‘กองปราบ’ นำตัว 136 ผู้ต้องหา คดีทุจริตโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ส่งฟ้องอัยการ

ตำรวจกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวน พร้อมผู้ต้องหา 136 คน คดีทุจริตโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ส่งอัยการ สั่งฟ้องดำเนินคดี

15 พ.ย.2564- พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน  ร่วมกับพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) และพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง.ผบก.ป. นำตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันฉ้อโกงในโครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน”จำนวน 136 คน ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมกันทุจริตเบิกเงินในโครงการนี้ ในการเช่าห้องพักซื้อสินค้าอาหาร โดยรู้เห็นกับเจ้าของที่พัก จนทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณ ครั้งนี้เกือบ 100 ล้านบาท เพียงแค่ 2 จังหวัดคือ จว.ภูเก็ต และ จว.ชัยภูมิ

พล.ต.ท.ชยพล กล่าวว่า ยังมีเจ้าของกิจการ ที่ยังต้องถูกดำเนินคดีอีกหลายคนเท่าที่ตรวจสอบกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่เข้าแจ้งความแล้วกว่า 1,000 ราย พบความเสียหายกว่า2,000 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่ดำเนินคดีต่อไปแล้ว โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกันมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ส่วน เจ้าของโรงแรม ร้านค้าที่ร่วมโครงการ และภาคประชาชน แต่มีคนบางกลุ่มมีแนวคิดที่ไม่ถูกต้องไปใช้วิธีฉ้อฉล โรงแรม ร้านค้า ที่มีแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ส่วนภาคประชาชนมีแอปเป๋าตังค์ ก็มีบางคนไปเอาสำเนาบัตรประชาชน มาเปิดใช้สิทธิ์ได้รับเงินเล็กน้อยจ่ายค่าตอบแทนให้ บางรายได้เพียงหลักร้อยก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนเงินที่เหลือไปเข้ากระเป๋าโรงแรม ร้านค้า ยืนยันว่าจะดำเนินคดีทุกรายอย่างเด็ดขาด และฝากเตือนพี่น้องประชาชนคิดให้ดี รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว เรามีสิทธิ์ก็ใช้ตามปกติ แต่หากไปใช้ในทางที่ผิดจะต้องถูกดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวถึงวิธีนำบัตรประชาชนมาเปิดใช้สิทธิว่า จะมีผู้รวบรวมสิทธิไปเอาเลขบัตรประชาชน จากนั้นเข้าระบบสมัครใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันตามปกติ โดยที่เจ้าของบัตรไม่ได้มีการไปพักโรงแรม ใช้จ่ายตามร้านค้าที่ร่วมโครงการจริง คดีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย ผู้ต้องหานับร้อยรายเป็นเจ้าของโรงแรม ร้านค้า ผู้รวบรวมสิทธิ์ นอกจากที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต ในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับโรงแรม ร้านค้า 1 พันกว่าคดี ความเสียหายประมาณ 2 พันกว่าล้าน ฝากเตือนพี่น้องประชาชน ได้รับผลตอบแทนไม่มาก แต่อาจต้องถูกดำเนินคดีสถานหนัก ส่วนการดำเนินคดีในเฟส  3 นั้น ทาง ททท.มีการแจ้งเบาะแสการทุจริตเข้ามาแล้ว แต่ยังไม่มีการเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน

พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

'อิ๊งค์-เอม' นำพวงมาลัยกราบ 'พ่อแม้ว' หลังวันเกิด 'หญิงอ้อ'

'อิ๊งค์-เอม' นำพวงมาลัยดอกมะลิกราบพ่อในเรือนจำคลองเปรม หลังวันเกิด 'คุณหญิงพจมาน' ยิ้มแย้มโบกมือทักเสื้อแดง ไม่ตอบปมอัยการจ่ออุทธรณ์คดี 112

กระจ่าง! อัยการเปิดไทม์ไลน์ ทำไมออกหมายจับ 'สันธนะ'

'รองโฆษกอัยการ' เปิดไทม์ไลน์ ทำไมออกหมายจับ'สันธนะ' คดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน เหตุเบี้ยวนัดตำรวจส่งตัวอัยการฟ้อง ยันไม่เคยมีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมตามที่กล่าวอ้าง

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จำคุก 2 ปี อัยการเรียกเงิน 5 แสน แลกวิ่งคดีช่วยชาวจีน

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (ยานนาวา) และ นางสาวธัญญา เต็มชำนาญ จำเลยที่ 1-2 

กองปราบจับสาวเขมร หัวหน้าแก๊งเด็กขอทาน เร่ตามแหล่งท่องเที่ยว

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.ท.อภิสิทธิ์ พรหมมา, ร.ต.ต.ประชา ศรีนวลชาติ รอง สว.กก.5 บก.ป., ร่วมกันจับกุม น.ส.ไอซ์