ธนาคารหอบเงิน 1 แสน​ มอบเยียวยาหญิงวัย 66 ชาวบุรีรัมย์โดนหมายยึดทรัพย์ผิดคน

ธนาคารที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง และผู้เกี่ยวข้อง นำเงิน 1 แสนบาท มอบชดเชยเยียวยาป้าวัย 66 ชาวบุรีรัมย์ถึงที่บ้าน หลังสำนักกฎหมายที่ได้รับมอบอำนาจทำเรื่องนำยึดทรัพย์จำเลยที่ค้างชำระหนี้ผิดคนผิดบ้าน ด้านป้าและลูกเขยที่เป็นผู้เสียหายพอใจ ที่ธนาคารยอมรับความผิดพลาดและรับผิดชอบ ยันไม่ติดใจเอาเรื่องทั้งแพ่งและอาญา ขอบคุณทุกฝ่ายที่เร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว

11 มี.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้ากรณีนางสมัย พิมเสน อายุ 66 ปี ชาว ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายเกริกโกวิท ชานันโท ลูกเขย ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังจากมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบังคับจ.บุรีรัมย์ นำหมายบังคับคดีเรื่องการยึดทรัพย์บ้านและที่ดิน มาปิดที่ประตูรั้วหน้าบ้าน เมื่อวันที่ (8 มี.ค.65) ที่ผ่านมา พร้อมเอกสารคำพิพากษาศาลที่ระบุว่านางสมัย พิมเสน ตกเป็นจำเลย 1 ใน 5 ที่ถูกธนาคารแห่งหนึ่งเป็นโจทย์ฟ้องให้ชำระหนี้ พร้อมดอกเบี้ยรวมกว่า 12,450 บาท โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนี้ธนาคาร และไม่เคยรู้จักกับจำเลยทั้ง 4 คน น่าจะเป็นการออกหมายผิดบ้านผิดคนมากกว่า จึงเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งทางธนาคารยอมรับว่าเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากธนาคาร ทำเรื่องนำยึดทรัพย์ผิดบ้านและผิดคน เพราะชื่อ สกุลเหมือนกัน และต่อมาทางบังคับคดีจึงได้ถอนหมายยึดทรัพย์ให้กับนายสมัย เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดวันนี้ ตัวแทนจากธนาคารภาค (นครราชสีมา) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังบ้านนางสมัย พิมเสน ผู้เสียหายที่โดนหมายบังคับคดียึดบ้านและที่ดินผิดคน เพื่อนำเงิน 1 แสนบาทไปมอบชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้นำกระเช้าไปมอบเพื่อแสดงความขอโทษด้วย

โดยผู้แทนธนาคารภาคยอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความไม่รอบคอบของเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมาย ที่รับมอบอำนาจทำเรื่องนำยึดทรัพย์ จนทำให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามธนาคารในฐานะเป็นโจทย์ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการขอโทษและมอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย พร้อมจะนำกรณีที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงการทำงานให้รัดกุมมากขึ้น

ขณะที่นางสมัย พิมเสน ผู้เสียหาย และนายเกริกโกวิท ลูกเขย ที่เป็นเจ้าบ้านที่ถูกนำหมายบังคับคดียึดทรัพย์มาปิดหน้าบ้าน ก็บอกตรงกันว่า หลังจากทางธนาคารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ยอมรับในความผิดพลาด พร้อมทำการแก้ไขถอนหมายยึดทรัพย์ และแสดงความรับผิดชอบด้วยการมอบเงินเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็พอใจ และขอบคุณทุกฝ่ายที่เร่งแก้ไขและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

หลังจากนี้ก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องทั้งทางแพ่งและอาญากับหน่วยงานหรือบุคคลใด เพียงแค่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ในการทำงานให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นกว่านี้เท่านั้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม

ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

นายกฯอนุทิน นำแถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน 'สแกมเมอร์ข้ามชาติ' ลั่นต้องขยายผลไม่มีหยุดพักปีใหม่

นายกฯ อนุทิน นำแถลง ยึดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ "เฉิน จื้อ - ก๊ก อาน - ยิม เลียก - เบน สมิธ" พร้อมยึดทรัพย์มูลค่าหมื่นล้านบาท ยันพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่ เดินหน้าขยายผลต่อไม่มีหยุดพักร้อน มอง "เบน สมิธ" โยงคนในรัฐบาล เป็นเรื่องคนรู้จักกันได้ แต่หากเจอหลักฐานถึงใครไม่มีละเว้น