
14 ต.ค. 2565 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยนาทรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็น 3,180 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที ก่อนที่เวลา 06.00 น วันนี้ จะลดระบายลงมาที่อัตรา 3,154 ลบ.ม./วินาที ซึ่งการเพิ่มระบายน้ำเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้น้ำที่ท่วมบ้านบางกระเบียน ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กัดเซาะถนนคลองมหาราช ขาดเป็นทางยาวกว่า 40 เมตร ทำให้กระแสน้ำไหลพัดบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 2 หลัง พังเสียหาย และมีรถยนต์ 1 คัน ที่กำลังขับมาบนถนนตกลงไปในน้ำ ถูกน้ำพัดจมหายไป แต่โชคดีที่คนขับหนีออกจากรถได้ทัน และยังมีชาวบ้านที่พายเรือมาตรงจุดดังกล่าว ถูกกระแสน้ำพัดไปติดคันคลองอีกฝั่ง แต่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้ ขณะที่ชาวบ้านที่หนีน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่บนถนนคลองมหาราชใกล้จุดที่ถนนขาด ต้องรีบขนย้ายเต้นท์ รถยนต์ และทรัพย์สิน หนีออกไปจากจุดดังกล่าว

นางสมทรง ชูแช่ม อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกน้ำพัดได้รับความเสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดกลางดึก น้ำได้กัดเซาะถนนขาด ทำให้กระแสน้ำที่ไหลแรง ไหลผ่ากลางบ้านตนไปยังคลองมหาราช ทำให้บ้านพังเสียหาย ทุกคนในบ้านตื่นตกใจ รีบช่วยกันพายายอายุ 90 ปี หนีออกมาจากบ้าน ไม่ทันได้เก็บข้าวของใดใด เพราะน้ำไหลแรงมาก ตอนนี้กระแสน้ำยังไหลแรงไม่หยุด กลัวบ้านจะพังลงมาทั้งหลัง จึงอยากให้หน่วยงานรีบมาปิดถนนขาด ชะลอความแรงของน้ำ
ขณะที่ นายสพโชค แช่มใจ อดีตกำนัน ต.ชีน้ำร้าย จ.สิงห์บุรี เมื่อรู้ว่าถนนคลองมหาราชขาด จึงรีบมาดู และเล่าเหตุการณ์ว่าขณะที่ถนนค่อยๆ พัง มีรถยนต์ขับผ่านมา จึงตกลงไปในน้ำ แต่คนขับหนีออกมาได้ รวมทั้งมีเรือชาวบ้านพายมา ก็ถูกกระแสน้ำพัดไป แต่ก็ขึ้นจากน้ำได้ ที่มาดูถนนขาด เพราะจะได้กลับไปแจ้งให้ชาวบ้าน ต.ท่างาม ต.ชีน้ำร้าย จ.สิงห์บุรี ให้เตรียมตัวรับน้ำ เพราะน้ำจากคลองมหาราชจะไหลไปเพิ่มตรงจุดที่คันคลองมหาราชขาดใกล้ประตูบางโฉมศรี จะทำให้น้ำหลากเข้าท่วมในพื้นที่ได้
ด้าน นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอสรรพยา กล่าวว่า ขณะนี้ชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการ นำบิ๊กแบ็กและเสาเข็ม เข้าไปซ่อมแซมถนนที่ขาด เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำ และลดปริมาณน้ำไหลเข้าคลองมหาราช เพราะหากน้ำในคลองมหาราชเพิ่มมากขึ้น จนล้นคันคลองอีกด้าน อาจทำให้คันคลองพังทลาย และน้ำจะหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านกล้วย ต.เขาท่าพระ ต.เสือโฮก อ.เมืองชัยนาท ซึ่งจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ขยายวงกว้างมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ เวลา 06.00 น. น้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 3,019 ลบ.ม./วินาที ลดลง 40 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำ 3,154 ลบ.ม./วินาที ลดลง 15 ลบ.ม./วินาที น้ำเหนือเขื่อน อ.เมืองชัยนาท ลดลง 5 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.66 เมตร(รทก น้ำท้ายเขื่อน อ.สรรพยา ลดลง 3 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.36 เมตร (รทก.).
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น ยอดดอยหนาวจัด ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ
“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร
เรื่องราวทีมงานด่านหน้าของทรู ที่ทุ่มเททำงานด้วยหัวใจ เพื่อให้ทุกสัญญาณเชื่อมต่อกันในวิกฤตอุทกภัยภาคใต้
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและชีวิตผู้คน แต่ยังตัดขาดการสื่อสารในหลายพื้นที่ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีทีมงานด่านหน้าของทรูที่ทุ่มเททำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ไม่เพียงดูแลเครือข่าย แต่ยังทำให้ทุกสัญญาณยังสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถติดต่อ รับข่าวสาร และส่งความห่วงใยถึงกันได้ในช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุด
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-2 องศา ใต้ฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น
ธปท.-สมาคมแบงก์ออกมาตรการเพิ่มเติม ช่วยลูกหนี้น้ำท่วมใต้
‘ธปท.’ และ ‘สมาคมธนาคารไทย’ ร่วมผลักดันมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ชูพักชำระเงินต้น-ยกเว้นดอกเบี้ย ไม่เกิน 12 เดือน ในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง (ระดับ4)
ประกาศฉบับ 26 เตือน 7 จ.ใต้ ฝนตกหนักมาก เรือเล็กงดออกฝั่ง
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2568) ฉบับที่ 26 โดยมีใจความว่า

