
‘รอง ผบ.ตร.’ เรียกกรมโรงงานประชุม ‘ไซยาไนด์’ หลุดจากระบบ จ่อออกหมายจับเพิ่ม ‘แอม’ อีกคดีที่ สน.ทองหล่อ
8 พ.ค. 2566 – ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ “แอม ไซนาไนด์” ผู้ต้องหาคดีวางยาเหยื่อเสียชีวิตกว่าสิบรายเพื่อล้างหนี้สิน ซึ่งในวันนี้มีการเรียก นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ มาให้ข้อมูลหลังจากช่วงสัปดาห์ก่อน ตำรวจร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบโรงงานที่ผู้ต้องหาสั่งซื้อไซยาไนด์มาก่อเหตุ และตรวจพบว่ามีการจำหน่ายต่อไปให้กับผู้ซื้อกว่า 100 ราย
โดยวันนี้ ทางกรมโรงงานฯ ระบุก่อนเข้าชี้แจงเพียงว่า ในวันนี้ทางตำรวจได้เรียกมาให้ข้อมูล แต่ไม่รู้ว่าจะมีการสอบถามประเด็นใดบ้างสำหรับประเด็นที่ชุดคลี่คลายคดีจะสอบถามกับกรมโรงงานฯ คือจะให้กรมโรงงานชี้แจงเอกสาร รายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าไซยาไนด์ ทั้งบริษัทผลิต โรงงานที่นำเข้า วัตถุประสงค์ของการนำเข้าและนำไปใช้ และการครอบครองไซยาไนด์ รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ เพื่อตรวจสอบดูว่าเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯบกพร่องด้วยหรือไม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับใคร แต่ยอมรับว่าในช่วงสี่วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งการขยายผลในทางคดี และคาดว่าภายใน1 – 2 วันนี้ จะมีความชัดเจนว่า จะมีใครเกี่ยวข้องกับการร่วมกันฆ่าหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องไซยาไนด์ที่หลุดออกไปนอกระบบ ในวันนี้ได้เรียกกรมโรงงานอุตสาหกรรมมาชี้แจงรายละเอียดเพราะไซยาไนด์มีไว้สำหรับอุตสาหกรรมและศึกษาวิจัยเท่านั้น ซึ่งหากพบว่าการที่ไซยาไนด์หลุดลอดออกไปจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะมีความผิดด้วย เช่นเดียวกับเรื่องปืนหาย ที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจนั้นๆจะต้องได้รับโทษ 157 ในฐานะผู้บังคับบัญชา สำหรับโรงงานที่นำเข้าไซยาไนด์เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ซึ่งจะมีการประชุมในวันนี้ก่อน
ส่วนความคืบหน้าคดีนางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ “ทราย” ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ วันอังคารจะทำการสอบปากคำแพทย์นิติเวชเพื่อประกอบสำนวนคดี หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถออกหมายจับแอมเพิ่มในคดีนี้ ส่วนในวันพุธที่ 11 พ.ค.นี้ จะเรียกบุคลากรทางการแพทย์ มาสอบปากคำในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เพื่อขอความเห็นภาพรวมของคดีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์และการใช้สารไซยาไนด์ทั้งหมด ที่สโมสรตำรวจ
สำหรับเรื่องการสอบปากคำพ่อแม่ของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง หรือรองออฟ อดีตสามีของผู้ต้องหา พบว่าให้การเป็นประโยชน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยคำให้การได้ เพราะจะกระทบกับรูปคดี
ขณะที่เรื่องนอมินีที่มีชื่อบนกล่องพัสดุว่าเป็นคนสั่งซื้อไซยาไนด์ ให้แอม ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำไว้ทั้งหมดแล้วแต่ขอยังไม่ให้ข้อมูลรายละเอียดในสำนวนเรื่องคำให้การ เพราะเป็นประเด็นสำคัญในสำนวน แต่เบื้องต้นยอมรับว่าแอมเป็นคนสั่งให้นอมินีคนนี้ที่ปรากฏรายชื่อบนกล่องจริง และเบื้องต้นนอมินีคนนี้ยังไม่พบว่าเข้าข่ายความผิด เพราะทำไปโดยไม่รู้ว่าแอมจะทำไปใช้ก่อเหตุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง
'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่
รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร
"พัฒนา" เมิน "บิ๊กโจ๊ก" ปูดตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน ชี้ตัวเลข 140 รายของสธ. ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์ชี้ชัดอะไรไม่ได้
อีกแล้ว ‘โจ๊ก’ จะแฉข่าวใหญ่! หลังโผล่กองปราบ ยันไม่หนีคดีหมิ่น สตช.
อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง ระบุคดีนี้เป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก ย้ำยังไม่มีหมายเรียก-ไม่มีข้อหาใด พร้อมตั้งคำถามกลับถึงเหตุฟ้องร้อง ชี้ตล
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก


