ศาลแพ่ง สั่งจำหน่ายคดีกะเหรี่ยงบิลลี ที่เมียกับพวกยื่นฟ้องกรมอุทยานฯกับพวก เรียกค่าเสียหายกว่า 44 ล้าน ระบุให้รอผลคดีอาญาถึงที่สุดก่อน จึงนำคดีแพ่งขึ้นมาพิจารณาใหม่
21 ก.พ.2568 - ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดีดำ พ1459/2567 ที่นางไพเราะจี รักจงเจริญ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี กับพวกรวม 7 คนเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นจำเลยความผิดฐานละเมิด ตามพ. ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539 ที่นางไพเราะจี กับพวกนำคดีมายืานฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่4 เมษายน 2567
กรณีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯได้กระทำการละเมิดสิทธิในชีวิตและเสรีภาพและเสรีภาพของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ โดยจับกุมและควบคุมตัวนายพอละจีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์ทั้งเจ็ดได้รับความเสียหายทั้งทางทรัพย์สินและจิตใจ ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 26,732,340 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 (วันกระทำละเมิด) ถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 เป็นเวลา 6 ปี 11 เดือน คิดดอกเบี้ยเป็น 13,867,385 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีนับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 2 ปี 11 เดือน คิดเป็นเงิน3,898,455 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 44,498,155 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคดีอาญาก่อน
ขณะที่ทนายโจทก์ทั้งเจ็ดแถลงว่ามีพยานที่จะสืบในวันนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศและเป็นพยานที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญแห่งคดี ส่วนทนายจำเลยแถลงคัดค้านว่าพยานดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นแห่งคดีนี้ จึงเห็นควรงดสืบพยานในวันนี้ และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 การพิจารณาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงในคดีอาญา โจทก์ทั้งเจ็ดฟ้องจำเลยในเหตุความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อคดีอาญายังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่สามารถพิจารณาคดีนี้ได้ จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุด แล้วจึงยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาจำคุก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเวลา 3 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีที่นายชัยวัฒน์ ไม่นำตัวนายบิลลี่ และขวดน้ำผึ้งป่าของกลาง ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ให้ยกฟ้อง และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในประเทศที่เสรีภาพดังขึ้นทุกวัน แต่เสียงของมารยาทเบาลงเรื่อย ๆ
แผ่นดินไทยในยุคนี้เต็มไปด้วยเสียงของการแสดงออก ใคร ๆ ก็พูดได้ คิดได้ โพสต์ได้ และเชื่อว่าการส่งเสียงของตนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย
กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงป้อง 'อังคณา' ขอทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงเรียกร้อง รัฐบาล-หน่วยงาน คุ้มครองปัญหาข่มขู่คุกคาม ป้อง "อังคณา" เป็นเพียงผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิดใด ๆ ขอ ปชช. อย่าปฏิเสธเรื่องสิทธิมนุษยชน หวั่น เสียเปรียบในเวทีโลก วอน ทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ
‘อังคณา’ร้องตร.ขอคุ้มครอง
"สว.อังคณา" ควง "สุณัย" ยื่นขอ ผบ.ตร.นำตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตจากเอฟซี "กัน จอมพลัง" ยันเป็นคนไทย รักชาติไม่น้อยไปกว่าใคร
‘สว.อังคณา-สุณัย’ ยื่นขอ ผบ.ตร.ส่งตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย
นางอังคณา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผบ.ตร.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ตนถูกคุกคามทางสื่อออนไลน์ โดยมีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตต่อตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงนายสุณัย ตั้งแต่หลังจากไปออกรายการดังหลายรายการ หลังจากนั้นแฟนคลับของ “กัน จอมพลัง” ก็โจมตีตน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ร้องกรรมการสิทธิฯ กรณีข่มขู่-คุกคาม ‘อังคณา นีละไพจิตร’
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กรณีการข่มขู่


