เผยเหตุการณ์ 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' หลบหนีในศาล สมรู้ร่วมคิด 3 คน สอบจนท.ราชทัณฑ์

โฆษกศาลเเจง เหตุ "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" หลบหนี ส่งดำเนินคดีอาญา-ละเมิดอำนาจศาล ส่วน จนท.ราชทัณฑ์โดนต้นสังกัดตั้ง คณะทำงานสอบ

22 ธ.ค.2565 - ที่สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม แถลงข่าวกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนชื่อดัง พยายามหลบหนีระหว่างการนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดีฉ้อโกงประชาชนหลอกให้ร่วมลงทุนซื้อคูปองทอง , ลงทุนซื้อแพคเกจท่องเที่ยว , ระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน ที่ศาลอาญาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ความว่า นายประสิทธิ์ถูกคุมตัวมาที่ศาลเพื่อนัดสอบคำให้การกรณีหลอกลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ความเสียหาย 1 ล้าน 9 แสนบาท ซึ่งเป็นคดีใหม่ที่ผู้เสียหายเพิ่งฟ้อง จากนั้นเมื่อสอบคำให้การที่ห้องเวรชี้เสร็จ นายประสิทธิ์ก็ขอใช้สิทธิ์ตรวจพยานหลักฐานในคดีเก่า ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะขอใช้สิทธิตรวจพยานลักษณะนี้มาตลอด เจ้าหน้าที่จึงอนุญาต จากนั้นนายประสิทธิ์ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าปวดท้องถ่ายหนักขอเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 คน จึงพาตัวนายประสิทธิ์ไปเข้าห้องน้ำ และยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู

ระหว่างนั้นมีผู้สมรู้ร่วมคิดของนายประสิทธิ์อยู่ภายในห้องน้ำ และส่งกุญแจไขโซ่ตรวน รวมถึงเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มส้น และหนวดปลอมให้กับนายประสิทธิ์ เมื่อนายประสิทธิ์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เดินเร็วออกจากห้องน้ำตรงไปยังบันไดกลางของอาคารศาล โชคดีที่มีจำเลยคดีอื่นที่เดินเข้าห้องน้ำเช่นกันสังเกตเห็น จึงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่ศาลที่อยู่บริเวณดังกล่าวให้เข้าจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมนายประสิทธิ์ไปจนชั้น 3 ระหว่างนายประสิทธิ์ก็มีความพยายามจะปีนบันไดกระโดดหนีลงมาด้วย จนทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาเล็กน้อย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็สามารถจับกุมตัวนายประสิทธิ์ไว้ได้

เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของนายประสิทธิ์ จำนวน 3 คน เป็นเลขาของนายประสิทธิ์ และคนใกล้ชิดที่นำกุญแจและเสื้อผ้ามาให้นายประสิทธิ์ ซึ่งตำรวจสน.พหลโยธินอยู่ระหว่างการสอบปากคำ แต่เชื่อว่ามีการวางแผนกันมาเป็นอย่างดี เตรียมอุปกรณ์ปลอมตัวและติดหนวด และยังพบเงิน 1 หมื่นบาทที่ตัวผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งจะต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ากุญแจที่ใช้เป็นการปั๊มกุญแจมาจากกุญแจต้นฉบับหรือไม่ หรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อ้างว่าเฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว เพราะไม่พบว่ามีการวิ่งตามจับกุมนายประสิทธิ์

ซึ่งเบื้องต้นนายประสิทธิ์ถือว่าเข้าข่ายความผิดผู้ใดหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดก็จะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ต้องรับโทษเท่ากัน อย่างไรก็ตามทางศาลก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนด้วย

ขณะที่หลังจากนี้ทางศาลก็จะตรวจสอบและเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นว่ามีช่องโหว่ตรงไหนให้ผู้ต้องหาหลบหนีหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้องน้ำ รวมถึงการตรวจร่างกายญาติที่จะเข้าห้องพิจารณาคดีก็เป็นเรื่องยาก เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสิ่งของที่นำมาเพื่อช่วยเหลือนักโทษหลบหนีหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประหารชีวิต 'เชษฐ์ ปาดัง' กับพวกรวม 7 คน คดีจ้างฆ่าคนสนิทแป้งนาโหนด

ศาลอ่านคำพิพากษาประหารชีวิต นายธีระพงศ์ หรือเอ็ม สงเคราะห์ กับพวกรวม7 คน ในความผิดฐานจ้างวานฆ่านายประศาล คงนุ่น หรือ หมีขาว ป่าบอน อายุ 54 ปี คนสนิท ของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" จนเสียชีวิตริมถนนในหมู่บ้านสายทุ่งนา บ้านห้วยปลิง ม.4 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา

อดีต สส.พรรคส้ม 'จิรัฏฐ์' ถอดใจ ไม่ไปต่อ เมียขอลงสมัครแทน

พรรคส้มยันไม่ปกป้อง สส.จิรัฏฐ์ ถูกตัดสินจำคุก คดีปลอมใบ สด.43 ย้ำ เป็นสิทธิเจ้าตัวพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม เผยตัดสินใจมานานแล้วจะไม่ลงสมัครต่อ แต่ ภรรยา "จิรัฏฐ์" ได้แสดงความประสงค์สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค

กระทบมั่นคงชาติ! เปิดเหตุผลศาลสั่งคุก ‘จิรัฏฐ์’ เจตนาใช้เอกสารราชการปลอม

เปิดเหตุผลศาลอาญา ระบุการกระทำของจำเลยส่งผลต่อกระทรวงกลาโหมและประชาชน กระทบความมั่นคงของชาติ เห็นว่ามีเจตนาใช้เอกสารราชการปลอม เข้าข่ายความผิดกรรมเดี