วัยรุ่นบางพลีอาวุธครบมือเปิดศึกหน้าผับไล่ยิงดับ 1 เจ็บ 1

วัยรุ่นบางพลีอาวุธครบมือเปิดศึกหน้าผับ ไล่ยิงกันสนั่นซอยถูกอีกฝ่ายขับรถพุ่งชนตาย 1 บาดเจ็บ 1 

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุไล่ยิงกันก่อนที่รถกระบะจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ไปอัดติดกับรถกระบะที่จอดอยู่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านสะดวกซักภายในซอยธนสิทธิ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.วิโรจน์  ตัดโส  ผกก.สภ.บางพลี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 กค 1680 กรุงเทพมหานคร ที่ประตูฝั่งขวายุบ ด้านข้างรถพบร่างนายนิว อายุ 20 ปี ชาวลาวนอนเสียชีวิตอยู่กับพื้น ที่หน้าผากมีบาดแผลแตกและยุบ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน 1 ขถ 2760 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่กับพื้น สภาพพังยับทั้งคัน ที่ใต้รถยนต์กระบะช่วงล้อหลังขวาพบมีดดาบยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างออกไปไม่ไกลพบรองเท้าตกอยู่ 1 ข้าง ห่างอออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร พบหมวกตกอยู่กลางถนน 1 ใบ และริมถนน 1 ใบ และยังพบว่ามีเศษหินแตกกระจายเต็มพื้นถนน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลบางพลี ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมา นายวัน อายุ 20 ปี ชาวกัมพูชา มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และเจ็บหน้าอก 

ภาพจากชาวบ้านที่ใช้มือถือถ่ายเหตุการณ์กลุ่มคนจำนวนมากยืนมุงอยู่บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่ง และมีการชกต่อยกัน ขณะที่ชาวบ้านอีกรายได้ถ่ายคลิปขณะที่รถจักรยานยนต์และรถยนต์กระบะสีขาวได้ขับและขี่ออกมาจากข้างร้านสะดวกซื้อ โดยรถจักรยานยนต์ขี่เข้าไปทางด้านท้ายซอย ส่วนรถยนต์กระบะสีขาวได้ขับเลี้ยวมาทางปากซอย ก่อนจะมีเสียงคล้ายปืนยิงหลายครั้ง ก่อนที่รถยนต์กระบะสีขาวจะกลับรถไปทางท้ายซอย และมีกลุ่มควันสีขาวลอยออกมากลางถนน

ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณร้านสะดวกซัก สามารถจับภาพขณะที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาและเลี้ยวเข้ามาทางร้านสะดวกซักได้มีรถยนต์กระบะสีเทา ขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเลี้ยวตามผู้ตายมาและเสียหลักพุ่งชนรถของผู้ตายก่อนจะพุ่งไปชนรถยนต์กระบะที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซัก จนกระเด็น ก่อนที่จะมีชายกระโดดลงมาจากท้ายกระบะพร้อมบางอย่างที่มีความยาว วิ่งเข้าไปข้างร้านสะดวกซัก ส่วนรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับถอยแล้วกลับรถขับออกไป ก่อนที่จะมีคนจำนวนมากเดินมาดูผู้ตาย หลังจากนั้นไม่นานได้มีรถยนต์กระบะสีขาวขับมาจอดริมถนนแล้วคนขับก็เดินลงมาดูผู้ตาย

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเดินออกมาอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ ตนเห็นผู้ชาย 4 คน นั่งอยู่บนรถจักรยายนต์ พีซีเอ็ก และก็เวฟ แล้วคนขับรถออนิวไปรับเพื่อนเขา เพื่อจะเอาไปส่งโรงพยาบาล แล้วได้มีรถกระบะเชฟ ขับออกมาตัดหน้า แล้วพีซีเอ็ก ก็ขี่ออกมาดักหน้า แล้วก็ยิงประมาณ 5 นัด แล้วรถกระบะก็ตกใจเหยียบคันเร่งเลย แล้วก็วนมาที่ด้านข้างอีก 3 นัด หลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้ขับรถไปทางปากซอย

ผู้เห็นเหตุการณ์ คนที่ 2 เล่าว่า ทีแรกมีชายประมาณ 5-6 คน เขามีเรื่องจากข้างในมา แล้วเหมือนจะไม่มีรถกลับ ก็ได้เดินมาตรงเสาธงข้างร้านสะดวกซื้อ ตนก็ไม่รู้หลอกว่าเขามีเรื่องอะไรกัน แต่ตนเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์  เดินถือมีดดาม ถืออะไรกันยาว ๆ ผ่านไปประมาณ 10 นาทีก็ มีรถปิคอัพจอดตรงนั้น สักพักก็มีเรื่องกันอย่างที่เห็น ตนก็ไม่รู้ว่าเขายิงใส่กี่นัดแต่หลายนัดอยู่ และตะโกนอะไรสักอย่างแต่ตนไม่ได้ยิน

นายเรืองวิทย์ ศิริบุญนาม อายุ 44 ปี เจ้าของรถยนต์กระบะที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เล่าว่า ขณะที่ตนซักผ้าอยู่ภายในร้าน ได้ยินเสียงปืนหลายนัด สักพักก็ได้ยินเสียงเร่งเครื่องรถยนต์กระบะ มาไล่ชนรถจักยานยนต์รถของผู้ตายมาด้วยกัน 2 คน อีกคนกระโดดออกวิ่งหนีไปไหนไม่รู้ ส่วนรถกระบะมากัน 7-8 คน มีน้องผู้หญิงเล่าว่าเขาทะเลาะกันตั้งแต่ที่ผับ มีทั้งมีดทั้งปืน ตนได้ยินเสียงปืนประมาณ 4-5 นัด พอชนแล้วก็มีคนลงมาดูเห็นว่าคนตายนอนนิ่ง เลยขับรถถอยออกไป ส่วนอีกคนก็จะมาซ้ำแต่ช่วงชุลมุนก็กระโดดออกข้างหลังหายไป

เพื่อนของผู้ตายเล่าว่าผู้ตายได้เข้ามาบอกตนที่บ้านว่ามีเรื่องก่อนจะไปมีเรื่องที่หมู่บ้านมัณทนาตนก็ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องอะไรแต่คิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่คนตายไม่กินเหล้า

พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลีซึ่งลงพื้นที่พร้อมกับรองผู้กำกับสืบสวนสภ.บางพลีเปิดเผยว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายน่าจะมีเรื่องกันออกมาจากร้านเหล้าไม่ไกลจากที่เกิดเหตุก่อนจะพาพวกออกตามหากันจนทั้งสองฝ่ายมาเจอกันกลางซอยธนสิทธิ์จึงยกพวกไล่ทำร้ายกันจนอีกฝ่ายตัดสินใจขับรถพุ่งชนอย่างไรก็ตามสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งลงพื้นที่หาเบาะแสของกลุ่มที่ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำแล้วโดยคาดจะติดตามตัวได้ไม่ยากเนื่องจากในละแวกที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดค่อนข้างเยอ