10 ก.พ.2567 - พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษมพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., .พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุ น.ส.นันทวัน อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.75/2567 ลงวันที่ 30 ม.ค. 67 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่น ใช้บัญชีเงินฝากที่มีชื่อของตนเองโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” จับกุมได้ทีบริเวณร้านคาเฟ่อเมซอน สาขา โรงพยาบาลสงฆ์ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ทางคดี กล่าวคือ ขณะที่ผู้กล่าวหาอยู่ที่บ้านได้มีโทรศัพท์โทรมาหาอ้างว่าเป็น ร.ต.อ.ปาริชาตฯ และบอกผู้กล่าวหาว่าผู้กล่าวหาเปิดบัญซีม้า และมีเงินโอนเข้าบัญชีผู้กล่าวหา และอ้างว่าผู้กล่าวหาหนีคดี จากนั้นร.ต.อ.ปาริชาต ได้โอนสายให้พูดกับ ร.ต.ต.หญิงมาเรียโลด และร.ต.ต.หญิงมาเรียโลด ให้ผู้กล่าวหาโอนเงินมาตรวจสอบ ผู้กล่าวหาหลงเชื่อ จึงโอนเงินเข้าบัญชีของนายอนุพล สามีผู้ต้องหา จำนวน 1,409,191 บาท ผู้กล่าวหาเชื่อว่าถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เมื่อ น.ส.นันทวันฯ ผู้ต้องหา มาปรากฎตัวเพื่อสมัครงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจึงตัดหน้าแสดงหมายจับเข้าจับกุมตัว
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเห็นโฆษณาผ่านทางกลุ่มแพลตฟอร์ม’เฟสบุ๊ก' จ้างเปิดบัญชีธนาคาร ตนและสามีจึงได้ติดต่อไป และทำตามขั้นตอนของผู้ว่าจ้าง ที่ส่งลิงก์มาทางการสนทนาในเฟซบุ๊กเมื่อตนทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตนได้รับเงินค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคาร 300 บาท ต่อมาตนจึงทราบว่าบัญชีดังกล่าว ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกผู้เสียหาย และก่อนหน้านี้สามีถูกจับกุมแล้ว ตนทราบดีว่าต้องเข้ากระบวนการหากไม่ไปตามหมายเรียก2ครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายจับแน่ๆ เพราะเห็นตัวอย่างของสามี ที่ถูกออกหมายจับกุมมาแล้ว โดยภายหลังที่ตนมีหมายจับ ยอมรับว่าตนหลบหนีทันทีและย้ายออกมากบดานมาพักอาศัยในท้องที่ต่างจังหวัด เพื่อหนีหลบซ่อนตัวมาเป็นระยะเวลานาน และอยู่อย่างกังวลนอนไม่หลับสนิทเฝ้ารอเวลาที่ตนจะถูกจับกุมในสักวันหนึ่ง อีกทั้งยอมรับว่า วันนี้มีความหวังที่จะได้งานทำรวมถึงเงินอั่งเปาที่จะจากบริษัทฯ โดยตนยอมเดินทางมาไกลจากโพธาราม จังหวัดราชบุรี เข้ามากรุงเทพฯ แต่ก็ดีใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่นับต่อจากนี้ไป ตนไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัย ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆของมิจฉาชีพ ซึ่งแฝงตัวมา ส่วนเจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ปปง.ล้มยักษ์สแกมเมอร์ ยึดทรัพย์ ’เฉิน จื้อ-ก๊ก อาน-เบน สมิธ‘ หมื่นล้าน
คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่า 10,165 ล้านบาท จาก 4 คดีใหญ่ของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พบเส้นทางเงินโยงกัมพูชา ใช้บัญชีม้า-คริปโตฟอกเงิน ซ่อนทรัพย์ผ่านบริษัทและบุคคลใกล้ชิดเป็นทอด ๆ
ศาลฟันหนัก! ขัง 11 คน เปิดบัญชีม้า ปั่นเหยื่อโอน 21 ล้าน โดนยาว 14-18 ปี
ศาลลงดาบจำเลยทั้ง 11 ราย คดีบัญชีม้าให้แก๊งหลอกโทรปั่นเหยื่ออ้างเป็นดีเอสไอ มองเป็นขบวนการทำร้ายสังคม-เศรษฐกิจ ย้ำต้องลงโทษแรงเพราะพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่สนคำรับสารภาพ สั่งจำคุกตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี พร้อมให้คืนเงินผู้เสียหายกว่า 21 ล้านบาท
ตร.แนะเช็กก่อนบริจาคช่วยน้ำท่วมทิพย์!
ตร.แนะ 'เช็กก่อนเชื่อ-ชัวร์ก่อนโอน!' ระวังตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมและแก๊งหลอกเรี่ยไร ช่วยน้ำท่วมทิพย์
ดิ้นสู้สุดซอย! 'โจ๊ก' ให้ข้อมูล สว. ขยี้องค์กรตำรวจพังพินาศ รับส่วยเว็บพนัน-ซื้อขายตำแหน่ง
'บิ๊กโจ๊ก' เข้าแจง 'กมธ. การกฎหมายฯ สว.' ซัดตำรวจซื้อขายตำแหน่ง เป็นเรื่อง 'เลวระยำ' ลั่น ถ้าเราไม่ส่งเสริม ลูกน้องก็ไม่กล้าทำ ชี้ จากคนไร้อำนาจ พอขึ้นมาก็เอาหมดทุกอย่าง


