เกี่ยวข้องกับวันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ และเปิดใช้งานการเข้าถึงแบบหลายชั้น เช่น การใช้ร่วมกับ OTP หรือการยืนยันตัวตนหลายปัจจัย
อีกทั้ง องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด อาทิเช่น การให้ความคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลด้วยการปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ระบุเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
ทั้งนี้หากพบเบาะแสการกระทำผิด หรือ ข้อขัดข้องใดๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบ 2 วัยรุ่นรับจ้างจีนเทาขนเครื่อง FBS ขับรถตระเวนส่ง SMS ปลอม แนบลิงก์หลอกดูดเงิน
ตำรวจ บก.สอท.3 ร่วมกันแถลงผลเปิดปฏิบัติการ OPERATION PINKLAO รวบ 2 วัยรุ่นไทย ขนเครื่อง FBS ขับรถทั่วกรุง ตระเวนส่ง SMS ปลอม แนบลิงก์หลอกดูดเงิน
'อัยการดาว' เปิดใจยื่นสอบตร.ไซเบอร์ พบพิรุธคดีแก๊งคอลฯหลอกแม่สูญเงิน 7 แสน
เปิดใจอัยการดาวเหตุยื่นสอบตร.ไซเบอร์ หลังพบพิรุธ ประสานบริษัทปุ๋ยที่มีเส้นเงินเเก็งเเฮรี่เข้าบัญชี แต่มีคนประสานเคลียร์คืนเงินอ้างไม่รู้ ตร จัดสอบเป็นพยาน แนวโน้มอาจสอบพยานทุกแถวตลอดสาย เริ่มถอดใจ ประเทศชาติไม่ใช่ของเราคนเดียว
'อัยการดาว' ร้องสอบตร.ไซเบอร์ จับแต่ปลาซิว ปล่อยตัวการใหญ่ลอยนวล คดีแก๊งคอลฯหลอกแม่สูญ 7 แสน
น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” อัยการมือทำคดีเเตงโม ดาราสาวชื่อดังตกเรือเสียชีวิต เมื่อครั้งนั่งตำเเหน่งอัยการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากมารดา ผู้เสียหาย ในคดีโรแมนซ์สแกมถูกหลอกเงิน 7.6 เเสนบาทได้ยื่นหนังสือ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวน บช.สอท ทำสำนวนการสอบสวนส่อไปในทางช่วยเหลือกลุ่มที่รับเอาเงินหรือประโยชน์ที่ได้จากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ธ.ก.ส. จับมือ บช.สอท. เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “บริการเเจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ” ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่าน LINE Official BAAC Family
ธ.ก.ส. จับมือ บช.สอท. เดินหน้าเสริมแกร่งความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ” บน LINE Official BAAC Family โดยสามารถเช็ก - แจ้ง – เตือนภัยมิจฉาชีพได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน LINE Official BAAC Family โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
คุมตัว 'เอ็ม' พร้อมพวกฝากขัง โยงฟอกเงินเว็บพนันอดีตดาราสาว
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปปง.ตร.)
ตำรวจเตือนระวังภัยช่วงวาเลนไทน์ แนะ 3 ข้อป้องกันตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เปิดเผยว่า เทศกาล “วันวาเลนไทน์” หรือวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากถือเป็นโอกาสในการแสดงออกถึงความรัก ซึ่งมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีมักจะใช้โอกาสพิเศษเหล่านี้ก่อเหตุร้าย ไม่


