
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ชื่อ fha_arjima” รองลงมาคือเรื่อง “เจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทย ติดต่อหาประชาชน ผ่านเบอร์โทรศัพท์” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ – แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
21 ก.ค. 2568 – นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 12 – 18 กันยายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,005,202 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 795 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 763 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 31 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 210 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 91 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ชื่อ fha_arjima
อันดับที่ 2 : เรื่อง เจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงไทย ติดต่อหาประชาชน ผ่านเบอร์โทรศัพท์
อันดับที่ 3 : เรื่อง ติดต่อทำธุรกรรมการเงิน กับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ได้ทางไลน์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ
อันดับที่ 4 : เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ PEA E-Service โดยใช้ไลน์ไอดี pea1794
อันดับที่ 5 : เรื่อง OR เปิดโอกาสร่วมลงทุนหุ้นโออาร์ อเมซอน เริ่มต้นเพียง 1,260 บาทต่อหน่วย
อันดับที่ 6 : เรื่อง เพจเฟซบุ๊ก วีนัส ทำใบขับขี่ได้ทุกชนิด ไม่ต้องอบรม ไม่ต้องสอบ
อันดับที่ 7 : เรื่อง ธนาคารออมสิน เปิดให้ขอสินเชื่อ ผ่านเพจ สินเชื่อ ออมสิน
อันดับที่ 8 : เรื่อง เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ใช้เบอร์ส่วนตัวโทรสอบถามข้อมูลลูกค้า
อันดับที่ 9 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนทรัพย์จากมิจฉาชีพ ผ่านเพจ Impact Assistance Office
อันดับที่ 10 : เรื่อง ออมสินปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ชื่อ user9720241871800
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับโครงการสินเชื่อธนาคารรัฐ และการให้บริการของหน่วยงานรัฐ รวมถึงการชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ชื่อ fha_arjima” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ และขอชี้แจงว่า TikTok ชื่อ fha_arjima เป็นมิจฉาชีพ ซึ่งได้เปิดบัญชีปลอมอ้างปล่อยสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย สำหรับบัญชีดังกล่าวยังแอบอ้างนำโลโก้ของธนาคารกรุงไทยไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพราะธนาคารไม่มีนโยบายปล่อยกู้สินเชื่อผ่านบัญชี TikTok หรือสื่อโซเชียลใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร 0-2111-1111
นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีอี เตือนภัย 'มิจฉาชีพ' ลวงทำ 'ใบขับขี่ออนไลน์' ระวังสูญเงิน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน” รองลงมาคือเรื่อง “ก.ล.ต. เปิดแพลตฟอร์มลงทุนใหม่ ให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร”
ดีอี เตือนภัย 'โจรออนไลน์' อ้าง SET หลอกลงทุน ‘หุ้นทองคำ’ ระวังสูญเงิน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ฮั่วเซ่งเฮง เสนอขายหุ้น SET50 รับปันผลเฉลี่ย 532-5,300 บาท/วัน ผ่านเพจ Gold M0dern ShareHolders” รองลงมาคือเรื่อง “PTT ฉลองครบรอบ 45 ปี มอบสิทธิ์เติมน้ำมันฟรี 200 บาท” โดยขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ดีอี - ตร. เปิดเกมรุกกวาดล้างสแกมเมอร์
“ไชยชนก” เปิดเกมรุก ดีอี - ตร. ร่วมผนึกกำลัง ลุยกวาดล้างสแกมเมอร์ เผยทั่วโลกตระหนัก ยกระดับ Cybercrime เป็น“วาระแห่งโลก”
เตือนภัย ‘มิจฉาชีพ' เปิดบัญชี FB ปลอมอ้าง ‘ตลท’ เปิดลงทุนหุ้น-กองทุนทองคำ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ฮั่วเซ่งเฮง เปิดให้เข้าร่วมซื้อจองหุ้น SET50 และกองทุนทองคำ ผ่านเพจ Hua Seng Heng Index Futures” รองลงมาคือเรื่อง “กฟภ. โทรติดต่อประชาชนให้แอดไลน์ เพื่อรับเงินค่าประกันมิเตอร์คืน” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ดีอี เตือนภัย ‘โจรออนไลน์’ อ้างกรมการขนส่งฯ เปิดรับทำ ‘ใบขับขี่’ ระวังสูญเงิน
ดีอี เตือนภัย “โจรออนไลน์” อ้างกรมการขนส่งฯ เปิดรับทำ “ใบขับขี่” ผ่านเฟซบุ๊ก ระวังสูญเงิน – ข้อมูลส่วนบุคคล 14 ก.ย. 2568 - นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 5 – 11 กันยายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,983 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 807 ข้อความ สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 785 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 21 ข้อความ ช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 216 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 89 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ อันดับที่ 1 : เรื่อง กรมการขนส่ง เปิดรับทำใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเพจ มนฤดี อันดับที่ 2 : เรื่อง OR เปิดขายหุ้นสามัญ ผ่านเพจ โออาร์ คาเฟ่ อาเมซอน ธุรกิจพันล้าน อันดับที่ 3 : เรื่อง OKJ เปิดโอกาสให้ลงทุนหุ้น เปิดให้ซื้อขายผ่าน SET อันดับที่ 4 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อผ่านบัญชี TikTok ชื่อ opopookzr44 อันดับที่ 5 : เรื่อง กฟภ. เปิดให้บริการผ่านไลน์ PEA E-Servies อันดับที่ 6 : เรื่อง ธ.ออมสิน เปิดให้บริการสินเชื่อ ผ่านเพจ Lease it Thailand 99 อันดับที่ 7 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเพจเฟซบุ๊ก SET online อันดับที่ 8 : เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ใหม่ชื่อ PEN Connect อันดับที่ 9 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการผ่านบัญชีไลน์ ฝ่ายบริการออนไลน์KTB อันดับที่ 10 : เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ PEA Smart Plus ให้บริการประชาชน “เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการให้บริการของหน่วยงานรัฐ และโครงการสินเชื่อของธนาคารรัฐ รวมทั้งการชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “กรมการขนส่ง เปิดรับทำใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเพจ มนฤดี” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูล โดยขอยืนยันว่า กรมการขนส่งฯ ไม่มีบริการรับทำใบขับขี่ผ่านช่องทางออนไลน์หรือสื่อโซเชียลใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่ง เพจ มนฤดี, เอกนุช, วรัสยา, มาราตรี เป็นการแอบอ้างสร้างเพจปลอมของมิจฉาชีพ เพื่อมาหลอกลวงประชาชน จึงขอประชาชนอย่าให้ข้อมูลหรือโอนเงินไป หากต้องการทำใบขับขี่หรือต่ออายุใบขับขี่ต้องมาดำเนินการที่กรมการขนส่งฯ เท่านั้น และหากประชาชนพบเห็นโพสต์ลักษณะนี้สามารถแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้ อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด


