“สรรพสามิต” รับเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริง เคสยัดบุหรี่ปลอมพาขึ้นรถตู้ ขู่รีด 5,500 บาท แจงให้หยุดพักงานทันที พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบ หากพบผิดวินัยร้ายแรงให้ออกจากราชการ
17 ก.พ. 2566 – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีข่าวแม่ค้าร้านขายของชำ ร้องถูกอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตยัดบุหรี่ปลอมพาขึ้นรถตู้ พร้อมข่มขูดรีดเงิน 5,500 บาท ว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่กรมจริง โดยได้สั่งให้หยุดพักงานทันที และให้รายงานข้อเท็จจริง โดยตามระเบียบของกรมฯ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลผิดวินัยร้ายแรง จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยทันที และหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะให้พักหรือออกจากราชการทันที ตรงนี้เป็นมาตรการที่เข้มงวดอย่างมาก
“เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ที่สุด และกรมไม่ได้เพิกเฉย ยืนยันว่าใครทำผิด เราไม่ปล่อยไว้แน่นอน โดยต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีทั้งของจริงและการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีไม่ว่าจะจากกรมไหน เรียกร้องรับผลประโยชน์ หลอกลวงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้ชี้แจงตลอดว่าหากมีเจ้าหน้าที่กรมฯ เรียกรับเงิน ขอให้ประชาชนตรวจสอบให้ดีว่า เจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีการใส่เครื่องแบบหรือไม่ เพราะตามระเบียบของกรมฯ จะต้องใส่เครื่องแบบและมีบัตรประจำตัว หากไม่มีตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวสามารถแจ้งมาที่กรมฯ หรือแจ้งตำรวจได้เลย” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า นโยบายของกรมฯ คือต้องทำหน้าที่ป้องกันสินค้าที่ผิดกฎหมาย และสินค้าลักลอบ ดังนั้นจะปล่อยให้สินค้าเหล่านี้เต็มประเทศไม่ได้ และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าวจะมาจากทั้งที่ประชาชนร้องเรียน และข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามออนไลน์ เมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ ตรงจุดนี้ทำให้ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับประชาชน จึงถือเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนมาก และเป็นจุดที่คนใช้มาแอบอ้างหลอกลวงประชาชน โดยหากมีการพบสินค้าหนีภาษี สิ่งที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจะต้องดำเนินการ คือ ต้องแจ้งความผิดก่อน และต้องบันทึกข้อความหลังจากแจ้งความผิดไปแล้ว ส่วนการเสียค่าปรับจะต้องไปดำเนินการที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ กรณีค่าปรับไม่เกิน 50,000 บาท หากเกินกว่านี้จะต้องไปลงบันทึกประจำวันแล้วจึงมาปรับที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตามความเสียหาย ทุกกระบวนการจะมีมาตรฐานชัดเจน มีกฎ กติกา และระเบียบชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบนี้ สามารถแจ้งได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดพฤติการณ์สังหารโหด 'สจ.โต้ง' ชนวนเหตุเลือกตั้ง อบจ. ศาลไม่ให้ประกัน
ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ) มือยิง ,นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน ) มือยิง,
ตร. รับพิจารณาโอนคดีสังหาร 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบ สั่งสอบตำรวจลูกสมุนผู้มีอิทธิพล
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่
เมีย สจ.โต้ง ร้องโอนคดีให้กองปราบ ยังไม่เผาศพรอความยุติธรรม
น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน (สจ.จอย) ภรรยา สจ.โต้ง ทนายเอี้ยง” นิติศักดิ์ มีขวด และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์อเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท
พยานฝั่งดิไอคอน ร้อง 'กมธ.ความมั่นคง' หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้เสียหายและพยานที่ได้รับความเดือดร้อน จากการอายัดทรัพย์โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความผิดที่ถูกกล่าวหา กรณี บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป เข้ายื่นหนังสือถึง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ